นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่ากระทรวงคมนาคมได้เสนอต่อที่ประชุมครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีพิธีสาร เกี่ยวกับการแก้ไขข้อ 50 (เอ) และพิธีสารเกี่ยวกับการแก้ไขข้อ 56 ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ลงนาม ณ เมืองมอนตริออล เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2559 โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบัน สำหรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารทั้ง สองฉบับและยื่นต่อเลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civation Organization : ICAO) ต่อไป อย่างไรก็ตาม พิธีสารเกี่ยวกับการแก้ไขข้อ 50 (เอ) ระบุถึงความประสงค์ของรับภาคีในการเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะมนตรี จากเดิม 36 ประเทศ เป็น 40 ประเทศ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเป็นองค์กรระดับบริหารซึ่งประกอบด้วยรัฐภาคีที่ได้รับเลือกตั้งโดยสมัชชา ICAO และอยู่ในวาระคราวละ 3 ปี และพิธีสารเกี่ยวกับแก้ไขข้อ 56 ระบุถึงความประสงค์ของรัฐภาคีในการเพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะกรรมาธิการการเดินอากาศจะประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับแต่งตั้ง โดยคณะมนตรีจากบุคคลที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์การบินที่เสนอชื่อโดยภาคี
นอกจากนี้ นายอาคม ยังกล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.สัญจร) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 5 – 6 มี.ค. นี้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะมีการติดตามโครงการความคืบหน้าที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคมที่ได้รับมอบหมายในการประชุมครม.สัญจรในครั้งที่แล้ว ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ / จะมีการนำเสนอแผนและยุทธศาสตร์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง / การร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยเป็นแนวคิดเพื่อพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่ เพชรบุรี –ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร ซึ่งควรจะมีการก่อสร้างโครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเล เพื่อเป็นเส้นทางสำลองหากเกิดกรณีน้ำท่วมถนนเส้นทางหลัก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความด้านการเดินทาง รวมถึงการขนส่งสินค้า ถือเป็นการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม –หัวหิน ,หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ,ประจวบคีรีขันธ์ –ชุมพรนั้นได้ลงนามสัญญาแล้ว และกระทรวงคมนาคมจะเสนอต่อโครงการก่อสร้างกับที่ประชุมครม.ภายในปีนี้เพิ่มเติมประกอบด้วย ช่วงชุมพร –สุราษฎร์ธานี , สุราษฎร์ธานี –สงขลา ,สงขลา-หาดใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริมเรื่องของการเดินทาง และการท่องเที่ยวในฝั่งทะเลอ่าวไทย ด้านตะวันออก นอกจากนี้ จะมีการรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ในช่วงปีที่ผ่านมาเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัด โดยจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งกระทบให้สะพาน 2 แห่งถูกตัดขาด ประกอบด้วย ที่อ.บางสะพาน และอ.หนองหญ้าปล้อง ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานใหม่ทดแทน
ที่มา...บ้านเมือง