“คอนโดมิเนียม” ห้องพักขนาดกำลังดี ดูแลไม่ยาก ทำเลส่วนใหญ่มักเดินทางไปที่ต่างๆ ได้สะดวก พร้อมกับดีไซน์ที่โดนใจเหมาะกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้คอนโดยังเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันตามโครงการ “Reverse Mortgage” ของกระทรวงการคลังได้ เหมาะสำหรับคนที่รุ่นใหม่ที่มองการณ์ไกลนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยามเข้าวัยชราจนกว่าจะเสียชีวิตได้อีกด้วย
นี่เป็นหลายๆ เหตุผลที่ทำให้เด็กจบใหม่ เพิ่งเริ่มทำงานหมาดๆ หรือที่เรียกกันว่า First Jobber หลายคนอยากจะมีคอนโดมาครอบครองไว้สักห้อง แต่จะเลือกอย่างไรให้ซื้อได้ตามใจต้องการ และวางแผนทางการเงินอย่างไรให้กู้ได้และผ่อนไหว Baania นำข้อแนะนำดีๆ มาบอกกัน
ราคาแบบไหนดี
สถิติของสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทยพบว่า เด็กจบปริญญาตรีจะมีเงินเดือนสตาร์ทโดยเฉลี่ยขั้นต่ำที่ 15,000 บาท ซึ่งเรตของ First Jobber ส่วนใหญ่มักมีเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 - 30,000 บาท หากไปกู้กับสถาบันการเงินต่างๆ แล้วยอดวงเงินกู้เฉลี่ยจะอยู่ที่ 750,000-1,500,000 บาท อีกทั้งเมื่อพิจารณาร่วมกับภาระหนี้สินจะพบว่า เด็กจบใหม่มักจะยังมีหนี้สินน้อยจึงอาจกู้เพิ่มได้ถึง 2,000,000 บาท ดังนั้นราคาคอนโดที่ควรมองหาก็ไม่ควรเกิน 2,000,000 บาท โดยในปัจจุบันมีแหล่งเงินกู้เพื่อคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น
1. สินเชื่อบ้านบัวหลวง ของธนาคารกรุงเทพ
2. สินเชื่อบ้านกรุงไทย แสนสะดวก ของธนาคารกรุงไทย
3. สินเชื่อคอนโด ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
4. K-Home Loan ของธนาคารกสิกร
5. สินเชื่อบ้านทีเอ็มบี ของธนาคารทหารไทย
6. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ของธนาคารทิสโก้
7. สินเชื่อซื้อบ้านใหม่ ของธนาคารไทยพาณิชย์
8. สินเชื่อบ้านใหม่ ของธนาคารธนชาต
9. สินเชื่อ For Home ของธนาคาร ธอส.
10. UOB Home Loan ของธนาคารยูโอบี
11. สินเชื่อเคหะ ของธนาคารออมสิน
12. สินเชื่อบ้านแบงค์ออฟไชน่า ของแบงค์ออฟไชน่า
13. สินเชื่อบ้าน Home Loan ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
เลือกคอนโดแบบไหน
เลือกพิกัดไหนดี
การเลือกพิกัดคอนโดที่จะซื้อนั้น ควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง ถ้าต้องใช้ BTS บ่อย การซื้อคอนโดติด BTS ที่อยู่ในงบ แม้จะห้องเล็กแต่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากไม่จำเป็นต้องใช้ BTS มากอาจลองหาคอนโดที่อยู่ไกลออกไปอีกนิด เข้าซอยไปสักหน่อย เพื่อได้ขนาดห้องที่ถูกใจมากขึ้น
ดังนั้นการเลือกพิกัดจะต้องดูอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวก ใกล้ที่ทำงาน ใกล้สถานที่จับจ่าย สถานะการเงิน ดีไซน์ของห้อง รวมถึงโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการ เป็นต้น
นอกจากนั้นที่จอดรถก็เป็นส่วนสำคัญในการเลือกพิกัดคอนโดที่ถูกใจ หลายคนอาจคิดว่าตอนนี้ยังไม่มีรถ แต่อนาคตคุณอาจมีรถเพิ่มเข้ามาก็เป็นได้ อีกจุดหนึ่งที่คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะต้องดูร่วมด้วยคือเรื่องของเส้นทางน้ำท่วมว่า ในพิกัดที่สนใจมีโอกาสท่วมมากน้อยขนาดไหนด้วยนะครับ
เก็บเงินยังไงให้ถึงฝัน
หลายคนอาจคิดว่า เด็กจบใหม่เพิ่งเริ่มทำงานภาระหนี้ไม่มี ก็น่าจะขอกู้จากธนาคารได้ 100% เหมือนที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่ในโลกของความเป็นจริง มันคงไม่ได้ง่ายแบบนั้น ยิ่งในยุคนี้ ธนาคารค่อนข้างเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ เด็กจบใหม่เป็นอะไรที่อาจจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษในแง่ของความมั่นคงทางการเงิน
Baania ขอแนะนำนะครับว่า เด็กจบใหม่ที่เพิ่งได้งานทำ ลองใช้เวลาสัก 1-2 ปีในการฝึกออมเงิน โดยให้แบ่งส่วนเงินจากรายได้เตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดไว้ให้พอก่อน ทั้งเงินจอง เงินดาวน์ เงินสำหรับตกแต่ง ไปจนถึงเงินที่จะต้องผ่อนต่อเดือน สำหรับการแบ่งเงินเดือนขอแนะนำดังนี้
10% : เงินออม เพื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือเก็บสะสมไว้ใช้ตอนเกษียณ ที่สำคัญเอาไว้สำรองในทุกกรณี
40% : เงินออมเพื่อซื้อหรือผ่อนคอนโด เพราะหลักการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารส่วนใหญ่กำหนดอัตราค่าผ่อนชำระต่องวดไม่เกิน 30-40% ของรายได้ หรือ 1 ใน 3 ของรายได้สุทธินั่นเอง ควรออมเงินโดยการฝากธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้เห็นประวัติการออม ซึ่งจะเป็นหลักฐานชั้นดีในการพิจารราอนุมัติสินเงินกู้
50% : ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำไฟ ค่ามือถือ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร
สิ่งสำคัญที่สุดในการเก็บเงินซื้อคอนโดนั้นมาจากระเบียบวินัยในการใช้เงิน หรือจดบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นประจำ เพราะจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้ฝันของเราเป็นจริงได้ Baania ขอเป็นกำลังใจให้ First Jobber ทุกคนในการเก็บเงินซื้อคอนโด อสังหาฯ ห้องเล็กๆ แต่ราคาไม่เล็กมาได้สำเร็จกันนะครับ