คมนาคมกางแผนดันแหลมฉบังขึ้นเบอร์ 2 ท่าเรืออาเซียน เร่งเครื่องลงทุน 1.4 แสนล้าน

จังหวัดชลบุรีนอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ยังมีท่าเรือแหลมฉบังซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าหลักที่สำคัญของประเทศไทยด้วย และด้วยเหตุนี้กระทรวงคมนาคมจึงได้เสนอแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผลักดันให้ท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นท่าเรือหลักอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ไปพัฒนาท่าเรือเพื่อรองรับพื้นที่ EEC โดยเฉพาะท่าเรือแหลมฉบังที่เป็นแกนหลักในการขนส่งสินค้าทางน้ำของประเทศ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าผลักดันท่าเรือแหลมฉบังให้ก้าวขึ้นสู่ท่าเรืออันดับที่ 2 ของอาเซียน จากปัจจุบันอยู่อันดับ 3 หรือ 4 รองจากท่าเรือของมาเลเซียและท่าเรือ PSA (Port of Singapore Authority) ของประเทศสิงคโปร์ที่ครองอันดับ 1 ของภูมิภาค

ปัจจุบัน กทท.มียอดส่งออกสินค้าผ่านท่าเรือในแต่ละปีอยู่ที่ 9 ล้านตู้ TEU ต่อปี แบ่งเป็นการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ 1.5 ล้านตู้ TEU และขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี 7 ล้านตู้ TEU

ด้านนายมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอาเซียนนั้นมีสาระสำคัญอยู่ 4 ด้าน ประกอบด้วย
1.การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3
2.การพัฒนาท่าเรือชายฝั่ง
3.การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบรางเพื่อเชื่อมท่าเรือ
4.พัฒนาเทคโนโลยีการขนส่งภายในท่าเรือ

โดยเริ่มจากโครงการพัฒนาแหลมฉบังเฟส 3 วงเงิน 1.41 แสนล้านบาท แบ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน 5.7 หมื่นล้านบาท และการบริหารจัดการท่าเรือ 8.4 หมื่นล้านบาท ล่าสุดได้ส่งรายงานสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถพิจารณาเห็นชอบได้

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) ได้สั่งการให้กลับไปศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มปริมาณขนส่งเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือและระบบรางมากขึ้น ให้มีสัดส่วน 30% ของปริมาณขนส่งทั้งหมด คือราวปีละ 6 ล้านตู้ TEU จากเดิมกำหนดไว้ที่ปีละ 3 ล้านตู้ TEU ดังนั้นจึงต้องศึกษาเพิ่มเติมว่า หากปรับแบบแล้วจะต้องขยายวงเงินลงทุนหรือไม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนดำเนินการร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) ที่จะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม และก่อนประกาศเชิญชวนเอกชนและเปิดประมูลโครงการในเดือน มิถุนายน-กรกฏาคม 2561

ที่มา : posttoday
ภาพประกอบ : thairath