แม้เศรษฐกิจในปัจจุบันจะไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศจีนที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสที่แล้วถึงปัจจุบัน แต่ในด้านกำลังซื้อคนจีนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในสินค้ายอดนิยมก็คือซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและลงทุน
พบสถิติคนจีนในปัจจุบันนิยมซื้อที่อยู่อาศัยนอกประเทศมากขึ้นทุกๆปี โดยอสังหาริมทรัพย์ในไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่คนจีนพร้อมจ่ายมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เปิดเผยว่า ผลการสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2561 ของ Juwai เว็บไซต์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของจีนพบว่า ในปี 2561 คนจีนนิยมซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากที่สุดในโลก จากเมื่อปี 2559 คนจีนนิยมซื้อในไทยเป็นอันดับที่ 6 และขยับขึ้นมาเป็นที่ 3 ในปี 2560 ทั้งนี้ลำดับที่ 1-10 ในปี 2561 เป็นดังนี้
อันดับที่ 1 คือ ไทย อันดับที่ 2-10 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์
6 สาเหตุที่อสังหาไทยขยับสู่อันดับหนึ่ง
1. ไทยไม่มีการจำกัดราคาขั้นต่ำในการซื้อ ต่างจากมาเลเซียที่ต้องซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 8-16 ล้านบาท แล้วแต่บริเวณ ราคาบ้าน-ที่ดินและห้องชุดในไทยราคาถูกกว่ามาก
2. สามารถได้กรรมสิทธิ์ ไม่ใช่การเช่าระยะยาวเช่นในจีนหรือเวียดนาม
3. ไม่มีการเก็บภาษีซื้อ ในกรณีสิงคโปร์ ต่างชาติที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ต้องเสียภาษีสูงถึง 20% ฮ่องกงเก็บ 30% เป็นต้น ส่วนในไทย โดยเฉพาะในอีอีซี ยังไม่ต้องเสียภาษี
4. ไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีมรดก แต่ไทยมีการตราพระราชบัญญัติภาษีทั้งสองนี้ แต่แทบไม่มีผลบังคับใช้จริง
5. ไม่มีข้อห้ามให้ต่างชาติซื้อได้ หากจีนหรือต่างชาติใดซื้อบ้านมือสองได้ด้วย ก็อาจทำให้ราคาบ้านขยับราคาขึ้นได้อีก
6. ไม่มีข้อห้ามต่างชาติซื้อบ้านเช่นเดียวกับนิวซีแลนด์ แม้คนจีนจะชอบนิวซีแลนด์ แต่ปัจจุบันนี้มีข้อห้ามมากมาย ทำให้คนจีนไม่สามารถซื้อบ้านได้อีกต่อไป
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้คนจีนเบนเข็มมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้นและก้าวสู่อันดับหนึ่งในใจได้ในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีหลายเหตุผลประกอบ ผลดีที่เกิดขึ้นประการหนึ่งก็คือบริษัทพัฒนาที่ดินไทยมีตลาดกว้างมากขึ้น ทำให้สัดส่วนผู้ซื้อของบริษัทมหาชนบางแห่งสูงขึ้นถึง 40% บริษัทมหาชนหลายแห่งสามารถทำกำไรสุทธิหลักหักค่าใช้จ่ายสูงถึง 20-30% หรือบางแห่งสูงกว่านั้น
ในอีกด้านผู้ซื้อคนไทยอาจต้องซื้อบ้านในราคาแพงขึ้น เพราะกำลังซื้อที่เพิ่มเข้ามาจากประเทศจีนและประเทศอื่น จนวันหนึ่งอาจเกิดภาวะที่ราคาบ้านแพงเกินกว่ากำลังซื้อคนไทยได้เหมือนกัน
สถานการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในไต้หวันเมื่อสิบปีที่ผ่านมา อีกอย่างการซื้อขายทรัพย์สินในประเทศไทยโดยคนต่างชาติ ไม่ต้องเสียภาษีซื้อ แทบไม่ต้องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือภาษีมรดก ทำให้ประเทศไทยไมได้อะไรเท่าที่ควรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนต่างชาติ
ส่วนคนที่ได้ประโยชน์จากการซื้อทรัพย์ของคนจีนก็คือบรรดาบริษัทพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน บริษัทปูน บริษัทเหล็ก ขณะที่ผู้บริโภคคนไทยแทบไม่ได้ผลบวกเท่าใดนักจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่มา.. lokwannee
ไม่พลาดทุกข่าวสาร ทันทุกเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์กับ Baania ได้ที่ Line Official >> @baania