บ้านนี้มีรัก "พลอย-ชิดจันทร์ รุจิพรรณ" คุณแม่คนสวยและรวยมาก

แม้จะหันหลังให้วงการบันเทิงมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่เมื่อไรก็ตามที่โลกโซเชียลพูดถึง "พลอย-ชิดจันทร์ รุจิพรรณ" อดีตนักแสดงสาวลูกแม่ระมิงค์ ทุกคนยังคงนึกถึงฝีไม้ลายมือที่เธอฝากไว้ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ทุกครั้งมีที่อัพเดทเกี่ยวกับเธอ ต่อมอิจฉาของพวกเราก็อดทำงานไม่ได้จริงๆ เพราะสาวพลอยวันนี้ได้ผันตัวเองมาเป็นภรรยาของ คุณเคน ฮุง นักธุรกิจหนุ่มชาวไต้หวัน และคุณแม่ของลูกสุดซ่าทั้ง 4 คน ซึ่งบอกได้เลยว่าบทบาทของเธอในชีวิตจริงช่างดี๊ดีกว่าละครเรื่องไหนๆ ที่เธอเคยเล่นมาเสียอีก

ก็จะไม่ให้ตาร้อนผ่าวๆ ได้อย่างไร เมื่อได้เห็น คุณแม่คนเก่งยังคงความสวยทั้งหน้าตาและรูปร่างเหมือนสมัยเธอยังมีผลงานอยู่ แถมสามีก็สุดน่ารัก เป็นถึงเจ้าของธุรกิจส่งออกผลไม้ไทยไกลถึงเมืองนอก รวมถึงมีคฤหาสน์สุดหรูมูลค่าเหยียบร้อยล้านที่เชียงใหม่ ซึ่งทั้งสองคนตั้งใจปลูกไว้ให้ดวงใจน้อยๆ ทั้ง 4 ดวง ได้มีพื้นที่วิ่งเล่นและใช้ชีวิตด้วยความสุขอย่างเต็มที่

ล่าสุดความน่ารักและอบอุ่นของครอบครัวเธอชนะใจชาวโซเชียลอย่างจัง จนได้รับรางวัล Top Parenting หรือบ้านแสนอบอุ่น จากเวที Influence Asia 2017 ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นรางวัลโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวที่น่าภูมิใจ สำหรับครอบครัวของเธอและประเทศไทยเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นโอกาสที่พิเศษสุดๆ สำหรับแฟนคลับ Baania เมื่อคุณพลอยให้เกียรติเปิดบ้าน พาเราเดินเยี่ยมชมและเก็บภาพสวยๆ ในห้องต่างๆ และที่มุมโปรดของครอบครัวเธอ แถมยังเล่าถึงเรื่องราว กว่าจะมาเป็นบ้านแสนอบอุ่นที่อบอวลด้วยความรักให้ฟังอย่างไม่มีเม้ม!

ขอพื้นที่กว้างๆ ให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่น

คุณพลอยเริ่มเล่าให้ฟังว่า "ก่อนที่พลอยจะเริ่มสร้างบ้านหลังนี้ พลอยกับคุณเคนก็ช่วยกันหา Reference แบบบ้านที่ตัวเองชอบ เมื่อเอาเทียบกันก็เลยรู้ว่าเราชอบบ้านสไตล์โมเดิร์นเหมือนกัน เป็นบ้านทรงเหลี่ยมๆ ยาวๆ เพดานสูง มีสเปซกว้างๆ เพราะเราอยากมีพื้นที่ให้ลูกๆ วิ่งเล่นแบบสบายๆ ประกอบกับย้อนไปเมื่อ 7-8 ปีก่อน เชียงใหม่ก็ยังไม่ค่อยมีบ้านสไตล์โมเดิร์นมากเท่าไร พลอยก็เลยอยากสร้างบ้านแบบนี้



หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องแบบบ้านแล้ว ทั้งสองก็เลือกทำเลของบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ติดกับถนนวงแหวนรอบกลาง ย่านสันผีเสื้อ เหตุผลที่เลือกบริเวณนี้เพราะต้องเดินทางไปโรงงานและต่างจังหวัดบ่อยๆ ซึ่งที่นี้ถือว่าตอบโจทย์การเดินทางมากที่สุด เพราะเป็นถนนขนาด 4 เลน, สว่างและไม่เปลี่ยว, ไม่ติดไฟแดง, รถไม่ค่อยติด, ที่สำคัญใกล้กับโรงเรียนของลูกๆ และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งศูนย์ราชการจังหวัด, มีโชคพลาซ่า และห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

ลงตัวทุกพื้นที่ เป็นได้ทั้งบ้านและที่ทำงาน

เมื่อได้สไตล์บ้านและโลเคชั่นที่ถูกใจแล้ว คุณพลอยและคุณเคนก็ให้เพื่อนที่เป็นสถาปนิกคนเชียงใหม่ช่วยออกแบบบ้านให้ พร้อมกับเชิญซินแสมาดูฮวงจุ้ยเพื่อเสริมชีวิตให้ดีไปอีกขั้น จากนั้นจึงเริ่มก่อสร้างเมื่อประมาณปี 2011 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ก่อนจะเข้าอยู่ในปี 2015

คุณพลอยได้แบ่งพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ของบ้านออกเป็นสัดส่วน ตั้งแต่ประตูรั้วที่เข้ามาจะมีศาลพระพรหมตั้งตะหง่านอยู่ด้านหน้า ซึ่งออกแบบและปั้นโดยนายช่างผู้ปั้นองค์พระพรหมที่แยกเอราวัณ กรุงเทพมหานคร ถัดมาซ้ายมือของศาลจะเป็นที่จอดรถ ขณะที่ด้านขวามือจะเป็นสำนักงานบริษัท ไทย โทน อินเตอร์แนลชั่นนอล เทรด จำกัด ที่คุณพลอยและคุณเคนดำเนินธุรกิจร่วมกันส่งออกลำไยอบแห้งและผลไม้สด รวมถึงบริการรถขนส่งสินค้า โดยส่วนใหญ่หากคุณพลอยไม่ติดธุระที่ไหนก็จะนั่งทำงานประจำอยู่ที่นี่



บ้านทรงกล่องสไตล์โมเดิร์นหลังนี้ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว บอกได้เลยว่าอาจมากกว่าพื้นที่ของบ้านเสียอีก มีทั้งลานสนามหญ้าหน้าบ้านที่ตกแต่งในสไตล์ทรอปิคอล ข้างๆ มีสนามเด็กเล่น พร้อมชิงช้าและเครื่องเล่นปีนป่าย รวมถึงสระว่ายน้ำที่มีจากุชชี่ในตัวสำหรับกิจกรรมของเด็กๆ และครอบครัว ส่วนหลังบ้านก็มีแปลงผักสวนครัว ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้บรรยากาศรอบๆ บ้านดูร่มรื่น ไม่ว่าจะนั่งหรือยืนอยู่ส่วนไหนก็ตาม ทั้งยังช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของบ้านทรงกล่องนี้ให้ดูอบอุ่นขึ้นอีกด้วย



"บ้านหลังนี้ก็จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,000 ตารางเมตร เป็นบ้าน 2 ชั้น ทรงเหลี่ยมๆ ยาวๆ อย่างที่พลอยบอกไป จะเห็นว่าเราเน้นให้พื้นที่ในบ้านโล่งกว้าง ตั้งแต่ห้องโถง, โต๊ะกินข้าวจนถึงส่วนโต๊ะรับแขก เราจะไม่กั้นห้องเลย ลูกๆ ก็สามารถวิ่งเล่นได้สบาย จะอยู่ตรงไหนก็จะมองเห็นกัน ที่พลอยชอบมากๆ คือเพดานสูงมาก ทำให้รู้สึกสบายไม่อึดอัด




สำหรับชั้นสองก็จะมีห้องนอนของพลอยและสามี 1 ห้อง และห้องของลูกๆ อีก 4 ห้อง และห้องรับรองอีก 2 ห้อง ขนาดห้องก็จะกว้างพอๆ กันเพื่อรองรับได้จนลูกๆ โต




นอกจากนี้บนชั้นสองก็จะมีระเบียงและห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือ จิบกาแฟ มองเห็นวิวภูเขาสวยงาม แต่ส่วนมากไม่ค่อยได้ใช้พื้นที่นี้เท่าไหร่ พื้นที่กิจกรรมของเราจะอยู่ข้างล่างมากกว่าค่ะ"




แต่งบ้านโมเดิร์นให้อบอุ่นด้วยงานไม้

"ด้วยความที่คุณสามีเป็นคนที่ชื่นชอบงานไม้มาก จะเห็นได้ว่าเกือบทุกส่วนของบ้านจะถูกตกแต่งด้วยไม้ ตั้งแต่ประตูรั้วสีแดงบานใหญ่, งานตกแต่งอาคารภายนอก, ประตูบ้าน, ประตูห้องทุกบาน เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงพื้นบ้านล้วนเป็นไม้สักทั้งหมด ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูวอร์มมากขึ้น ซึ่งไม้นอกจากจะมีความคงทนแข็งแรง สวยงามแบบธรรมชาติแล้ว ยังคงคุณค่าในตัวของมันไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปก็ตาม"  



"พลอยว่าไม้ที่นำมาตกแต่งบ้านก็เหมือนงานศิลปะอย่างหนึ่ง การนำท่อนไม้มาตัดออกมาเป็นแผ่นๆ มันก็มีรูปทรงแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ใครจะจินตนาการว่าคืออะไร บางคนอาจจะมองว่าเป็นตัวอักษร บางคนอาจจะมองว่าเป็นสัญลักษณ์อะไรก็ได้ ดูอาร์ทดี"



นอกจากการนำไม้มาเป็นส่วนประกอบของบ้านสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัวแล้ว ครอบครัวนี้ยังนำศาสตร์ฮวงจุ้ยมาช่วย แก้ไขจุดบกพร่องของบ้านเพื่อให้เกิดความลงตัว และส่งเสริมกิจการให้รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปจะมีแผ่นไม้สักขนาดใหญ่บังตำแหน่งบันไดขึ้นชั้นสอง ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยประตูหน้าบ้านและบันไดไม่ควรอยู่ตรงกัน, การนำถ้วยใส่หินสีขาวและน้ำวางไว้หน้าห้องนอนทุกห้อง หรือตัวบ้านต้องขนาบข้างด้วยน้ำ(สระว่ายน้ำ), จัดวางสระว่ายน้ำไว้ทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ค่อยโดนแดด ทำให้ใช้งานหรือนั่งเล่นที่ริมสระว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน แบบนี้เป็นต้น 

อ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่านิทาน นี่ไง!มุมโปรดของมามี๊และลูกๆ

เรียกได้ว่านี่เป็นมุมโปรดของคุณพลอยและลูกๆ ซึ่งเวลาเล่นกันก็จะสบายๆ โดยเธอก็ไม่ค่อยได้นั่งโต๊ะนั่งเก้าอี้ ชอบนั่งเล่นกับเด็กๆ ที่พื้น และช่องใส่หนังสือถูกใส่เพิ่มเข้ามา เพราะตัวเธอเองชอบนอนอ่านหนังสือ รวมถึงอ่านนิทานให้ลูกฟัง และทำให้พวกเด็กๆ ได้รักการอ่านมากขึ้น บางทีก็เปิดเพลงฟัง นั่งเล่นเกมส์ตัวต่อ ถือเป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันแต่ เวลามีแขกหรือลูกค้ามา เธอก็จะเชิญไปที่มุมโซฟามากกว่า เด็กๆ ก็จะแยกมาอยู่ที่มุมนี้



อัพเดทชีวิตและธุรกิจ

กลับมานั่งคุยกับคุณพลอยที่โต๊ะไม้สักในห้องโถง เพื่ออัพเดทชีวิตและธุรกิจก่อนล่ำลา คุณพลอยเล่าว่า "หลังจากที่พลอยออกมาจากวงการบันเทิงก็มาเป็นคุณแม่อย่างเต็มตัว ดูแลลูกๆ และช่วยคุณเคนบริหารจัดการธุรกิจของครอบครัวไปด้วย ลูกๆ ทั้ง 4 คนอยู่ในวัยกำลังซนค่ะ พี่ๆ 3 คน"ชิโน่" "ชิลลี่" "'ชิต้าร์" เข้าโรงเรียนแล้ว ส่วนคนเล็ก "ชิลีน" ยังดูแลอยู่ที่บ้าน พลอยให้ลูก 3 คนเข้าโรงเรียนอินเตอร์เพราะอยากให้ได้เรื่องภาษา อีกหน่อยไปทำงานเก่งภาษาก็เป็นบวกกับทุกอาชีพทุกสายงาน อนาคตก็แอบหวังว่าลูกๆ จะมาสานต่อธุรกิจ เพราะเขาเห็นว่าเราทำงาน คงซึมซับและรับรู้ไป แต่เราก็สอนลูกเสมอว่าโตมาต้องทำงาน ช่วยตัวเอง ดูแลตัวเองให้ได้ โดยรวมชีวิตตอนนี้ก็มีความสุขดีค่ะ"



"ส่วนด้านธุรกิจ ตอนนี้นอกจากพลอยจะช่วยดูแลธุรกิจส่งออกลำไยอบแห้งและผลไม้สดที่ค้าขายกับคนจีน ก็จะมีธุรกิจนำเข้ากระเป๋าแบรนด์ <> ซึ่งเป็นแบรนด์ของน้องสาวสามี วางขายหลายประเทศทั้งจีน, ฮ่องกง, เวียดนาม, มาเลเซีย, ลาว แต่พลอยนำเข้าและดูแลเฉพาะในประเทศไทย มีโชว์รูมแถวเอกมัย กรุงเทพฯ และเมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น <> ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และมีแผนที่จะเปิดร้านอาหารจีน ย่านนิมมานเหมินท์ ตอนนี้กำลังหาโลเคชั่นอยู่ และอีกหนึ่งผลงานที่อยากจะฝากกันติดตาม คือ MV เพลง “I Can’t (จำไม่ลง...คงไม่ลืม)” ของศิลปินหนุ่ม " MANGKORN " (มังกร) ที่น่าจะออนแอร์ให้ได้ชมในเดือนหน้าค่ะ"



นี่แหละที่เขาว่า อยู่ที่ไหนก็คงไม่มีความสุขเหมือนที่บ้าน ยิ่งมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของลูกๆ ที่กำลังมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ บ้านหลังนี้คงอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น ที่ใครๆ เห็นก็ต้องอิจฉาอย่างแน่นอน...

เรื่อง: รมณี ทะนันชัย
ภาพ: นรวัฒน์ กุณามา

บทความแนะนำ:
·       [Celebrity Homes] บ้านและความอบอุ่นของ "บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี"
·       [Celebrity Homes] บ้านหลังใหญ่กับหัวใจดวงเดิมของ "นุชนาถ ระวีแสงสรูย์"
·       รวม 4 ไอเดียแต่งห้องนอนสำหรับคุณ
·       วาง Layout ห้องครัวอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน?
·       เทคนิคแต่งบ้านอย่างไรให้สวยด้วย “แสง”!