ในบรรดางานก่อสร้างประเภทต่าง ๆ งานซึ่งเกี่ยวข้องกับพื้นไม้ คือสิ่งที่ต้องอาศัยฝีมือและความใส่ใจในรายละเอียดมากที่สุด ตั้งแต่กระบวนการวางโครงสร้างไปจนถึงปลายทางในการเลือกวัสดุเลยทีเดียว และด้วยระยะเวลาที่ผ่านไป พื้นไม้ของท่านก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการใช้งาน ปัญหาการซ่อมแซมพื้นไม้จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ Baania จึงขอนำเสนอวิธีการทำ ซ่อมพื้นไม้เก่าให้ดูใหม่ แบบง่าย ๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายกันดีกว่า
พื้นไม้ที่ผ่านการใช้นานมาเป็นระยะเวลายาวนาน ย่อมมีฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมในรูปแบบของคราบฝังลึกเป็นเรื่องธรรมดา หากท่านใดพบเจอปัญหาเหล่านี้ก็อาจเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาที่เราควรต้องเปลี่ยนพื้นไม้เสียที
ในกรณีที่พื้นไม้ชำรุดเสียหายจากรอยแตก รอยแยก หรือเป็นรูโหว่ มักมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน อาทิ พื้นไม้ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำกัดเซาะ หรือพื้นไม้ได้รับความชื้นในปริมาณมากเกินไปส่งผลให้วัสดุขยายตัวจนผิดรูป เป็นต้น
รู้หรือไม่ว่าเสียงสามารถบ่งบอกความผิดปกติของพื้นไม้ได้ สืบเนื่องจากวิธีการติดตั้งพื้นไม้ผิดวิธี และไม่ได้มาตรฐาน อาจนำมาซึ่งการเกิดเสียงต่าง ๆ เช่น เสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แสดงออกถึงฐานรองรับพื้นไม้ขาดความมั่นคง หรือเสียงกรุบกรับ อาจบอกเราได้ว่าฐานรองไม้กำลังได้รับความเสียหาย หรือไม่ได้อยู่ในระนาบเดียวกัน เป็นต้น
ปกติพื้นไม้ที่ดีจะต้องติดตั้งด้วยวิธีที่เหมาะสมกับไม้ในแต่ละประเภท จนทำให้ไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ เวลาเดินผ่านก็รู้สึกถึงความมั่นคง แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัสดุต่าง ๆ ก็มักเสื่อมสภาพตามกาลเวลา หากพบว่าพื้นไม้ของท่านลื่น หรือมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำให้เกิดอันตราย จึงควรปรับปรุงซ่อมแซมให้ถูกวิธี เพื่อให้พื้นไม้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง
ข้อนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรละเลย เนื่องจากหลายท่านอาจโฟกัสไปที่การซ่อมเฉพาะจุดที่ได้รับความเสียหาย จนลืมประเมินค่าใช้จ่ายภาพรวม เพราะส่วนใหญ่หากค่าใช้จ่ายในการปูพื้นไม้ไม่แตกต่างกันมาก คนทั่วไปมักตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโดยการรื้อโครงสร้างใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถใช้พื้นไม้เดิมหรือเปลี่ยนวัสดุในการปูพื้นใหม่ก็ทำได้
อุปกรณ์ง่าย ๆ ที่สามารถซื้อหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป สามารถเนรมิตพื้นไม้เก่าที่ได้รับความเสียหายจากฝุ่นละออง คราบติดแน่น และลบร่องรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ก่อนเลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้กับพื้นไม้ ควรเลือกเบอร์กระดาษทรายให้เหมาะสมกับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เพราะหากใช้กระดาษทรายผิดเบอร์อาจส่งผลเสียต่อเนื้อไม้ได้นั่นเอง
ปัจจุบันมีสีทาพื้นไม้ออกวางจำหน่ายให้เราได้เลือกใช้ด้วยกันหลายรูปแบบ โดยวัตถุประสงค์ของสีประเภทนี้ นอกจากจะช่วยทำให้เนื้อไม้ขึ้นเงาสวยงาม ยังสามารถปกป้องพื้นไม้จากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ส่งผลให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
อย่างไรก็ดี การเลือกสีย้อมไม้ควรประเมินจากพื้นไม้ของท่านเองว่าเหมาะสำหรับสีประเภทใด เพราะสีย้อมไม้มีหลายประเภทแ ละถูกใช้งานในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป โดยบางชนิดอาจเหมาะกับงานภายนอก แต่บางชนิดอาจเหมาะกับงานภายใน เป็นต้น
อุปกรณ์ชิ้นนี้อาจจำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นไม้ในแต่ละแห่งว่าต้องซ่อมแซมมากน้อยประการใด หากพื้นไม้ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีร่องรอยการชำรุดเสียหาย กาวไม้ก็ไม่มีความสำคัญ แต่หากเกิดการหลุดกร่อนของพื้นไม้ก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ซ่อมแซมส่วนที่เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทาสีพื้นไม้จะมีขั้นตอนสำคัญอยู่ด้วยกันอยู่ 4 ขั้นตอน คือการทาสีพื้นรอบแรก สีรองพื้น สีท็อปโค้ท และการทำน้ำมันเคลือบผิว ซึ่งในแต่ละขั้นตอนใช้เวลาในการทานานพอสมควร หากเป็นไปได้ควรเลือกใช้สีที่มีคุณสมบัติแห้งง่าย จะช่วยสามารถลดระยะเวลาในการทาสีให้สั้นลงนั่นเอง
อุปกรณ์สำคัญที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในจุดที่ยากจะเข้าถึง คุณสมบัติของกาวประเภทนี้นอกจากจะสามารถประสานชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้ากันได้อย่างดีโดยไม่มีข้อบกพร่องแล้ว ยังสามารถอุดช่องโหว่หรือรอยต่อที่อาจถูกกัดเซาะจากน้ำหรือเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองและป้องกันแมลงได้อีกด้วย
ถือเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับการซ่อมแซมพื้นไม้ เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดีกว่าไม้กวาดหลายเท่าตัว เนื่องจากในขั้นตอนการขัด อาจทำให้ฝุ่นละอองกระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ หากเราทำความสะอาดได้ไม่ดีอาจส่งผลต่อขั้นตอนการทาสีนั่นเอง
ข้อสำคัญของการ ซ่อมพื้นไม้เก่าให้ดูใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจมองดูวุ่นวาย แต่สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่าย หากทุกท่านให้ความใส่ใจในรายละเอียด และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้แนะนำมาอย่างเคร่งครัด นอกจากท่านจะได้รับพื้นไม้ใหม่ที่สวยงามดูมีชีวิตชีวาแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมไปได้มากเลยทีเดียว