หมดปัญหาเรื่องฝนสาดเข้าบ้านด้วย "รางน้ำฝน"
ย่างเข้าหน้าฝนทีไร ฝนก็มักจะหอบปัญหามาให้ท่านเจ้าของบ้านปวดหัวอยู่เสมอ การทำรางน้ำฝนให้กับบ้านเราหรือการติดตั้งรางน้ำฝนก็อาจเป็นทางออกที่ดี เพราะบางทีก็มีน้ำรั่วเข้ามาในบ้าน สนามหญ้าและต้นไม้ก็เสียหายเพราะน้ำขัง ไหนฝนจากหลังคายังกระเด็นไปโดนบ้านข้างๆให้ทะเลาะกับเพื่อนบ้านอีก งั้นลองสำรวจบ้านของคุณดูว่าได้ติดตั้งรางน้ำฝนหรือยัง หรือถ้าใครที่ติดตั้งรางน้ำฝนมานานแล้ว รางน้ำเก่าเริ่มสภาพดูไม่ได้ ระบายน้ำก็ไม่ทันใจ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนให้เป็นของใหม่หรือยัง?
ทำไมต้องติดตั้งรางน้ำฝน?
สมัยก่อนบ้านจะติดตั้งรางน้ำไว้สำหรับรองน้ำฝนเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน แต่จริงๆแล้วรางน้ำมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด อาทิ ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำฝนและสิ่งสกปรกจากหลังคาไหลลงมาเปื้อนผนัง หน้าต่าง ประตู วงกบ และบริเวณรอบๆบ้าน ช่วยยืดอายุการใช้งานหน้าต่างประตูของบ้านและป้องกันไม่ให้ผนังซีดเร็วซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาบ้าน ช่วยไม่ให้น้ำรั่วและไหลย้อนเข้ามาจากทางหลังคา ช่วยป้องกันน้ำฝนไม่ให้กระเด็นไปยังบ้านข้างเคียง ช่วยรักษาหน้าดินและสนามหญ้า รวมทั้งป้องกันต้นไม้และบ่อปลาไม่ให้โดนน้ำฝนโดยตรง ช่วยป้องกันปัญหาดินทรุดซึ่งอาจจะทำให้บ้านพังหรือทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ ดังนั้นถ้าพอจะมีงบประมาณสักหน่อย เราขอแนะนำให้คุณติดตั้งรางน้ำฝนดีกว่า รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ
รางน้ำฝนมีกี่ประเภท?
รางน้ำฝนผลิตมาจากหลายวัสดุด้วยกัน แต่ละวัสดุเองก็มีเกรดที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อคุณภาพและราคา โดยสามารถแบ่งประเภทกว้างๆได้ดังนี้
- รางน้ำฝนสังกะสีหรือรางน้ำเหล็กชุบสี รางน้ำฝนสังกะสีเป็นรางน้ำที่ได้รับความนิยมในสมัยก่อน รวมทั้งบ้านในชนบทก็ยังมีการใช้งานกันอยู่ เพราะมีราคาถูก แต่มีข้อเสียคือสังกะสีสามารถเป็นสนิทเป็นผุง่าย ถ้าเป็นแบบพ่นสี สีก็จะหลุดลอกออกมาเมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง
- รางน้ำฝนสแตนเลส เป็นรางน้ำที่ใช้ในโรงงาน และบ้านจัดสรรเกรดเกรดพรีเมียม มีราคาสูง สวยงาม ดูหรูหรา อายุการใช้งานยาวนาน บางรุ่นมีฝาปิดด้านบน ช่วยให้ใบไม้หรือขยะไม่ติดอยู่ที่รางน้ำ
- รางน้ำฝนอลูมิเนียม เป็นรางน้ำที่มีคุณภาพสมบัติทนต่อการกัดกร่อนสูง น้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถรีดเป็นเส้นยาวๆได้ ทำให้ไม่มีรอยต่อ แต่ราคาก็สูงในระดับหนึ่ง
- รางน้ำฝนไวนิล ผลิตจากพลาสติกสำหรับงานใช้ภายนอก เป็นอีกวัสดุที่กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ไม่ลามไฟ ไม่เป็นสนิม มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลายเกรดหลายราคาในตลาด แต่ต้องมาต่อประกอบรางน้ำเอง
- รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส เป็นรางน้ำที่นิยมติดตั้งกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้สารเคมี แต่ปัจจุบันมีการดัดแปลงนำมาใช้กับบ้านทั่วไป มีคุณสมบัติไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี ไม่ผุกร่อน ไม่เป็นสนิม มีราคาค่อนข้างแพง และการติดตั้งต้องใช้ช่างเฉพาะงาน
เลือกรางน้ำฝนอย่างไรดี
จากที่ได้เล่าไปแล้วว่ารางน้ำฝนมีด้วยกันหลายประเภท หลายขนาด แล้วจะเลือกรางน้ำฝนจากอะไรดี อาจจะลองเลือกพิจารณาดังนี้
- ราคารางน้ำและราคาค่าติดตั้ง น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่หลายคนให้ความสำคัญมากที่สุด อาจจะลองสำรวจราคาจากร้านติดตั้งรางน้ำฝนเพราะต้องคิดรวมไปถึงค่าแรงติดตั้ง หรือถ้าอยากติดตั้งเองก็ไปดูราคารางน้ำฝนสำเร็จรูปก่อนก็ได้
- ความคุ้มค่า วัสดุแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานต่างกัน ถ้าอยากซื้อครั้งเดียวจบ อาจจะยอมเสียเงินซื้อที่เกรดดีหน่อย แม้ว่าจะแพงกว่าแต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า รวมทั้งเรื่องการการดูแลรักษาที่แตกต่างกันในแต่ละวัสดุ
- พื้นที่หลังคา ลองดูพื้นที่หลังคาว่ามีขนาดใหญ่มากน้อยแค่ไหน อาจจะเลือกขนาดรางน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ซึ่งในตลาดจะมีขนาด 4 นิ้ว 5 นิ้ว 6 นิ้วให้เลือกก็อาจจะเลือกที่ 5-6 นิ้ว และถ้าหลังคามีระยะยาวมากๆต้องมีรูระบายน้ำหลายจุดกระจายกันเพื่อให้ระบายน้ำได้ทัน
- การติดตั้ง รางน้ำบางประเภทถ้ามีอุปกรณ์ครบก็สามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ช่างหากเป็นหลังคาที่อยู่ต่ำหรือเป็นพวกหลังคาโรงจอดรถ อย่างไรก็ตามหากเป็นบ้านสองชั้นควรเรียกใช้ช่างจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัย
- พื้นที่ติดตั้ง โดยปกติแล้วการติดตั้งรางน้ำฝน จะติดตั้งกับเชิงชายหรือไม้ปิดนกโดยการใช้ตะปูหรือน็อต แต่ถ้าไม่ได้ติดเชิงชาย รางน้ำบางประเภทก็ใช้แขวนกับจันทันได้เลย เช่น รางน้ำฝนสังกะสี
- ความสวยงาม ควรเลือกประเภทของรางน้ำและสีสันของรางน้ำให้เข้ากันกับสไตล์ของบ้าน รางน้ำบางประเภทออกแบบมาได้สวยเหมือนบัวบ้านที่มีหลายรูปแบบให้เลือก
ขั้นตอนติดตั้งรางน้ำฝน
เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ติดตั้งว่ามีความพร้อมหรือไม่ ตรวจดูที่เชิงชายหรือไม้ปิดนกที่จะติดรางน้ำว่ามีความแข็งแรง ยึดแน่น ถ้าต้องมีการรื้อรางน้ำเก่าที่ผุผัง ให้ระวังตอนรื้ออย่าให้กระทบกับโครงสร้างหลังคาเดิม จากนั้นให้ทำการวัดระดับน้ำระหว่างหัวท้ายของรางน้ำ แล้วทำการปรับระดับความลาดเอียง ก่อนจะทำการตีเต๊าเพื่อสร้างแนวเส้นที่จะติดตั้งรางน้ำ แล้วจึงทยอยติดตั้งตะขอแขวนราง ให้มีระยะห่างตามที่คู่มือผลิตภัณฑ์บอกซึ่งแต่ละรุ่นจะมีระยะไม่เท่ากัน โดยทั่วไปจะเว้นห่างกันประมาณ 60-80 เซนติเมตร แล้วจึงวางรางน้ำมาล็อกกับตะขอแขวนราง หากเป็นรางน้ำไวนิลที่ต้องมีการประกอบรางน้ำก็ใช้ซิลิโคนช่วยเชื่อมประสานระหว่างรอยต่อ จากนั้นก็ให้ติดตั้งท่อน้ำกับผนังหรือเสาด้วยตัวยึด ตรวจดูว่าแข็งแรง ยึดท่อกับอุปกรณ์ได้แน่นสนิทก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
สุดท้ายอาจจะตรวจสอบการติดตั้งรางน้ำฝนด้วยการมองดูภาพรวมว่ารางน้ำได้ยึดติดกับไม้เชิงชายได้ระดับ ไม่มีลักษณะแอ่นงอ แล้วให้ลองทดสอบด้วยการฉีดน้ำขึ้นหลังคาแล้วดูว่ามีการระบายน้ำเป็นปกติ
เป็นยังไงกันบ้างครับ คิดว่าน่าจะรู้จักกับรางน้ำฝนมากขึ้นไม่มากก็น้อย ใครที่ยังไม่ได้ติดตั้งรางน้ำฝนที่บ้านต้องรีบแล้วนะ ถ้าเจอฝนตกหนักๆจะได้รับมือได้ทัน ให้ฝนช่วยสร้างบรรยากาศดีๆเวลาพักผ่อนอยู่บ้าน อย่าให้มันมาสร้างปัญหากวนใจเราเลยครับ
และสำหรับคนที่กำลังมองหาไอเดียการแต่งบ้าน Baania เรามี Baania Decor ที่จะช่วยให้คุณได้ไอเดียดีๆในการแต่งบ้านได้ที่นี่ ลองกดเข้ามาใช้งานกันได้เลย
