ในยุคนี้อาชีพอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ครับ การดูแลบ้านของเรา นอกจากจะมีบริการทำความสะอาดให้เรียกใช้กันแล้ว ก็ยังมีอีกอาชีพหนึ่งครับที่น่าสนใจ สามารถทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีก นั่นก็คือ “อาชีพนักจัดระเบียบบ้าน” นั่นเองครับ หลายคนคงสงสัยว่ามีจริงๆ หรือ ต้องขอตอบเลยครับว่า มีจริงๆ ในหลายๆ ประเทศอย่างประเทศญี่ปุ่นหรืออเมริกา เขามีอาชีพนี้กันมาสักพักแล้วครับ แต่สำหรับบ้านเรานั้นอาจจะยังแปลกใหม่อยู่ โดยต้นแบบของอาชีพจัดระเบียบบ้านนี้มาจากคุณ คนโด มาริเอะ (Marie Kondo) ครับ ซึ่งเป็นผู้แต่งหนังสือที่ชื่อว่า “ชีวิตดีขึ้นทุกๆด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว” ถือได้ว่าเป็นหนังสือ How to ที่ดีมากๆ สำหรับการจัดบ้านเลยครับ
การจัดบ้านถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์อยู่ในตัวเองครับ เพราะการจัดบ้านไม่เพียงแต่ให้สวยงามเป็นระเบียบเท่านั้น ไม่ทราบว่าท่านผู้อ่านเคยเจอปัญหาแบบเดียวกับผมไหมครับ ว่าจัดบ้านวันนี้อีกสักสัปดาห์หนึ่ง หรือเดือนหนึ่งผ่านไป บ้านก็กลับมารกอยู่ในสภาพเดิมอย่างที่เคยเป็น นั่นล่ะครับคือ หัวใจที่ว่าจะจัดบ้านยังไงไม่ให้บ้านเรานั้นกลับมารกใหม่อีกครั้ง ดังนั้นไม่แปลกใจเลยครับว่า ทำไมต้องมีนักจัดระเบียบบ้านมาจัดบ้านให้กับเรา
สำหรับเทคนิคการจัดบ้านของคุณมาริเอะนั้น เราต้องเข้าใจกันก่อนว่า การจัดบ้านนั้นไม่ใช่แค่การกระทำ แต่เป็นกระบวนการทางความคิดครับ การจัดบ้านไม่ใช่แค่การจัดของให้เข้าที่เข้าทาง แต่เราต้องพิจารณาความสำคัญทางจิตใจของของทุกชิ้นที่มีต่อเราด้วย เมื่อเราเห็นคุณค่าของทุกๆสิ่งเหล่านั้น เราก็จะไม่ใช้ของอย่างฟุ่มเฟื่อย ใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ และซื้อมาใช้จนเกินความจำเป็น รวมทั้งยินดีที่จะขอบคุณและอำลาเมื่อเราจำเป็นต้องทิ้งมันไป
นอกจากนี้คุณมาริเอะยังได้วางแนวทางในการจัดของในบ้านเพื่อไม่ให้กลับมารกใหม่ ซึ่งน่าสนใจมากครับ ผมเลยก็เลยขอนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ในการจัดบ้านย่อมต้องอาศัยกำลังกายและกำลังใจมากกันพอสมควรเลยล่ะครับ ดังนั้นถ้าเราไม่ตั้งใจกันอย่างแน่วแน่แล้ว อาจจะล้มเลิกกลางคันได้ง่ายๆ การตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าต่อไปนี้ “ฉันจะเป็นคนใหม่” หรือ “ฉันจะมีชีวิตที่ดีขึ้น” เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ
บางคร้ังการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่นั่นยังเป็นนามธรรมครับ สิ่งที่จะช่วยสนับสนุนความคิดนี้ได้ดีที่สุดคือ คุณต้องเห็นภาพชีวิตการอยู่อาศัยในที่ที่เราปราถนาจริงๆ ยิ่งเห็นภาพชัดเจนเท่าใด เรายิ่งมีกำลังใจมากขึ้นเท่านั้น
ปัญหาของคนจัดบ้านส่วนใหญ่คือ ไม่กล้าทิ้งของ โดยมักจะพยายามเก็บของที่รกหูรกตาไปกองเก็บไว้ในที่ๆ มองไม่เห็น แต่นั่นไม่ใช่ทางออกของการจัดบ้านครับ ลองคิดกันเล่นๆ ว่า ถ้าคุณต้องซื้อของเข้าบ้านตลอด แต่ไม่เคยทิ้งออกไปเลย วันหนึ่งบ้านคุณต้องรกแน่ๆ แต่ย่างไรก็ตามคุณมาริเอะได้ให้แนวทางของการตัดสินใจในการทิ้งไว้ด้วยครับ
ในการตัดสินใจว่าจะทิ้งอะไรหรือไม่นั้น จะใช้เกณฑ์ทางอารมณ์เป็นตัววัดว่า ของชิ้นนั้นยังสามารถทำให้เรามีความสุขได้หรือไม่ ซึ่งสามารถทำโดยวิธีง่ายๆ คือ หยิบของชิ้นนั้นด้วยสองมือ และดูความรู้สึกตัวเอง ถ้าเรารู้สึกมีความสุขก็ให้เก็บของนั้นไว้ แต่ถ้าหยิบขึ้นมาแล้วรู้สึกเฉยๆก็ให้ทิ้งไปเลยครับ
สาเหตุหลักๆที่บ้านมักจะกลับมารกใหม่ก็เพราะว่า ส่วนใหญ่เรามักจะใช้วีธีกำจัดของเป็นห้องๆ ไป ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เกิด การกระจัดกระจายของสิ่งของ เพราะของบางอย่างมักจะมีที่เก็บหลายที่ พอจัดห้องโน้นก็จะเอาของที่ไม่รู้จะเก็บไว้ไหนมาเก็บห้องนี้ พอไปๆ มาๆ ก็เลยกลายเป็นห้องหนึ่งเรียบร้อย แต่แล้วก็กลับทำให้รกเพิ่มอีกห้องหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มีห้องเก็บของ ก็มักจะเต็มไปด้วยของที่ไม่ได้ใช้ แต่ไม่กล้าทิ้ง (กรณีนี้ต้องย้อนกลับไปทำข้อ 3 ด้วยครับ)
คุณมาริเอะแนะนำว่า การจัดบ้านที่ถูกต้อง จะต้องจัดของที่ละหมวดหมู่ เช่น เสื้อผ้า, หนังสือ, และเครื่องเขียน เป็นต้น โดยให้เอาของทั้งหมดที่มีในบ้าน ตามหมวดหมู่นั้น มากองรวมกันก่อน เพื่อที่เราจะได้เห็นของทั้งหมด และ สามารตัดสินใจได้ว่าเราจะเก็บชิ้นไหน และทิ้งชิ้นไหน จากนั้นจึงค่อยหาบ้านให้มันอยู่อย่างเป็นที่เป็นทาง
สุดท้าย ลำดับของการจัดสิ่งของมีความสำคัญมากครับ เพราะตรงจุดนี้เองที่คนจัดบ้านจะตกม้าตายกันประจำ และทำให้การจัดบ้านเป็นเรื่องน่าเบื่อและใช้เวลานาน ซึ่งคิดว่าหลายๆ ท่านคงเคยเจอประสบการณ์คล้ายๆ แบบนี้เช่นเดียวกับผมคือ ในขณะกำลังจัดเสื้อผ้ากองใหญ่ในห้องนอน อยู่ๆ ก็เหลือบไปเห็นรูปภาพสมัยเรียน ม.ปลายกับเพื่อนๆ แล้วก็คิดว่ารูปเรามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง... คิดถึงความเฮฮากับเพื่อนๆ สมัยตอนเรียน งั้นเราลองหารูปอื่นๆ มาดูเพิ่มอีกดีกว่า... และแล้วเมื่อเวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง เราก็ยังคงนั่งดูรูปอย่างมีความสุข แต่พอรู้สึกตัวอีกที ห้องก็ยังรกเหมือนเดิมไม่ได้จัดห้องกันต่อเลย
ปัญหานี้เกิดจากการไม่ได้วางแผนการจัดบ้านตามหมวดหมู่ ซึ่งคุณมาริเอะ แนะนำว่า ในการจัดบ้านนั้นเราควรจัดบ้านโดยเริ่มจากของที่มีคุณค่าทางจิตใจน้อยที่สุดก่อน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และเราจะตัดสินใจไม่ยากว่าจะเก็บอะไรไว้ สำหรับลำดับการจัดของที่คุณมาริเอะแนะนำ มีดังนี้ครับ
1.เสื้อผ้า
2.หนังสือ
3.เอกสาร
4.ของจิปาถะ
5.ของที่มีคุณค่าทางจิตใจสูง เช่น รูปภาพ หรือ ของที่ระลึก
เห็นไหมครับว่าการจัดบ้านต้องใช้เทคนิคจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่จัดให้เป็นระเบียบหรือบ้านสะอาดเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ใจช่วยจัดด้วย หากมีเวลาท่านผู้อ่านลองจัดบ้านตามหนังสือ “ชีวิตดีขึ้นทุกๆด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว” กันดูนะครับ เพื่อให้เกิดสิ่งดีๆ กับชีวิตของเรามากขึ้น แต่ถ้าท่านไหนไม่มีเวลา ไม่ต้องกังวลครับเพราะในเมืองไทยของเรามีหลายๆ ท่านที่เป็นนักจัดระเบียบบ้านมืออาชีพ หรือจะลองปรึกษาคุณแม่บ้านใน www.BeNeat.co ก็ได้ครับ เพราะหลายๆท่านก็มีทักษะความชำนาญกันพอสมควรเลยครับ
เขียนโดย: อานนท์ น้อยอ่ำ (CEO บริษัท บีนีท จำกัด)
จบการศึกษาปริญญาตรีวิศกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ปริญญาโท MBA E-Business, University of Kent at Canterbury, UK
ผู้บริหารโครงการหมู่บ้านจัดสรร ผู้หลงไหลการสร้างนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี
ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนอสังหาฯให้เช่าผ่าน Airbnb และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง STARTUP ชื่อดัง
BeNeat.co (แม่บ้านออนไลน์) แอปพลิเคชั่น เรียกใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาดแบบรายชั่วโมง
Contact Info
www.BeNeat.co
www.Facebook.com/BeNeatCo
www.messenger.com/t/BeNeatCo
LineID : @beneat
ขอบคุณภาพประกอบจาก: apartmenttherapy.com, HGTV.com, chatelaine.com
บทความที่เกี่ยวข้อง: