Baania
Baania
จังหวัด
ประเภทประกาศ
ประเภทอสังหาริมทรัพย์
ราคา

ชลบุรีบ้าน-คอนโดค้างสต๊อก 3.5 หมื่นหน่วย

x
คลิกที่นี่ เพื่อฟังบทความ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เปิดผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัย 3 จังหวัดอีอีซี จำนวนซัพพลายคงค้างเริ่มลด แต่ชลบุรียังมีสต๊อกเหลือบานกว่า 35,000 หน่วย
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลได้สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย ล่าสุด ณ ไตรมาส 3 ปี 2560 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เฉพาะอำเภอที่มีความเคลื่อนไหวด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งประเภทโครงการบ้านจัดสรร และโครงการอาคารชุด

ชลบุรีสต๊อกเหลือขายยังสูง 35,000 หน่วย
สำหรับผลสำรวจล่าสุดในพื้นที่ 7 อำเภอของจังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย อำเภอเมืองชลบุรี บางละมุง ศรีราชา สัตหีบ พานทอง บ้านบึงและ พนัสนิคม พบว่า มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขาย 708 โครงการ จำนวน 151,246 หน่วย มูลค่ารวม 428,772 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านจัดสรรรวม 66,569 หน่วย ลดลงจากปี 2559 ที่มีจำนวน 73,533 หน่วย และเป็นอาคารชุด 84,677 หน่วย ลดลงจากปี 2559 ที่มี 101,451 หน่วย 

ทั้งนี้ จากจำนวนหน่วยเปิดขายทั้งหมดมีหน่วยเหลือขาย 35,811 หน่วย ขณะที่อำเภอบางละมุงมีจำนวนหน่วยเปิดขายมากที่สุดร้อยละ 42.6 นอกจากนี้จากจำนวนโครงการทั้งหมดมีโครงการที่เปิดขายใหม่ในปี 2560 อยู่จำนวน 59 โครงการ  7,698 หน่วย มูลค่ารวม 20,657 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 52 โครงการ จำนวน 5,601 หน่วย มูลค่า 14,450 ล้านบาท และอาคารชุด 7 โครงการ จำนวน 2,097 หน่วย มูลค่า 6,207 ล้านบาท

สำหรับโครงการบ้านจัดสรรจังหวัดชลบุรีที่จำนวน 498 โครงการ มีจำนวนหน่วยในผังรวม 66,569 หน่วยนั้น นับว่าเป็นจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยมากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯมีราคาขายเฉลี่ย 2.83 ล้านบาทต่อหน่วย ขณะที่อำเภอสัตหีบมีราคาเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 4.02 ล้านบาทต่อหน่วย ส่วนระดับราคาบ้านจัดสรรส่วนใหญ่อยู่ที่ 2.01-3.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.4 รองลงมาอยู่ในระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23 

เมื่อแบ่งตามพื้นที่พบว่า ร้อยละ 36 ของหน่วยบ้านจัดสรรอยู่ในอำเภอศรีราชา ร้อยละ 20 อยู่ในอำเภอบางละมุง อีกร้อยละ 19 อยู่ในอำเภอเมืองชลบุรี ร้อยละ 10 อยู่ในอำเภอพานทอง และร้อยละ 7 อยู่ในอำเภอบ้านบึงเท่ากับในอำเภอสัตหีบ โดยมีอยู่ในอำเภอพนัสนิคมเพียงเล็กน้อย ซึ่งร้อยละ 47 ของหน่วยโครงการบ้านจัดสรรเป็นการพัฒนาในรูปแบบของทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 29 เป็นบ้านเดี่ยว ร้อยละ 18 เป็นบ้านแฝด และร้อยละ 6 เป็นอาคารพาณิชย์พักอาศัย ทั้งนี้ มีบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมากถึงร้อยละ 56 ของหน่วยบ้านเดี่ยวทั้งหมด โดยในช่วงปีที่ผ่านมามีความเติบโตของตลาดทาวน์เฮ้าส์มากจนจำนวนหน่วยในผังโครงการเริ่มมีมากกว่าจำนวนหน่วยบ้านเดี่ยว โดยมีจำนวนทาวน์เฮ้าส์ 31,120 หน่วย และมีบ้านเดี่ยว 19,315 หน่วย 

ในประเภทอาคารชุด มีโครงกาอยู่ระหว่างการขาย 210 โครงการ จำนวน 84,677 หน่วย มากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับบ้านจัดสรร มูลค่าโครงการรวม 238,023 ล้านบาท โดยมีหน่วยเหลือขายประมาณ 12,296 หน่วย มูลค่ารวม 39,536 ล้านบาท 

หากแบ่งตามพื้นที่จะพบว่า จากหน่วยในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมดอยู่ในอำเภอบางละมุงมากถึงร้อยละ 61 อีกร้อยละ 17 อยู่ในอำเภอเมืองชลบุรี อยู่ในอำเภอศรีราชาร้อยละ 15 และในอำเภอสัตหีบร้อยละ 6  และจากโครงการอาคารชุดทั้งหมด 210 โครงการ เป็นโครงการที่สูงไม่เกิน 8 ชั้น 151 โครงการ ส่วนโครงการที่สูงมากตั้งแต่ 30 ชั้นขึ้นไปมี 29 โครงการ หน่วยห้องชุดที่มีขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตรมีร้อยละ 47 เพิ่มขึ้นจาก ปี 2559 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 45 เล็กน้อย โดยเป็นห้องชุดแบบหนึ่งห้องนอนมากถึงร้อยละ 69 ห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 22 แบบสองห้องนอนร้อยละ 9 และที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป

“โดยภาพรวมจะเห็นว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจะหนาแน่นกระจายทุกประเภท ในทุกอำเภอที่สำรวจยกเว้นอำเภอพนัสนิคมจะไม่มีการพัฒนาโครงการอาคารชุด ซึ่งในปี 2561 โครงการขายได้มีสัดส่วนร้อยละ 76.3 มีมูลค่าโครงการขายได้รวม  321,829  ล้านบาท และอาคารชุดมีสัดส่วนขายได้มากที่สุดร้อยละ 85.5 (ต่อหน่วยทั้งหมด 84,677 หน่วย) สำหรับหน่วยเหลือขายประมาณร้อยละ 23.7 มีมูลค่าเหลือขาย 106,944 ล้านบาท ซึ่งที่ดินเปล่าเหลือขายมากที่สุดประมาณร้อยละ 70.7 (ต่อหน่วยทั้งหมด 181 แปลง) ด้านอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) โดยเฉลี่ยร้อยละ 4.3 ซึ่งอาคารชุดมีอัตราดูดซับสูงสุดร้อยละ 5.6 ต่อเดือน” 

ระยองซัพพลายบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น
ในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดระยอง มีโครงการอยู่ระหว่างการขายจำนวน  221 โครงการ รวม 30,953 หน่วย มูลค่ารวม 76,273 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 26,943 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 21,839 หน่วย เป็นอาคารชุด 4,007 หน่วย ลดลงจากปี 2559 ที่มี 5,187 หน่วย โดยจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุดร้อยละ 45 รองลงมาอยู่ในอำเภอเมืองระยองร้อยละ 34.4 ทั้งนี้มีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 25 โครงการ จำนวน 2,557 หน่วย มูลค่ารวม 6,024 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 24 โครงการ จำนวน 2,479 หน่วย มูลค่า 5,545 ล้านบาท มีอาคารชุดเพียง 1 โครงการ จำนวน 78 หน่วย มูลค่า 479 ล้านบาท 

โดยภาพรวมโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดระยองเป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุดร้อยละ 36 อยู่ในอำเภอเมืองระยองมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 30.7 อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านแฝดร้อยละ 15.3 อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด ส่วนภาพรวมด้านการขายมีโครงการขายได้ 20,748 หน่วย หรือร้อยละ 67 (ต่อหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย) มีมูลค่าโครงการขายได้รวม 49,698 ล้านบาท อำเภอปลวกแดงมีสัดส่วนขายได้มากที่สุดร้อยละ 68.6  (ต่อหน่วยทั้งหมด 13,951 หน่วย) อาคารชุดมีสัดส่วนขายได้มากที่สุดร้อยละ 84.9 (ต่อหน่วยทั้งหมด 4,007 หน่วย) 

ในประเภทบ้านจัดสรร มีโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 199 โครงการ มีหน่วยรวม 26,946 หน่วย มูลค่า 68,321 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 9,599 หน่วย มูลค่า 25,143 ล้านบาท หากแบ่งตามพื้นที่จะพบว่า ร้อยละ 49 อยู่ในอำเภอปลวกแดง ร้อยละ 28 อยู่ในอำเภอเมืองระยอง ร้อยละ 10 อยู่ในอำเภอบ้านฉาง ร้อยละ 9 อยู่ในอำเภอนิคมพัฒนา ที่เหลืออยู่ในอำเภอบ้านค่ายและอำเภอแกลง  

หากแบ่งตามประเภทพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 41 ของหน่วยบ้านจัดสรรเป็นบ้านเดี่ยว ร้อยละ 35 เป็นทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 18 เป็นบ้านแฝด และร้อยละ 6 เป็นอาคารพาณิชย์พักอาศัย ทั้งนี้มีบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมากถึงร้อยละ 63 ของหน่วยบ้านเดี่ยวทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีทาวน์เฮ้าส์สองชั้นมากถึงร้อยละ 63 ของทาวน์เฮ้าส์ทั้งหมด

ด้านราคาขายส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39.6 รองลงมาอยู่ในระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.9 โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2.46 ล้านบาทต่อหน่วย ขณะที่อำเภอบ้านฉางมีราคาเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 2.98 ล้านบาทต่อหน่วย

ในประเภทอาคารชุด มีห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 33 โครงการ รวมประมาณ 5,187 หน่วย มูลค่ารวม 9,367 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 1,257 หน่วย มูลค่า 2,339 ล้านบาท ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78 อยู่ในอำเภอเมืองระยอง ร้อยละ 16 อยู่ในอำเภอปลวกแดง และอีกร้อยละ 5 อยู่ในอำเภอแกลง และเกือบทั้งหมดเป็นโครงการที่สูงไม่เกิน 8 ชั้น มีจำนวน 31 โครงการ มีหน่วยห้องชุดที่ขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตรร้อยละ 49 ของหน่วยทั้งหมดในผังโครงการ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 41 ในปีก่อนหน้า
“ภาพโดยรวมสัดส่วนหน่วยที่ขายได้สะสมในพื้นที่ระยองอยู่ในอัตราร้อยละ 67 โดยคอนโดมิเนียมมีอัตราขายได้สะสมสูงสุดถึงร้อยละ 84.9 ขณะที่มีอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) โดยเฉลี่ยร้อยละ 2.9 ซึ่งอาคารชุดมีอัตราดูดซับสูงสุดร้อยละ 6.6 ต่อเดือน”

ชี้ฉะเชิงเทราเหมาะเป็นที่อยู่อาศัยรับอีอีซี 
ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดฉะเชิงเทรามีจำนวน 46 โครงการ  11,039 หน่วย มูลค่ารวม 32,911 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 10,432 หน่วย ลดลงเล็กน้อยจากปี 2559 ที่มี 10,457 หน่วย เป็นอาคารชุด 607 หน่วย ลดลงจากปี 2559 ที่มี 1,308 หน่วย มีจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุดร้อยละ 60 สำหรับโครงการที่เปิดขายใหม่ในปี 2560 มีเพียง 1 โครงการ เป็นบ้านจัดสรร โดยมีจำนวน 80 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 182 ล้านบาท 

ทั้งนี้ จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด เป็นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์มากที่สุดร้อยละ 36.6 รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 33.8 อันดับสามเป็นบ้านแฝดร้อยละ  21.4  ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.3 รองลงมาอยู่ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.4 

ส่วนในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบางปะกง ที่อยู่อาศัยเสนอขายเกาะกลุ่มอยู่ในระดับราคา 2.01-5.00 ล้านบาท ขณะที่อำเภอบ้านโพธิ์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท และอำเภอแปลงยาวส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.01-1.50 ล้านบาท โดยที่อยู่อาศัยในจังหวัดฉะเชิงเทรามีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.98 ล้านบาทต่อหน่วย และอำเภอบางปะกงมีราคาเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 4.37ล้านบาทต่อหน่วย 

สำหรับภาพรวมด้านการขายมีโครงการขายได้ 7,314 หน่วย หรือร้อยละ 66.3 (ต่อหน่วยทั้งหมด 11,039 หน่วย) มีมูลค่าโครงการขายได้รวม 22,464  ล้านบาท อำเภอบางปะกง และเมืองฉะเชิงเทรามีสัดส่วนขายได้มากที่สุดร้อยละ 69.8 และร้อยละ 69.2 ตามลำดับ (ต่อหน่วยทั้งหมด 2,412 และ 6,639 หน่วย) อาคารชุดมีสัดส่วนขายได้มากที่สุดร้อยละ 73.6 (ต่อหน่วยทั้งหมด 607 หน่วย)

ในประเภทบ้านจัดสรร มีโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 45 โครงการ มีหน่วยในผังรวมกันประมาณ 10,457 หน่วย มีมูลค่ารวม 31,045 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 3,453 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวม 9,358 ล้านบาท สำหรับหน่วยในผังโครงการจัดสรรทั้งหมดแบ่งตามพื้นที่พบว่า ร้อยละ 58 อยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ร้อยละ 23 อยู่ในอำเภอบางปะกง ร้อยละ 11 อยู่ในอำเภอบ้านโพธิ์ และร้อยละ 9 อยู่ในอำเภอแปลงยาว

แบ่งตามประเภทพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 42 ของหน่วยโครงการบ้านจัดสรรเป็นทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 36 เป็นบ้านเดี่ยว  ร้อยละ 20 เป็นบ้านแฝด และร้อยละ 2 เป็นอาคารพาณิชย์พักอาศัย โดยมีบ้านเดี่ยวสองชั้นมากถึงร้อยละ 67 ของหน่วยบ้านเดี่ยวทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีทาวน์เฮ้าส์สองชั้นมากถึงร้อยละ 84 ของทาวน์เฮ้าส์ทั้งหมด

ในประเภทอาคารชุด มีห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 4 โครงการ รวมประมาณ 1,308 หน่วยอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทราทั้งสิ้น มีเหลือขายประมาณ 412 หน่วย 
“ภาพโดยรวมสัดส่วนหน่วยที่ขายได้สะสมในพื้นที่ฉะเชิงเทราอยู่ในอัตราร้อยละ 66.3 โดยคอนโดมิเนียมมีอัตราขายได้สะสมสูงสุดถึงร้อยละ 73.6 ขณะที่มีอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) โดยเฉลี่ยร้อยละ 4.6 ซึ่งอาคารชุดมีอัตราดูดซับสูงสุดร้อยละ 5.4 ต่อเดือน การที่อัตราดูดซับโดยเฉลี่ยสูงกว่าของจังหวัดชลบุรี ปัจจัยสำคัญเกิดจากสินค้าใหม่หรือโครงการใหม่เข้ามาสู่ตลาดน้อยกว่าจังหวัดชลบุรีจนกลับขึ้นไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับความต้องการซื้อ ซึ่งหากรัฐบาลสนับสนุนให้พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นทำเลเพื่อการอยู่อาศัยรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ธุรกิจที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้จะมีศักยภาพกลับขึ้นมาขยายตัวได้ดีกว่าช่วงที่ผ่านมา” 

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania

ประกาศยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร

โครงการยอดนิยม ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร