ศุภาลัย เปิดเกมขอซื้อบริษัทมั่นคงเคหะการ

ศุภาลัย เดินหน้าขอซื้อหุ้นบริษัท มั่นคงเคหะการ ทั้งหมดโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ขณะที่ ประทีป ตั้งมติธรรม  เผยการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะเป็นการร่วมมือทางธุรกิจแบบ WIN-WIN

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 มีมติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 4.10 บาท

ทั้งนี้ เหตุผลที่ศุภาลัยมีความสนใจในการทำ VoluntaryTender Offer เนื่องจากบริษัท มั่นคงเคหะการ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจต่างไปจากธุรกิจที่ศุภาลัยดำเนินการอยู่ อาทิเช่น คลังสินค้า ธุรกิจสนามกอล์ฟ เป็นต้น และมีที่ดิน Land Bank หลายแปลงอยู่ในทำเลที่ดี มีต้นทุนที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่ดินในปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะพัฒนาให้เติบโตในอนาคต อีกทั้งเป็นการขยายการลงทุนไปในทำเลหรือกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างจากโครงการของศุภาลัยในปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ศุภาลัยมีความพร้อมทางด้านการเงินสูง เพราะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านยอดขาย ผลประกอบการ และมีกระแสเงินสดที่ดีจากภาระหนี้ไม่สูงมาก เนื่องจากมีการเพิ่มทุนไปเมื่อปีที่ผ่านมาและมีต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าร้อยละ 3 จึงมั่นใจได้ว่า การทำ VoluntaryTender Offer ในครั้งนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจแบบWIN-WIN ทั้งศุภาลัยและมั่นคงฯ

นอกจากนี้ ศุภาลัยยังสามารถช่วยปรับลดต้นทุนการพัฒนาที่ดินและต้นทุนด้านการเงินของมั่นคงฯ และทำให้กำไรรวมเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งการลงทุนนี้จะคล้ายกับแนวทางการลงทุนโครงการในประเทศออสเตรเลียที่ศุภาลัยร่วมบริหารเชิงนโยบายเป็นหลัก

ก่อนหน้านี้ นายประทีป ได้ทยอยซื้อหุ้นของบริษัท มั่นคงเคหะการ มาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ในสัดส่วน 11.29% สูงกว่าผู้ถือหุ้นอันดับ 2 อย่าง บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) ที่มีสัดส่วน 9.78 และอันดับ 3 บริษัท ซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด ที่มีหุ้นในสัดส่วน 9.07% (กลุ่มฟินันซ่ามีหุ้นรวมกันประมาณ 30-35%) โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายประทีปให้เหตุผลในการซื้อหุ้นของบริษัท มั่นคงเคหะการ ว่า การเข้าซื้อหุ้นบริษัท มั่นคงเคหะการเพิ่มนั้นเป็นการลงทุนส่วนตัว เนื่องจากตนเองมีเงินสดเหลืออยู่ในมือ และมองว่าราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บริษัท มั่นคงเคหะการ มีนายชวน ตั้งมติธรรม ซึ่งเป็นพี่ชายของนายประทีปเป็นกรรมการผู้จัดการ โดยที่กลุ่มของนายชวนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก่อนที่ขายให้กับกลุ่มฟินันซ่าในช่วงกลางปี 2558 โดยที่นายประทีป ก็เคยทำงานอยู่กับนายชวนที่บริษัทมั่นคงเคหะการ ก่อนที่จะแยกตัวมาก่อตั้งบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ในปี 2532 ขณะที่แหล่งข่าวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้ความเห็นว่า การขอซื้อหุ้นของบริษัท มั่นคงเคหะการ ครั้งนี้ เป็นเรื่องของธุรกิจล้วนๆ เพราะ1.ราคาหุ้นของมั่นคงเคหะการต่ำกว่า Book Value และ ต่ำกว่าราคาที่นายชวนขาย และเป็นการกระจายการลงทุนเหมือนที่ศุภาลัยทำในต่างประเทศ แต่ง่ายกว่าเพราะเป็นการลงทุนในประเทศ ขณะเดียวกันถ้าศุภาลัยสามารถเข้าไปและปรับปรุงการดำเนินงานจะทำให้มูลค่าดีขึ้น คงไม่ได้เป็นการทวงคืนสมบัติเก่าของพี่ชายแต่อย่างใด