การแยกขยะก่อนทิ้งเป็นสิ่งที่ทุกบ้านควรทำ เพื่อให้ง่ายต่อการคัดกรองในจุดรับขยะ และไม่เป็นการเสียงบประมาณกับการจัดการขยะแบบเกินจำเป็น การแยกขยะจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนัก วันนี้ทาง Baania จึงขอนำเสนอทุกท่านเกี่ยวกับวิธีการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้ว ยังช่วยสภาพแวดล้อมโดยรอบบ้านท่านดูสะอาดตา น่าอยู่ขึ้นอีกด้วย
เพื่อความสะดวกและความสะอาด ควรมีการคัดแยกขยะในแต่ละประเภท เพื่อให้ง่ายต่อการกำจัด ลองคิดดูว่าหากทิ้งทุกสิ่งรวมกันหมดไว้ในที่เดียว เมื่อขยะไปถึงแหล่งปลายทางคัดแยก ก็จะใช้เวลานานในการกำจัดขยะเหล่านั้น แต่หากทุกบ้านช่วยกันแยกขยะเอาไว้แล้ว เมื่อไปถึงจุดคัดแยก เจ้าหน้าที่ก็จะทำงานได้อย่างสะดวก และราบรื่นมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการแบ่งประเภทของขยะไว้ ดังนี้
เป็นประเภทที่ย่อยสลายได้ง่าย มักเป็นขยะที่มีความชื้น เน่าเสียง่าย และมีกลิ่นค่อนข้างแรง โดยมากมักจะเป็นเศษอาหารต่าง ๆ ที่ย่อยสลายได้ สำหรับขยะประเภทนี้จะต้องใส่ลงในถังขยะเปียกเท่านั้น และจะต้องนำไปทิ้งทุกวัน เพื่อลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน หรือหากที่บ้านทำสวน ก็สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักธรรมชาติได้
เป็นขยะประเภทที่นำกลับมาใช้ได้ หรือนำมาแปรรูปเพื่อวนกลับมาใช้งานใหม่อีกครั้ง โดยส่วนมากจะเป็นขยะจำพวกขวดน้ำพลาสติก แก้ว กระป๋อง และ กระดาษ เป็นต้น ให้นำขยะเหล่านี้ ไปทิ้งลงในถังรีไซเคิลเพื่อคัดแยกไว้ สำหรับการนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
เป็นขยะที่ปนเปื้อนสารเคมี หรือมีวัสดุที่เป็นอันตรายผสมอยู่ เป็นขยะที่อาจก่อมลพิษกับสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อมนุษย์ เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ แบตเตอรี่ หรือ ถ่านไฟฉาย เป็นต้น ดังนั้น ควรแยกเอาไว้จากกองถุงขยะประเภทอื่น ๆ และนำไปทิ้งลงในถังที่รับขยะอันตรายโดยเฉพาะ
คือขยะที่ไม่เน่าเสีย และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือมนุษย์ แต่ก็ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ได้อีกครั้ง อย่างเช่น ซองขนม เศษฝุ่นผง เป็นต้น ขยะทั่วไปให้แยกใส่ถังไว้ต่างหาก รอรถขยะมาเก็บหรือใส่ในถังที่จัดเตรียมไว้ให้
สำหรับประเทศไทยได้แบ่งถังขยะออกเป็น 4 ประเภท ตามลักษณะของขยะที่กล่าวไปข้างต้น โดยใช้สีของถังแตกต่างกันเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ซึ่งแบ่งเป็น 4 สีดังนี้
เป็นถังขยะสำหรับขยะเน่าเสียโดยเฉพาะ ดังนั้น หากมีขยะประเภทนี้อยู่ในบ้าน ให้นำมาคัดแยกไว้ในถังสีเขียว เนื่องจากขยะเน่าเสียสามารถย่อยสลายได้เร็ว จึงถูกนำไปทำปุ๋ยหมักเพื่อลดภาระในการกำจัดขยะ
เป็นถังขยะที่รองรับขยะรีไซเคิลโดยเฉพาะ อย่างเช่นขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว หากไม่ได้นำมาใช้งานต่อ ต้องการจะทิ้ง ก็สามารถรวมไว้แล้วใส่ถังขยะสีเหลืองได้เลย
เป็นถังขยะสำหรับใส่ขยะทั่วไป ที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ อย่างเช่น ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถุงพลาสติก โฟมใส่อาหาร หรือฟอยล์ เป็นต้น
เอาไว้ใส่ขยะที่เป็นอันตรายโดยเฉพาะ เช่น ขยะจากผลิตภัณฑ์สารเคมี กระป๋องสีสเปรย์ ยาฆ่าแมลง หรือ ขวดยา เป็นต้น ขยะกลุ่มนี้ค่อนข้างเป็นอันตรายทั้งต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ฉะนั้น จะต้องคัดแยก และนำไปใส่ในถังที่เตรียมไว้อย่างถูกต้อง
ในบางพื้นที่ รถขยะจากเทศบาลอาจจะเข้าไปบริการไม่ทั่วถึง ดังนั้น จึงต้องมีการแจ้งไปยังหน่วยงาน เพื่อให้มาดำเนินการเก็บขยะ ซึ่งขั้นตอนในการแจ้งเขตเทศบาลสำหรับเก็บขยะรีไซเคิลนั้น สามารถทำได้ ดังนี้
1. ผู้ที่ประสงค์ขอรับบริการจัดเก็บขยะรีไซเคิล เบื้องต้นให้ติดต่อที่เขตเทศบาล ในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ โดยต้องไปเป็นตามข้อกำหนดของส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ
2. ยื่นคำร้องขอรับการบริการจัดเก็บขยะ โดยมากแล้วพื้นที่อย่างหมู่บ้านจัดสรร หรือตามคอนโด จะมีรถขยะมาเก็บเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับบ้านที่สร้างใหม่ และอาจอยู่ห่างออกไปในพื้นที่ให้บริการ ก็สามารถเข้าไปยื่นคำร้องขอรับบริการได้
3. ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานในเขตเทศบาล ซึ่งจะใช้เอกสารประกอบเพิ่มเติมคือ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และแผนที่บ้านพอสังเขป ขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบคำร้อง และส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
4. เมื่อพิจารณาดูแล้วว่า เห็นสมควรต่อคำร้องขอรับบริการ ทางเทศบาลจะนำถังขยะรีไซเคิลมาติดตั้งให้ ภายใน 3 วันทำการ
สำหรับการแยกขยะก่อนทิ้ง เป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยาก หากทำเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ก็จะทำให้บ้านดูเป็นระเบียบ และเป็นการลดภาระให้กับเจ้าหน้าที่คัดแยกขยะ ปัจจุบันปัญหาขยะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ดังนั้น หากแก้ปัญหาจากต้นเหตุได้ ก็จะทำให้ขยะลดน้อยลง และสภาพแวดล้อมก็น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการแจ้งเทศบาลในการเก็บขยะรีไซเคิลนั้นไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ หากที่พักอาศัยของท่านเพิ่งปลูกสร้างเสร็จ ต้องรีบดำเนินการแจ้งเขตเทศบาลไปในทันที เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลารอในภายหลัง และหากต้องการเพิ่มถังขยะประเภทอื่นมาติดตั้งร่วมด้วย ก็สามารถยื่นคำร้องขอบริการได้ในวิธีเดียวกันที่นำมาแนะนำ