ทินเนอร์และแลคเกอร์นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในงานบ้านและงานอุตสาหกรรม มีลักษณะเป็นของเหลวใส มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน เป็นสารระเหยที่มีไว้สำหรับทำละลาย เจือจาง และเคลือบเงา ลดความหนืดเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่ไอระเหยของทินเนอร์และแลคเกอร์นั้นเป็นพิษ อาจทำให้เกิดอันตรายหากสูดดมเข้าไป รวมทั้งเป็นวัตถุไวไฟ ต้องใช้งานในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ที่สำคัญสารทั้งสองชนิดนี้มีกลิ่นที่ค่อนข้างฉุนรุนแรง หลังการใช้งานกลิ่นอาจจะติดอยู่หลายวัน จนทำให้ปวดหัว
วันนี้เรามีเคล็ดลับ 10 วิธีดับกลิ่นทินเนอร์และแลคเกอร์ให้ได้ผลมาบอกกัน
เป็นสารที่ประกอบด้วยตัวทำละลายหลาย ๆ ชนิดผสมกัน เป็นน้ำเหลวใสสีเหลืองอ่อน องค์ประกอบหลักของทินเนอร์ ประกอบด้วย คีโตน เอสเทอร์ เอทิลอะซิเตท แอลกอฮอล์ และสารไฮโดรคาร์บอน จำพวก โทลูอีก ไซลีน ส่วนใหญ่จะนำมาใช้เป็นตัวทำละลาย ช่วยเจือจางสีชนิดแห้งเร็ว ง่ายต่อการใช้งาน
เป็นสารเคลือบผิววัตถุที่ระเหยไว องค์ประกอบหลักของแลคเกอร์ประกอบด้วย ไนโตรเซลลูโลส พลาสติกไซเซอร์ เรซิ่น เอทิลแอลกอฮอล์ และแบททิล อาซิเตท แลคเกอร์มีทั้งแบบทาและแบบพ่น มีคุณสมบัติหนืดและแห้งไว เมื่อจะใช้งานให้ผสมกับทินเนอร์ เพื่อให้แลคเกอร์แห้งช้าลง และช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่ใช้ในการเคลือบผิววัตถุต่าง ๆ เช่น ไม้ หรือโลหะ ช่วยป้องกันพื้นผิว และช่วยให้เกิดความเงางาม
การใช้งานทินเนอร์หรือแลคเกอร์นั้น อาจจะพบกับปัญหากลิ่นติดบ้าน นอกจากทำให้เหม็นฉุนแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย อาจจะแพ้ถึงขั้นปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ หรืออาเจียน หลายคนอาจจะกำลังมองหาวิธีกำจัดกลิ่นตกค้าง เรามาดู 10 วิธีดับกลิ่นทินเนอร์และแลคเกอร์ให้ได้ผล และไอเดียการกำจัดกลิ่นด้วยวิธีต่าง ๆ ไปพร้อมกันเลย
มีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นได้ดี หลังการใช้งานให้ผ่าหัวหอมเป็นซีก วางไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน หรือหากเป็นหอมแดงลูกเล็ก ๆ ให้บุบแล้วใส่ภาชนะวางไว้ทั่วห้อง ก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน
ใครที่ชอบดื่มกาแฟสดเป็นประจำ อย่าพึ่งทิ้งกากกาแฟลงถัง รู้หรือไม่ว่ากากกาแฟหรือกากชามีประโยชน์หลายอย่าง รวมทั้งเป็นตัวช่วยดูดกลิ่นที่ดีมาก เพียงแค่นำกากกาแฟใส่ถ้วยวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ของห้อง ก็จะช่วยดูดซับกลิ่นฉุนต่าง ๆ ให้หายไปได้อย่างรวดเร็ว แถมยังทำให้ห้องมีกลิ่นหอมของกาแฟมาแทนที่
ของใช้ใกล้ตัวจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย ๆ ก็คือ ถ่านที่ใช้ก่อไฟทำอาหาร นอกจากช่วยลดความชื้นในห้องแล้ว ถ่าน ยังมีคุณสมบัติกำจัดกลิ่นอับได้อย่างดี เพียงนำถ่านมาทุบให้เป็นก้อนเล็ก ๆ ใส่ในภาชนะไว้ตามมุมต่าง ๆ ในบ้าน เพียงเท่านี้กลิ่นฉุนก็จะค่อย ๆ จางหายไป
ของใช้ที่มีติดครัวหาซื้อได้ง่ายอย่างน้ำส้มสายชู มีคุณสมบัติที่ดีในการกำจัดกลิ่นเหม็น เพียงใช้น้ำส้มสายชูวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่มีกลิ่น ไม่นานกลิ่นที่รบกวนใจก็จะจางหายไป
นอกจากมีคุณสมบัติช่วยให้ผ่อนคลายแล้ว ตะไคร้หอมยังสามารถกำจัดกลิ่นได้เป็นอย่างดี หากเป็นตะไคร้หอมแบบสด ๆ ให้บุบใส่ภาชนะตั้งทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ รอบบ้าน หรือจะบดเป็นน้ำมันแล้วชุบสำลีลงในถ้วยใส่น้ำ วางไว้ทั่วห้อง เท่านี้กลิ่นฉุนก็จะหายไป เหลือเพียงกลิ่นตะไคร้หอมเข้ามาแทนที่
ปัญหากลิ่นติดบ้านแก้ได้ไม่ยากหากเรามีเทียนไข โดยจุดเทียนไขไว้ในจานใส่น้ำตั้งไว้ตามมุมต่าง ๆ ในบ้าน ปล่อยให้เทียนดับ ควันเทียนจะช่วยกำจัดกลิ่นได้เป็นอย่างดี แต่ต้องคอยเฝ้าระวังการเกิดไฟไหม้ หากมีเด็กและสัตว์เลี้ยงต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ
ทุกบ้านต้องมีมะนาวหรือมะกรูดติดครัวไว้แน่ ๆ รู้หรือไม่ว่าผลไม้ทั้งสองชนิดนี้ช่วยดูดซับกลิ่นได้ดีมาก เพียงแค่ผ่าซีก หรือฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ใส่ถ้วยตั้งทิ้งไว้ตามมุมห้อง เพียง 1 หรือ 2 คืน กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็จะหายไป
ผลไม้ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้ดี เพียงนำสับปะรดสุกมาหั่นเป็นแว่นหนา ๆ วางไว้ตามจุดที่มีกลิ่นเหม็นฉุน ก็จะช่วยดูดซับกลิ่นให้หายไปในเวลาไม่นาน เพียงแต่ต้องคอยระวังมดที่จะตามรสหวานของสับปะรดมาด้วย ทางที่ดีควรวางในภาชนะที่ลอยน้ำไว้อีกชั้นหนึ่ง
ขึ้นชื่อเรื่องการกำจัดกลิ่นได้เป็นอย่างดี หาซื้อได้ง่าย มีขายตามร้านทั่วไป ทำได้โดยเทเบกกิ้งโซดาใส่ภาชนะวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ทิ้งไว้ 1-2 วัน เพียงเท่านี้กลิ่นเหม็นที่คอยรบกวนก็จะจางหายไป หรือจะโรยเบกกิ้งโซดาบนพื้นก็ได้เช่นกัน เพราะนอกจากกำจัดกลิ่นได้ดีแล้ว เบกกิ้งโซดายังเป็นตัวช่วยทำความสะอาดได้อีกด้วย
อีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดและหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง เพราะน้ำเปล่ามีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่นได้ดี และยังมีความปลอดภัย เพียงเทน้ำเปล่าใส่ถังแล้ววางไว้ทั่วห้อง เป็นทางเลือกที่สะดวกในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
สีชนิดแห้งเร็ว หรือสีน้ำมัน ต้องใช้ทินเนอร์ผสมเพื่อเป็นตัวทำละลาย ช่วยลดความหนืดของสี และทำให้ทาสีง่ายขึ้น รวมถึงการใช้ทินเนอร์ในการล้างอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ เช่น ถัง ลูกกลิ้ง หรือแปรงทาสี วิธีใช้งานและดูแลงานสีในบ้าน มีดังต่อไปนี้
ทินเนอร์และแลคเกอร์มีประโยชน์ แต่ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากสัมผัสโดยตรงอาจเกิดการระคายเคือง แสบร้อน หรือทำให้ผิวหนังไหม้ได้ หรือหากสูดดมสารระเหยเข้าไป อาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ควรทำความเข้าใจวิธีการใช้งานให้ถูกต้อง ทินเนอร์มีกลิ่นฉุนรุนแรง หลังใช้งานอาจมีกลิ่นติดบ้าน แต่หากรู้วิธีดับกลิ่นทินเนอร์ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้อากาศภายในบ้านสดชื่นและน่าอยู่เช่นเดิม