ธอส.กวาดสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 61 รวม 213,161 ล้านบาท โต 8.3% เผยเป็นสินเชื่อบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท ประมาณ 60% เติบโตขึ้น 6.29% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าปล่อยกู้เพิ่มเป็น 203,262 ล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 ว่า ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 213,161ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.30% เมื่อเทียบกับปี 2560 คิดเป็น 173,958 บัญชี :ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 188,918 ล้านบาท จำนวนถึง 24,243 ล้านบาท และเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวนถึง 105,081 ราย (ประมาณ 60% ของจำนวนราย) เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 6.29% ส่งผลให้ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,115,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.03% มีสินทรัพย์รวม 1,163,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.55% มีเงินฝากรวม 943,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.94%
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ประชาชนใช้บริการสูงสุดคือ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือนครอบคลุมผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปล่อยสินเชื่อได้สูงถึง 24,800 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐบุคลากรภาครัฐ สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในราชการ อาทิ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ปล่อยสินเชื่อได้ 20,800 ล้านบาท ส่วนผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไปที่ประชาชนใช้บริการสูงสุดคือโครงการ For Home 2 ปล่อยสินเชื่อได้ 21,900 ล้านบาท
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) มีจำนวน 46,495 ล้านบาท คิดเป็น 4.17% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลง 0.04% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์โดยให้ความสำคัญกับการจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อรักษาบ้านให้ยังคงอยู่กับลูกค้าต่อไป และมีกำไรสุทธิ 12,611 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 12,137 ล้านบาท เพื่อให้ผ่าน KPI ตามนโยบายกระทรวงการคลัง ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 14.19% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
“ปี 2561ถือเป็นครั้งแรกที่ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึงระดับ 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า สะท้อนการคงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ ผ่านการสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีบ้านเป็นของตนเอง” ”นายฉัตรชัยกล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับในปี 2562 ธอส. ได้กำหนดแผนงานที่นำไปสู่การเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมยังคงมุ่งเดินหน้าตามพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้านซึ่งประกอบด้วยภารกิจหลัก 3 ด้าน คือ 1.Sustainability Portfolio ผลประกอบการที่มีความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายสำคัญในด้านต่าง ๆ อาทิ สินเชื่อปล่อยใหม่ที่ 203,262 ล้านบาท สินเชื่อคงค้างที่ 1,181,038 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,210,984 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงเหลือ 4.02% ของยอดสินเชื่อรวม
นอกจากนี้จะเร่งพิจารณาอนุมัติสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังให้ครบทั้งกรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ส่วนการที่พระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และหากได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้แล้วนั้น จะมีส่วนช่วยให้ธนาคารขยายขอบเขตในการดำเนินธุรกิจ และมีเครื่องมือเพิ่มเติมที่ลดต้นทุนการดำเนินงานลง อาทิ การเปิดจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธอส. เพื่อเพิ่มสัดส่วนของเงินฝากระยะยาวให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อ การเพิ่มอำนาจการออกพันธบัตรให้เป็นของคณะกรรมการธนาคารซึ่งช่วยให้มีความคล่องตัวในการออกพันธบัตรยิ่งขึ้น และยังรองรับการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุในรูปแบบ Reverse Mortgage
2.Technology for Digital Service ยกระดับการให้บริการดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในปัจจุบัน ด้วยการนำระบบงานหลัก GHB SYSTEM ที่พัฒนามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้นซึ่งมีกำหนดเริ่มใช้งานระบบอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2562 เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและบริการรูปแบบใหม่ อาทิ การเดินหน้าตามเฟส 2 ของ Mobile Application : GHB ALL แอปพลิเคชันที่รวมทุกบริการของ ธอส. ไว้ในมือลูกค้า ซึ่งจะพัฒนาให้มีบริการเพิ่มเติม อาทิ ดู Statement ทำ Pre Approve ยื่นกู้ ติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
รวมถึงการเพิ่มบริการฝากเงินด้วยเครื่องรับเงินฝากแบบพกพา GHB Mobile Deposit เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับเงินฝากของลูกค้าประชาชนตามชุมชนต่าง ๆ เพิ่มความรวดเร็ว มั่นใจ ปลอดภัย และสร้างวินัยการเงิน ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปี 2562 จำนวนการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลจะไม่น้อยกว่า 40% ของบริการหน้าเคาน์เตอร์ที่สาขาของธนาคาร
3.Strategic HRM&HRD&CG ยุทธศาสตร์ในด้านการบริหารและพัฒนาบุคลากร รวมถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของธนาคารให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ รองรับการให้บริการแบบดิจิทัล พร้อมไปกับการเดินหน้าสร้างองค์กรให้มีธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งองค์กรกำกับดูแล ลูกค้า พนักงาน และสังคม
ขณะเดียวกัน เมื่อเร็วๆ นี้ ธอส. ได้มีการแต่งตั้ง รองกรรมการผู้จัดการ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการคนใหม่ พร้อมด้วยโฆษกและรองโฆษกธนาคาร โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการธอส. แต่งตั้งนางฉัตร์รวี จิรกุลเมธาพัฒน์ เป็นรองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสาขา และรักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสาขาภูมิภาค 3 พร้อมแต่งตั้ง 7 ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ได้แก่ นายณรงค์พล ประภานิรินธน์ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์ นายวรณัฐ สุโฆษสมิต เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานตรวจสอบ
นางพอตา ยิ้มไตรพร เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสาขานครหลวง นายศักดิ์สิทธิ์ จิตตนูนท์ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารหนี้ นางภานิณี มโนสันติ์ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจการนโยบายสินเชื่อและภาครัฐ นางกรุณา เหมือนเตย เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกฎหมาย นางสุดจิตตรา คำดี เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการธอส. ยังได้แต่งตั้งให้นางสุดจิตตราเป็นโฆษกและนายณรงค์พลเป็นรองโฆษกธนาคารอาคาร