ทุนจีนสนใจพัฒนาบ้านการเคหะฯ

ทุนไทย-จีน สนใจลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัย การเคหะฯ รอศึกษาโครงการก่อนเสนอครม.เปิดประมูล พร้อมเร่งผุดโครงการเพื่อผู้มีรายได้น้อยหลากหลายรูปแบบ    

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนกับการเคหะฯ ภายใต้พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่มีทั้งสิ้น 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ร่มเกล้า โครงการเชิงพาณิชย์ในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 3 และ 4 รองรับผู้อยู่อาศัยใหม่ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการปทุมธานี (ลำลูกกา) และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการสมุทรปราการ (บางเสาธง) และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามเส้นทางรถไฟฟ้า ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ระยะที่ 3 (ประชานิเวศน์ 3) 

“ขณะนี้มีบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ให้ความสนใจโครงการร่วมทุนกับการเคหะฯมากกว่า 10 บริษัท โดยเฉพาะบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ที่มาจากจีน ซึ่งก็ต้องรอดูว่า เมื่อถึงเวลาเปิดประมูล จะเข้ามาเสนอราคามากน้อยแค่ไหน โดยที่การเคหะฯจะพยายามอำนวยความสะดวกให้เอกชนสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้น เช่น มีแนวคิดที่จะให้เช่า 30 ปี แรก ส่วน 30 ปีที่ต่อมาโอนสินทรัพย์ให้การเคหะฯ และใช้วิธีแบ่งกำไรกัน หรือการเจรจาขอผ่อนปรนกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายผังเมือง การให้โบนัสกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย รวมถึงมาตรการจูงใจด้านภาษี และการลดค่าธรรมเนียมการโอน เป็นต้น” 

โครงการลำลูกกาคลอง 2 

สำหรับการดำเนินการของการเคหะฯ ภายใต้แผนการพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ.2559 - 2568) โดยมีแผนการขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยในปี 2560 ต่อเนื่องปี 2561 เช่น โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จำนวน 36 อาคาร รวม 20,292 หน่วย ในระยะที่ 1 แปลง G จำนวน 334 หน่วย สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ภายในเดือนสิงหาคม 2561 ส่วนโครงการระยะที่ 2, 3 และ 4 อีก 6,212 หน่วย อยู่ระหว่างการเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) 

โครงการบ้านเคหะประชารัฐ เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษ ในปีงบประมาณ 2561 ตั้งเป้าหมายขาย 13,301 หน่วย ปัจจุบันขายได้ 4,650 หน่วย ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 45 ปีของการก่อตั้งการเคหะแห่งชาติได้กำหนดจัดงานขายโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดปทุมธานี ระหว่างวันที่ 10-18 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ศูนย์ชุมชนโครงการบ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (สี่แยกปทุมวิไล) ศูนย์ชุมชนโครงการบ้านเอื้ออาทรรังสิต (คลอง 2) ห้างสรรพสินค้า เทสโก้ โลตัส รังสิต และสำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ

โครงการ ตะพง ระยะ 2

โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน เป็นโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติดำเนินการแล้ว รวมทั้งสิ้น 34,394 หน่วย ในปีงบประมาณ 2561 จะเริ่มก่อสร้าง 39 โครงการ 6,755 หน่วย และจะดำเนินการขออนุมัติอีก 17 โครงการ 5,597 หน่วย อยู่ระหว่างนำเสนอขอความเห็นชอบจากสภาพัฒน์เช่นกัน 

โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ โครงการระยะที่ 1 ได้แก่ โครงการประชานิเวศน์ 3 จำนวน 556 หน่วย จะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 จำนวน 286 หน่วย ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจจอง 318 หน่วย ส่วนโครงแการลำลูกกา คลอง 2 จำนวน 820 หน่วย อยู่ระหว่างนำเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) สำหรับโครงการระยะที่ 2 จำนวนประมาณ 3,000 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนโครงการ (PPP) ในที่ดินของการเคหะแห่งชาติบริเวณเคหะชุมชนร่มเกล้า กรุงเทพฯ
โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ในปีงบประมาณ 2561 จะจัดทำโครงการอาคารเช่าอีก 6,948 หน่วย คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนกันยายน 2561 และโครงการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุที่มีรายได้ปานกลาง (Senior Complex) การเคหะแห่งชาติเห็นชอบในการจัดทำโครงการบ้านเคหะกตัญญู (คลองหลวง 1 และ 2) จำนวน 360 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอขอความเห็นจากสภาพัฒน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย โครงการ (หนองหอย)

นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติมีเป้าหมายดำเนินการจัดทำโครงการ Senior Complex ใน 3 พื้นที่ คือ พื้นที่คลองหลวง 1 และ 2 จังหวัดปทุมธานี จำนวน 360 หน่วย พื้นที่ตำบลท่าตำหนัก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จำนวน 360 หน่วย และพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติจะจัดกิจกรรมวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ใน หัวข้อ “แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน” ในวันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีนำเสนอและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมืองแสดงบทบาทของหน่วยงาน และขยายเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมือง