ตระกูล”ภิรมย์ภักดี”เฉือนที่ดินเขาใหญ่40ไร่ขายกลุ่ม”นายณ์ เอสเตท”

“ปิยะ ภิรมย์ภักดี”เฉือนที่ดินเขาใหญ่ขายกลุ่มนายณ์ เอสเตทฯ 40 ไร่ หวังเสริมความแกร่งกันและกัน เปิดแผนธุรกิจบริษัท ต้นปี60 เตรียมผุด“ภิรมย์ แอท วินยาร์ด”เฟส2 ลดขนาด-ราคาลงเหลือ 35,000 บาท/ตารางวา รวม 50 ไร่ ทั้งสนพัฒนาโรงแรมระดับ3-4 ดาว เปิดกว้างหากพันธมิตรสนใจร่วมทุน มั่นใจที่ดิน 800 ไร่ ใช้เวลา 5 ปี คาดสิ้นปี59 รายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่เกือบ 1,000 ล้านบาท
[An image]
ภาพรวมที่ดินของโครงการภิรมย์  แอท วินยาร์ด  รวมถึงส่วนของนายณ์ เอสเตท  40 ไร่
 
นางนวลลดา งามธนไพศาล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2517 ซึ่งนายปิยะ ภิรมย์ภักดี เป็นผู้ครอบครองที่ดินและดำเนินธุรกิจในนามส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนกุดคล้า บนเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา บนพื้นที่ 2,500 ไร่ โดยแบ่งที่ดิน 1,700 ไร่ เป็น“ไร่พีบี วัลเล่ย์”ประกอบด้วย ไร่องุ่น,สวนเกษตร,สวนดอกไม้,ร้านอาหาร,โรงไวน์ และที่ดินว่างเปล่าอีกหลายร้อยไร่
 
 
ขณะที่ที่ดินอีกด้านจำนวน 800 ไร่ มีแผนนำมาจัดสรร สามารถพัฒนาได้ 400 ยูนิต รวมมูลค่าประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาประมาณ 5 ปี  โดยเริ่มจากการนำที่ดินจำนวน 45 ไร่ มาจัดสรรขายเมื่อปี 2557 ภายใต้ชื่อโครงการ “ภิรมย์ แอท วินยาร์ด” (Pirom at Vineyard)  ซึ่งเฟสแรก มีจำนวน 22 แปลงๆละ1-3 ไร่เศษ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000-50,000บาท/ตารางวา  มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ราคาเริ่มต้น 10-40 กว่าล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 14 แปลงหรือกว่า 50% ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากกทม.
 
[An image]
คุณปิยะ ภิรมย์ภักดี
 
อย่างไรก็ตามในต้นปี 2560 บริษัทฯมีแผนที่จะเปิดการขายส่วนเฟสที่ 2 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 54 ไร่ จำนวน 50 แปลง ขนาดตั้งแต่ 340 ตารางวา-1.5 ไร่ โดยราคาขายจะถูกกว่าเฟสแรก เนื่องจากแปลงขนาดเล็กกว่าและไม่ได้อยู่ใกล้ทะเลสาบ คือราคา 35,000 บาท/ตารางวา
[An image]
ภาพบรรยากาศทำเลโครงการภิรมย์  แอท วินยาร์ด
 
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาโรงแรมระดับ 3-4 ดาว จำนวนไม่เกิน 100 ห้องพัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล ซึ่งบริษัทฯได้เปิดกว้างหากจะมีพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน หรือบริษัทฯอาจจะลงทุนเอง  ซึ่งคงใช้เชนโรงแรมเข้ามาบริหารงาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
[An image]
โครงการ ภิรมย์ แอท วินยาร์ด
 
“ที่ผ่านมาเราได้พัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่มาแล้ว 2 โครงการคือ  ภิรมย์ แอท วินยาร์ด (Pirom at Vineyard)  และ ภูเล เบย์ อะ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ จ.กระบี่ ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 6-7 ปี ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปีละประมาณ 50%”นางนวลลดา กล่าว
 
นางนวลลดา กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดบริษัทฯได้ตัดขายที่ดินบริเวณด้านหน้าโครงการ 40 ไร่ จากทั้งหมด 800 ไร่ ให้กับบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ เช่นกัน  แต่ไม่สามารถบอกมูลค่าซื้อขายที่ดินได้ โดยรูปแบบโครงการที่พัฒนาจะไม่ซ้ำกับของบริษัทฯ ซึ่งการเข้ามาพัฒนาโครงการของกลุ่มนายณ์ฯจะช่วยเสริมความแกร่งซึ่งกันและกันให้กับบริษัทฯด้วย โดยลูกค้าที่ซื้อทั้ง 2 โครงการสามารถใช้ระบบสาธารณูปโภคร่วมกันได้ และสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นการถือครองกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้รุกพื้นที่ป่าเขาใหญ่อย่างแน่นอน
 
มองว่าตลาดอสังหาฯบริเวณเขาใหญ่ในครึ่งปีหลัง 2559 จะดีขึ้น เพราะลูกค้าระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ไม่มีผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจแต่อย่างใด ขณะเดียวกันในด้านการแข่งขันโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่บนเขาใหญ่ก็มีเพียงไม่กี่โครงการเท่านั้น อาทิ โครงการ ทอสคานา วัลเล่ย์,โครงการคีรีมายา และโครงการ  เดอะ เครสตัน ฮิลล์ เขาใหญ่ เป็นต้น ซึ่งในประเทศไทยยังมีลูกค้าระดับพรีเมี่ยมอีกมากที่สามารถซื้อสินค้าระดับไฮเอนด์ได้
 
อย่างไรก็ตามในปี 2558 ที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้รวมทั้งเครือเกือบ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ 50% และจากธุรกิจให้บริการ 50% และในปี 2559 คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเช่นกัน
 

ที่มา : prop2morrow