โหมลงทุนอสังหาฯใน 'อีอีซี' ชลบุรี-ระยอง ทำเลฮอต
บริษัทอสังหาฯรุกลงทุนในอีอีซีต่อเนื่อง "เอสเตท กูรู" ผุดทาวเฮาส์ เจาะคนทำงานในชลบุรี-ระยอง ขณะที่ "ศุภาลัย" เปิดบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ในชลบุรี
นายสรวุฒิ มานะสมจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเตท กูรู จำกัด กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2561 บริษัทจะเน้นการพัฒนาที่ดินในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยการพัฒนาโครงการของบริษัทฯหลายๆ โครงการ จะหาซื้อที่ดินแถบพัทยาเหนือและกลางเป็นหลัก และยังมีอีกบางส่วนในจังหวัดระยอง เนื่องจากในอนาคตที่ดินในเมืองหลวงมีจำกัด และส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ทำให้เอสเตท กูรู ต้องมองการลงทุนในแถบต่างจังหวัดเป็นหลัก มูลค่าโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 100-500 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นคนในพื้นที่สามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป
นายสรวุฒิ มานะสมจิตร
สำหรับในปีนี้บริษัทจะเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่าประมาณ 880 ล้านบาท ได้แก่ เฟสต่อเนื่องในโครงการวิสทาวน์ เพชรเกษม 91 มีทั้งอาคารพาณิชย์ ราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท และทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท เนื้อที่ 3 ไร่ จำนวน 31 ยูนิต มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 40% โครงการ โครงการวิสทาวน์ พัทยา-เขาตาโล เป็นโครงการขนาดใหญ่เนื้อที่ 24 ไร่ พัฒนาในรูปแบบทาวน์โฮม จำนวน 242 ยูนิต มีทั้งทาวน์โฮมแบบ 1 และ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท และโครงการวิสทาวน์ แม่น้ำคู้-ปลวกแดง จังหวัดระยองพัฒนาในรูปแบบบ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท และทาวน์โฮม ราคา 9.9 แสนบาท รวม 131 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 160 ล้านบาท คาดเริ่มเปิดขายไตรมาส 3 ปีนี้ และจะสามารถปิดการขายสิ้นปี 2561
"ในแต่ละทำเลที่ เอสเตท กูรู เข้าไปพัฒนาโครงการ จะอยู่ในแหล่งงานมีทั้งนิคมอุตสาหกรรม และพนักงานที่ทำงานในบริษัท ซึ่งความต้องการซื้อที่ต้องการอยู่อาศัยมากกว่าจะเลือกลงทุน อย่างเช่น พัทยา โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมีน้อย ทำให้ยังมีซัพพลายในตลาดน้อยมาก แต่คอนโดมิเนียมเต็มพัทยาแล้ว จากการสำรวจจะเห็นว่า บ้านมือสองชั้นเดียวขายได้ตลอด ทำให้โปรดักต์ที่เปิดมาจะขายได้และเป็นที่ต้องการ อีกทั้งลูกค้าที่มาซื้อจะได้กำไรเรื่องของราคาที่ดิน เนื่องจากผลจากการอีอีซี ทำให้ที่ดินปรับสูงขึ้นจาก 2-3 ล้านบาทต่อไร่ เป็น 6 ล้านบาทต่อไร่ บางแปลงถึง 16 ล้านบาท ส่วนปลวกแดง เรามั่นใจเรื่องราคาที่นำเสนอลูกค้า ที่สามารถซื้อได้ง่าย และคุ้มค่ากว่าเช่าอพาร์ตเมนต์"
นายสรวุฒิ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการขายในปีนี้วางตัวเลขไว้ 450 ล้านบาท และจะมียอดรับรู้รายได้ในปีนี้ 200 กว่าล้านบาท ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการขาย อาทิเช่น โครงการวิสดอม อนามัยงามเจริญ โครงการวิสทาวน์ ท่าข้าม-พระราม 2 เป็นต้น
"บริษัทยังมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการอีกประมาณ 28 แปลง ทั้งโซนพระราม 2 กว่า 14 ไร่ บางบอน 4 ไร่ และในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน รวมถึงได้เตรียมงบลงทุนซื้อที่ดินปีนี้อีก 300 ล้านบาท พิจารณาอยู่หลายแปลง เช่น โซนพุทธมณฑล รามอินทรา เป็นต้น ทั้งนี้ แปลงที่จะเลือกพัฒนาจะขนาดไม่ใหญ่ มีเนื้อที่ 10 กว่าไร่ รองรับได้ 100 กว่ายูนิต มีความคล่องในการปิดการขายได้ตามแผนภายใน 18 เดือน".
ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกจะเป็นการพลิกโฉมการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ใหม่ๆ ที่สำคัญอย่างมากส่งผลให้แผนการลงทุนในจังหวัดชลบุรีมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากบริษัทฯ เปิดตัวโครงการ ศุภาลัย พรีโม่ บางแสน ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานั้น ได้รับกระแสตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ล่าสุดเตรียมเปิดโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นเป็นโครงการที่ 9 ในจังหวัดชลบุรีคือศุภาลัย การเด้นวิลล์ ชลบุรี บนพื้นที่โครงการ 23 ไร่ มูลค่าโครงการ 592 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 150-213 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.8 ล้านบาท
Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania
