เราควรจะเตรียมพร้อมอย่างไรในวันอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นคำถามที่วันนี้ทุกคนในสังคมต้องกลับมานั่งคิดถึงการจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบเพื่อมีเงินไว้ใช้หลังเกษียณ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มนับหนึ่งต้องทำอย่างไรไปดูกันครับ
วางแผนทางการเงิน
เริ่มวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่ามีอะไรบ้าง ทั้ง ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าอื่น ๆ ตลอดจนการเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น เพื่อสร้างวินัยในการออมให้กับตนเอง เพราะสมัยนี้การออมเงินมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ยิ่งเริ่มออมเร็วชีวิตก็สบายเร็วยิ่งขึ้น
ส่วนจะฝากแบบไหนอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคน
1. การฝากประจำ เป็นการออมเงินที่มีความเสี่ยงน้อย ระยะเวลาการสะสมส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 3 เดือนไปจนถึง 5 ปี ยิ่งเป็นการฝากเยอะ ฝากนานก็จะยิ่งดี
2. การซื้อกองทุนรวม (RMF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ออกแบบมาเพื่อเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในวัยเกษียณ เน้นการลงทุนในตราสารหนี้และการลงทุนตราสารทุน เช่น หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้นั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่าตราสารทุน
ข้อดีของกองทุนรวมคือนำมาลดหย่อยภาษีได้
3. พันธบัตรรัฐบาล การลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ เน้นการลงทุนระยะยาวมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนน้อยกว่าการซื้อกองทุนรวม (RMF)
4. ประกันชีวิตที่เน้นการออมทรัพย์ การเก็บสะสมเงินออมคู่กับประกันชีวิตในระหว่างที่ส่งเงินประกัน เมื่อครบกำหนดตามสัญญาจะได้รับเงินออมก้อนใหญ่เพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณ
วางแผนการใช้ชีวิต
การวางแผนชีวิตหลังการเกษียณเป็นเรื่องจำเป็นต่อการใช้ชีวิต ทำอย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตดีที่มาพร้อมกำลังซื้อ กลายเป็นโอกาสให้หลายธุรกิจพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองต่อการใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณมากขึ้น อาทิ ธุรกิจ Home Care, ธุรกิจ Nursing Home , ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รองรับผู้สูงวัย
วางแผนดูแลสุขภาพ
อาหารและการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจสำหรับวัยเกษียณ ควรเลือกกินอาหารที่เหมาะสมและดีต่อร่างกายตั้งแต่อายุยังไม่มาก บางครั้งอาจต้องใช้อาหารเสริมเพื่อช่วยบำรุงร่างกายบ้าง
ข้อมูลจาก InterCare Asia 2019 งานที่รวมนวัตกรรม เทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุ วันที่ 11-13 กรกฎาคม 2562 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค