ตกแต่งบ้านตามวิถีชาวมินิมอล
เมื่อพูดถึงเรื่องการตกแต่งบ้านในยุคนี้ จะไม่พูดถึงการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลก็คงดูตกกระแสอย่างไรชอบกล เพราะยุคนี้อะไรก็ต้องมินิมอลไว้ก่อน ซึ่งก็หมายถึงการตกแต่งที่ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ฟังก์ชั่นครบครัน เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก สีสันไม่ฉูดฉาดเน้นสีเอิร์ธโทน พื้นที่ใช้สอยเน้นความกว้าง สว่าง ปลอดโปร่งโล่งสบาย จึงเป็นสไตล์การแต่งบ้านของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เน้นการสะสมของไว้ในบ้าน เรามาดูกันว่าการแต่งบ้านในวิถีนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง
1. เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น
อย่างแรกเลยสำหรับการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลคือเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ ที่มีเท่าที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ ไม่เน้นการนำมาตั้งโชว์เพื่อความสวยงาม รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบเรียบๆ ที่ตอบสนองต่อการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก โดยในห้องนอนก็จะมีเพียงเตียงนอน โต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้า ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก ในส่วนของห้องรับแขกโซฟาที่เลือกใช้ก็เป็นแบบไม่ใหญ่เทอะทะหรือรูปทรงหรูหรา รวมถึงโต๊ะทานอาหารในห้องครัวที่ไม่เน้นความใหญ่โตอลังการ จำนวนที่นั่งก็ให้เพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัว อาจจะมีเก้าอี้สำรองอีกสัก 2-3 ตัว เพื่อใช้เวลาที่มีแขกมาเยี่ยมเยือน
2. ประตูหน้าต่างเน้นดีไซน์ที่เรียบง่าย
เรื่องของประตูหน้าต่างก็เป็นสิ่งสำคัญของการแต่งบ้านสไตล์นี้ เนื่องจากคอนเซปต์ของบ้านเป็นเรื่องความเรียบง่าย และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดีไซน์ของประตูหน้าต่างจึงต้องคุมให้อยู่ในโทนนี้เช่นกัน ควรเลือกรูปทรงของหน้าต่างเป็นทรงเลขาคณิตธรรมดาและในส่วนของประตูอาจจะเน้นเป็นแบบบานเลื่อนซึ่งทำให้บ้านดูกว้างและโปร่งขึ้น
3. การเลือกวัสดุแต่งบ้าน
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนี้ วัสดุที่ใช้ควรเลือกเป็นไม้จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและสะอาดตา จะใช้ไม้จริงหรือไม้เทียมก็แล้วแต่งบประมาณของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ผ้าม่านหรือลวดลายของสิ่งของที่นำมาประดับตกแต่งก็ควรคุมให้อยู่ในสีแนวเอิร์ธโทน และหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่มีลวดลายมากเกินไป
4. ใช้ต้นไม้ตกแต่งให้บ้านไม่น่าเบื่อ
ในความมินิมอลเราก็สามารถตกแต่งบ้านด้วยไม้ดอกไม้ประดับที่สามารถอยู่ในบ้านได้ หากจะเลือกเป็นพันธุ์ไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้ด้วยก็จะดีไม่น้อย จะปลูกใส่กระถางแล้วหาตะกร้าเก๋มาสวมก็ให้อารมณ์อบอุ่นดี หรือจะเลี้ยงในแจกันก็เก๋ไปอีกแบบ
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่จะไกด์ให้เราสามารถแต่งบ้านสไตล์มินิมอลเท่านั้น หากใครจะมีไอเดียที่ล้ำกว่านี้ก็อย่าช้าที่จะลงมือทำ เพียงแต่ต้องคิดถึงคอนเซปต์ของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ว่า “Less is more” นั่นคือ น้อยแต่มากด้วยประโยชน์ใช้สอย