ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 การแข่งขันบนเวทีแรกของปี 2561 ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของทีมงาม Baania มีข้อสังเกตที่พอจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งทางฝั่งผู้ประกอบการ และฝั่งผู้ซื้อ ได้พอประมาณดังนี้
1.คอนโดมิเนียมยังเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจมากที่สุด แต่ก็ให้จับตาที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ใกล้สถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายต่างๆ จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในสถานการณ์ที่คอนโดมิเนียมในเมืองมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ โดยในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งนี้ มีจำนวนบ้านแนวราบเปิดตัวและเสนอขายเพิ่มมากขึ้น
2.การแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับที่รุนแรง และเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อบ้านในขณะนี้ โปรโมชั่นแรงๆ ในงาน เช่น ให้อยู่ฟรีนาน 4 ปี ของ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ หรือ โปรฯดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี ของ บริษัท เจ้าพระยามหานคร และยังมีอีกหลายบริษัทที่ให้อยู่ฟรี 1-2 ปี โดยร่วมกับสถาบันการเงิน ถือว่าเป็นโปรฯที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้ออยู่พอสมควร และสะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันเพื่อระบายสต๊อกบ้านและคอนโดพร้อมอยู่ ยังคงมีอยู่ต่อไป
3.นอกจากเรื่องของการให้อยู่ฟรี เรื่องของการลด แลก แจก แถม ถือเป็นโปร พื้นฐานที่ผู้ประกอบการมีนำเสนอให้กับผู้ซื้อในงาน และคาดว่า เกือบทุกโปรฯจะยังถูกนำไปใช้ต่อหลังจบงาน เพื่อติดตามลูกค้า หรือเพิ่มยอดขายในช่วงไตรมาสแรกให้ได้มากที่สุด ก่อนเข้าสู่ไตรมาส 2 และการแข่งขันจะลากยาวไปจนถึงก่อนเข้าฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ตลาดช่วงนี้จึงยังเป็นของผู้ซื้อ
4.แม้ปริมาณคนที่เดินชมงานจะไม่มากถึงขนาดแน่นขนัด หรือน้อยจนถึงขั้นโหรงเหรง แต่ก็ถือว่า เป็นผู้ซื้อตัวจริง ที่เป็นเรียลดีมานด์ที่จับต้องได้ มีทั้งมากันเป็นคู่ ชาย-หญิง ชาย-ชาย หญิง-หญิง ซื้อเพื่อแยกจากครอบครัว หรือมาเป็นครอบครัว พ่อ-แม่ ซื้อให้ลูก หรือซื้อเพื่อรองรับการขยายครอบครัว กลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุน ยกล๊อต ยกชั้น ซึ่งนำขบวนโดยบรรดาโค้ช และกูรูด้านการลงทุนต่างๆ ดูจะลดมนต์ขลังลง ผู้ซื้อที่เป็นเรียลดีมานด์ ทำให้งานในครั้งนี้มียอดขายที่ไม่น่าผิดหวัง
5.นอกจากการแข่งขันในฝั่งของผู้ขายจะรุนแรงแล้ว สายธนาคารและสถาบันการเงินนั้นดูจะรุนแรงไม่แพ้กัน นอกจากการจับมือกับผู้ประกอบการทั้งในงาน นอกงานเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนสบายๆ ล้านละ 1,500-2,000 บาท ยังมีการเสนอแคมเปญดอกเบี้ยต่ำคงที่ เพื่อจูงใจลูกค้าในภาวะดอกเบี้ยยุคขาขึ้น ส่วนสินทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงิน หรือ NPA ก็แข่งรุนแรง และเป็นทางเลือกในทำเลที่หาบ้านมือหนึ่งไม่ค่อยได้ หลายแห่งพยามเร่งขาย เพื่อจะได้ลดภาระหลังจากพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประกาศใช้ในปี 2562
นายวรัทภพ แพทยานันท์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 38 กล่าวว่า จากการจัดงานทั้ง 4 วัน คาดว่าจะมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในงานจำนวน 4,000 ล้านบาท และเชื่อว่า ผู้ประกอบการจะยังคงอัดโปรโมชั่นต่อเนื่องเพื่อตามปิดการขายลูกค้าหลังจบงาน ทำให้ยอดขายหลังงานจะเป็นไปตามเป้าที่คาดหวังคือประมาณ 1-2 เท่าของยอดขายในงาน นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินต่างๆ ก็เป็นไปอย่างเข้มข้น ทำให้ยอดปล่อยกู้ในงานมีจำนวนประมาณ 14,000 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าเท่าตัวจากการจัดงานครั้งที่แล้วที่มียอดปล่อยสินเชื่อประมาณ 7,000 ล้านบาท
"ยอดการตัดสินใจซื้อดีขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมาและเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์มากว่านักลงทุน ถือว่างานนี้มียอดขายที่เกินกว่าที่คาดหมายไว้ ซึ่งน่าจะมาจากปัจจัยหลายประการ ทั้งจากการที่สภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินกู้ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากนัก ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา การที่ผู้ประกอบการนำโครงการใหม่มาเปิดตัว เปิดพื้นที่ทำเลใหม่ ตลอดจนโปรโมชั่นที่หลากหลายรูปแบบอาทิเช่น ส่วนลด ของแถม ฟรีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการให้อยู่ฟรีได้หลายปี เป็นต้น อีกทั้งสถาบันการเงินยังนำแพ็คเกจสินเชื่อมานำเสนอเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น" นายวรัทภพกล่าว
สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจองซื้อภายในงานมากที่สุด 3 ลำดับแรกได้แก่ คอนโดมิเนียม รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ ขณะที่ผลสำรวจผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานพบว่า โครงการที่อยู่อาศัยที่สนใจมากที่สุด ได้แก่ บ้านเดี่ยวคิดเป็น 42.56% รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม 31.69% ทาวเฮ้าส์ 15.31% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝดและอื่นๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ผู้เข้าชมงานกว่า 35.04% อยู่ในช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมา 32.47% อยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี และ15.14% อยู่ในช่วงอายุ 41-50 ปี
ด้านรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท 35.37% มีรายได้ ระหว่าง 30,000 – 50,000 บาท 26.09% และมีรายได้เกิน 50,000 บาท 12.94% ระยะเวลาที่ต้องการซื้อในอนาคต 1-2 ปี อยู่ที่ 20.32% ระยะเวลา 6-12 เดือน 19.27% และซื้อภายในงาน 13.40% ด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทพบว่า ผู้เข้าชมงาน 27.33% ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ ราคา 2-3 ล้านบาท 26.46% ต้องการระดับ 1-2 ล้านบาท 18.96% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท และมีเพียง 6.25% ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ในฐานะสมาคมที่เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน กล่าวว่า แต่ละบริษัทที่มาร่วมออกงานมหกรรมบ้านและคอนโดในครั้งนี้ น่าจะได้ยอดขายตามเป้าที่วางไว้ เพราะผู้ซื้อที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นคนที่ต้องการซื้อจริง และคาดว่า ผู้ประกอบการจะยังคงใช้โปรโมชั่นต่อเนื่องไปอีก เพื่อตามเก็บลูกค้าหลังจบงาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดให้เกิดความคึกคักไปอีก 2-3 เดือน และคาดว่าในไตรมาสแรกตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้