ขยายฐานยุโรป พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตั้ง Property Care ดึงต่างชาติลงทุนซื้ออสังหาให้เช่า
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บุกยุโรป ร่วมงาน Property Investor & Home Buyer ประเทศอังกฤษ โรดโชว์ Property Care การดูแลอสังหาริมทรัพย์ให้กับลูกค้าต่างชาติ เผยมีผลตอบรับเป็นอย่างดีหลังบุกตลาดเอเชียมากว่า 3 ปี
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยว่า หลังจากทำตลาดในเอเซียมากว่า 3 ปี อาทิ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ตอนนี้ พลัสมีนโยบายบุกตลาดต่างประเทศเพื่อเชิญชวนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของปีนี้ วางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าสู่ยุโรป ล่าสุดร่วมกับแสนสิริร่วมงานระดับโลก Property Investor & Home Buyer Show ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นงานที่มีการแสดงผลงานของบริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกกว่า 130 ราย
"ต่างชาติให้การตอบรับที่ดีมากจากผลการทำตลาดต่างประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฐานข้อมูลของเราสะท้อนให้เห็นว่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของชาติต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งซื้ออยู่อาศัยและซื้อลงทุน เนื่องจาก คอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ นั้นมีราคาถูกกว่าฮ่องกงหรือสิงคโปร์มาก และมีผลตอบแทนการปล่อยเช่าและขายต่อที่ดี รวมถึงภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการไทย"
นายอนุกูลกล่าวต่อว่า ที่สำคัญชาวต่างชาติที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเป็นอันดับต้นๆ เพราะเนื่องจากคนกลุ่มนี้ไม่มีเวลาเดินทางมาดูแลอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเอง ส่วนใหญ่จะฝากให้ตัวแทนนายหน้าเป็นผู้ดูแลแทน สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของพลัสฯ โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ Property Care บริการหลังการขายแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า ให้คำปรึกษารอบด้านการบริหารทรัพย์สิน ทั้งการคำนวณทิศทางราคาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ดูแลจัดการปล่อยเช่า หาผู้เช่า รวมถึงประสานงานกับเอเจนซี่ต่างประเทศในรูปแบบ One Stop Service
“ธุรกิจแทนนายหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ต่างชาติเข้ามาและขยายการลงทุนอสังหาฯ ไทยเพิ่มขึ้น เป้าหมายพลัสฯ ของการไปร่วมโรดโชว์คือต้องการให้ความรู้กับนักลงทุน งานบริการหลังการขาย การดูแลโครงการเพื่อสร้างมูลค่าให้กับสินทรัพย์ในระยะยาว” นายอนุกูลกล่าว
ขอบคุณข่าวจาก: ประชาชาติธุรกิจ
ขอบคุณรูปภาพจาก: acnews, excel.london
บทความที่แนะนำ: