กระเบื้องยาง มิติใหม่ของวัสดุปูพื้น

นวัตกรรมของวัสดุสร้างบ้านในยุคนี้  นับว่าเป็นกำไรกับผู้บริโภคที่เราสามารถเลือกสรรวัสดุต่าง ๆ มาใช้ทดแทนวัสดุเดิมที่อาจมีปัญหาในบางจุด  ในส่วนของวัสดุสำหรับปูพื้นที่เช่นกัน  ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย  กระเบื้องยางจึงเป็นคำตอบของใครหลายคนในการเลือกวัสดุมาปูพื้น ซึ่งวัสดุที่มีคุณภาพนั้นจะต้องผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนจะไปเลือกซื้อวัสดุปูพื้นชนิดนี้ มาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า
กระเบื้องยาง ผลิตมาจากอะไร 

1. วัสดุปูพื้นชนิดนี้จะมีอยู่ 6 ชั้น ด้วยกันคือ 

ชั้นที่ 1     UV Coating จะอยู่ชั้นบนสุด จะเป็นชั้นที่เคลือบด้วย PU เพื่อ ปกป้องสีซีดจางจากแสงแดด 
ชั้นที่ 2     Wear Layer กันสึก เป็นแผ่นโพลีเมอร์ที่มีคุณสมบัติ ปกป้องสี และลวดลาย
ชั้นที่ 3    Printing Layer ส่วนนี้จะแสดงลวดลายและสี
ชั้นที่ 4    Fiberglass จะอยู่ชั้นกลาง เป็น signature บางแห่งผลิตโดยใส่ส่วนผสมของ ไฟเบอร์กราส เพื่อช่วยลดอัตราการยืด หด ขยายตัว ทำให้วัสดุปูพื้นชนิดนี้มีความทนทานต่อสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูงได้ดี
ชั้นที่ 5    Middle Layer  ชั้นไวนิลที่กำหนดความหนา  และมีคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทก 
ชั้นที่ 6     Balance Layer ชั้นล่างสุด ชั้นนี้มีคุณสมบัติ ลดการยืดหด และ เพิ่มการยึดสัมผัส กับพื้นผิวที่ติดตั้ง 

2. มีข้อดีข้อเสียของวัสดุปูพื้นชนิดนี้

ข้อดี

ทนต่อรอยขีดข่วนและน้ำได้ดี   จึงดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งต่างจากพื้นไม้แบบอื่น ๆ ที่มักจะไม่ทนน้ำ จึงมักจะต้องดูแลรักษามากไปพิเศษ และไม่สามารถเช็ดถูด้วยน้ำให้สะอาดได้นั่นเอง
เป็นวัสดุที่สามารถทนไฟได้ดี และไม่ลามไฟ 
ติดตั้งง่าย  สามารถทำได้ด้วยตนเอง
ซ่อมแซมได้ง่าย และไม่ทิ้งรอยตำหนิไว้ให้กวนใจ
มีลวดลายและสีสันสวยงาม  มีแบบให้เลือกเยอะ

ข้อเสีย

มักจะหดตัวเมื่อใช้ไปนาน ๆ  ซึ่งจะทำให้เห็นขอบเป็นร่อง  แลดูไม่สวยงาม
ขนาดงอาจไม่เท่ากัน ซึ่งมักจะพบในประเภทที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ บางแผ่นจะมีขอบยื่นยาวออกมาหน่อย ทำให้เวลาติดตั้งมักจะเผยอขึ้นมา  
ไม่ทนต่อกรดและด่าง เป็นสิ่งที่ควรระวัง  หากเกิดขึ้นไม่ควรทิ้งไว้  ให้ทำความสะอาดโดยทันที
 
เห็นไหมว่ากระเบื้องยางเป็นทางเลือกในการปูพื้นที่ดี  โดยก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป  ดังนั้นก่อนเลือกซื้อ  ควรมีการวางแผนและเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง  ส่วนขั้นตอนการติดตั้งก็แสนง่ายสามารถจัดการเองได้แต่ก็ควรมีความละเอียดและพิถีพิถันสักนิด เพียงเท่านี้ก็สามารถมีพื้นบ้านที่สวยและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่