ไม่ว่าจะแข่งกันเรื่องไหน ทำเล ราคา สุดท้ายแล้ว ดีไซน์ ก็ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อการตัดสินใจซื้อบ้านอยู่เช่นเดิม
แล้ว ดีไซน์ แบบไหนที่จะโดนใจคนซื้อบ้าน มาฟัง รณชัย ไตรยสุนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาโครงการแนวสูงและออกแบบ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ที่มาบอกเล่า ประสบการณ์และมุมมองเรื่องงานดีไซน์ ที่ไม่ใช่แค่ “สวย” แต่เบื้องหลังความสวยนั้นต้องผ่านกระบวนการคิดให้มากที่สุด เพื่อตอบโจทย์ให้กับคนซื้อบ้านยุคใหม่
กว่าจะเป็น “ดีไซน์ที่ใช่”ไม่ใช่เรื่องง่าย
“การคุยกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด จะทำให้ได้คำตอบที่ใกล้เคียงและถูกใจมากที่สุด บางครั้ง นักออกแบบคิด และดูแล้วว่าสวย อาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการก็ได้”
บ่อยครั้งที่ต้องหาเวลาไปพูดคุยกับลูกค้า รณชัย บอกว่าวิธีนี้ดีที่สุดและพยายามหาเวลาไปเจอกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนออกแบบ หลายครั้งไอเดียต่างๆ ก็ได้มาจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยนั่นเอง
แนวคิดโมเดิร์นการนำธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย กำลังเป็นอีกแนวคิดเพื่องานออกแบบ แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยให้นักออกแบบต้องคิดและพัฒนางานเพื่อการอยู่อาศัยที่สบายมากขึ้น
ยกตัวอย่าง ในต่างประเทศ ด้วยภูมิอากาศหนาวจัดร้อนจัด มักจะเห็นการใช้กระจกเป็นตัวแบ่งความร้อน/หนาว
แต่ในไทยเป็นเมืองร้อน การออกแบบที่เป็น “เนชั่นแนล โมเดิร์น” น่าจะเป็นคำตอบของการอยู่อาศัยมากที่สุด จุดเด่นที่ สวยงาม ไม่ร้อนไป หนาวไป สุขอนามัยก็ได้
“ด้วยความที่ผมเป็นสถาปนิก จบสถาปัตย์มา ก็มีแนวคิดว่าอาคารที่ดี
ทำอย่างไรให้อยู่ได้โดยไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มากเกินไป ยึดเรื่องนี้ เป็นพื้นฐานของการออกแบบ”
การออกแบบบ้านโครงการจัดสรรจะแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย แต่ที่ยังคงเหมือนเดิมและไม่หนีกันนัก เมื่อนึกถึงบ้านจัดสรรก็คือ บ้านที่สร้างในรูปทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา แบบบ้านที่ลงตัว ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องอาหารครัว ที่จอดรถ บันไดขึ้นชั้นสองอยู่ตรงกลาง ห้องน้ำรวมบ้าง แยกบ้าง
แต่สำหรับการดีไซน์เพื่อคนอยู่อาศัยในยุคนี้ อาจต้องมองหาอะไรที่มากกว่านั้น
“บ้านจัดสรรในแบบเดิมๆ อาจไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แล้ว สำหรับผมแล้ว ในการออกแบบบ้านเป็นได้มากกว่าสี่เหลี่ยม จากประสบการณ์ที่ทำงานออกแบบมาและในหลักการแล้ว บ้านที่ออกแบบพื้นที่สี่เหลี่ยมอาจมีข้อจำกัดเรื่องทิศทางลมที่พัดเข้าสู่ตัวบ้านได้ยาก แสงเข้าได้เพียงสองด้าน การระบายอากาศอาจทำได้ไม่ดีนัก”
สิ่งที่คนทำงานด้านออกแบบเริ่มมองคือ การออกแบบบ้านทรงตัวแอล (L- Shape) พบข้อดีที่มากกว่า โดยมีพื้นที่รอบๆ มากขึ้น โอกาสที่แสงหรือลมเข้ามาก็มีมากขึ้น การระบายอากาศ หากออกแบบดีๆ ทำให้ได้พื้นที่รับลมได้ถึงสามด้าน และสี่ด้าน จากนั้นทำหน้าต่างให้เยอะขึ้น นั่นเพราะทิศทางการหมุนของอาคารเราสามารถทำได้ แต่เราบังคับลมไม่ได้ ซึ่งทิศทางจะมาจากทางใต้เป็นหลัก
เมื่อบ้านที่ดีไซน์ออกมาโดยมองถึงการใช้ชีวิตของคนที่อยู่ในบ้านมากเท่าใดก็ยิ่งส่งผลดีต่อสุขอนามัยได้มากเท่านั้น
ในกรณีบ้านเดี่ยว รณชัย แนะว่าทำให้คนออกแบบคิดและสร้างความหลากหลายได้มากกว่าทาวน์โฮม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออก
“ทาวน์โฮม จำเป็นต้องสูงเท่ากันมั้ย เพื่อให้มีลูกเล่นของการอยู่อาศัย อารมณ์เหมือนอยู่คอนโดเตี้ยๆ ทำให้ออกมาเป็นโปรดักท์ที่ชื่อ ดีฟายด์ ขึ้นมา เหมือนบ้านเดี่ยวติดๆ กัน โดยจะมีคอร์ทตรงกลางบ้าน ออกมาระเบียงชั้นสาม นั่งชิลๆ ได้”
โครงการ ดีฟายด์ จะนำแนวคิดเรื่องสแปซ แพลนนิ่ง คิดแบบสถาปนิก เข้ามาใช้กับการทำงาน โดย ดูว่าลูกค้าเป็นคนแบบไหน แต่งงานหรือยัง ลูกกี่คน มีญาติมาอยู่มั้ย ดูว่าลูกค้าหน้าตาอย่างไร จากนั้นจะวิเคราะห์ต่อว่า ชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน
บ้านเนอวานา ก็เช่นกัน ไม่ได้ออกแบบจากคนใดคนหนึ่ง เมื่อพัฒนาแบบบ้านออกมาแล้วจะส่งให้ทีมมาร์เก็ตติ้งดู ฝ่ายขายดู หลายๆ เรื่องเค้าก็คอมเม้นท์ได้น่าสนใจ และเรานึกไม่ถึง เช่น ทำไมไม่มีห้องสำหรับผู้ใหญ่บ้าง เช่น ดับเบิ้ล มาสเตอร์ หรือ ควรมีพื้นที่คอร์ทให้ทุกคนมาแชร์สวนส่วนกลางได้
จากแนวคิดที่กล่าวมาก็นำมาสู่การออกแบบบ้าน ภายใต้คอนเซปต์ Living Revolution โดยมีสองปัจจัยหลัก ก็คือ Modern Living Design บ้านสไตล์ Natural Modern รุ่นใหม่ของเนอวานา ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่อยู่ร่วมกันได้ในหลาย Generation
และ Convenience Lifestyle บ้านทุกหลังจะมี Internet ความเร็วสูงเข้าถึงทุกจุดภายในบ้าน รวมถึง ระบบ Air Control System มีการปรับสภาพอากาศภายในบ้านให้สมดุลตลอดเวลา ลดเรื่องฝุ่นละอองภูมิแพ้ในบ้าน ระบบหมุนเวียนอากาศที่ไม่ดีออกไปด้านนอก
สุดท้าย ไม่ว่าจะดีไซน์แบบไหน รณชัย ย้ำว่า ทุก ๆ เจเนอเรชั่นต้องการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามเทรนด์ของโลกที่เบนเข้าใกล้สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากการตกแต่ง บ้าน คอนโด สวนแนวตั้ง เป็นต้น ที่จะมีให้เห็นมากขึ้นในงานออกแบบที่อยู่อาศัยทั้งปัจจุบันและในอนาคต