ธีรชาติ ธนสารกิจ เลือกบ้านอย่างมี รสนิยม บ่งบอกตัวตนที่ไม่เหมือนใคร

คุณตี๋-ธีรชาติ ธนสารกิจ คือ Business Director บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งในกรุงเทพ หลังจากที่ได้ตกลงกับแฟนว่าอยากใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ต่างจังหวัด ทั้งสองจึงตัดสินใจเลือกที่จะลงหลักปักฐานที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เวลาในการหาบ้าน จอง และทำสัญญาโอน ภายใน 2 อาทิตย์! โอ้ แม่เจ้า... ชักจะอยากเห็น "บ้าน" ของคุณตี๋แล้วสิครับ อยากรู้จริงว่าอะไรที่ดลจิตดลใจให้เขาตัดสินใจได้รวดเร็วขนาดนี้ ครั้งนี้ Mr.Baania จะอาสาพาไปพูดคุยกับหนุ่มนักโฆษณาคนนี้ และถือโอกาสเยี่ยมชมบ้านกันเลยครับ!

Baania: อยากรู้จังครับว่าคุณตี๋เจอบ้านหลังนี้ได้อย่างไร?

คุณตี๋: “ผมให้แฟนเป็นคนมา Survey หาบ้านหรือที่ดินที่เชียงใหม่ แล้วเขาก็กลับมาที่กรุงเทพฯ พร้อมโบรชัวร์บ้านของโครงการ ดิ เอสตีม เชียงใหม่ ยื่นให้ผมดูและบอกว่า “ไปดูที่นี่มา สวยมาก ๆ เลย เค้าว่าตัวเองต้องชอบ” ก่อนหน้านี้ผมหาหมู่บ้านที่น่าสนใจจากใน Internet แล้วส่งลิสต์ให้แฟนลองไปดูช่วงที่เขาขึ้นมาทำงานที่เชียงใหม่ เราคุยกันว่าเราไม่รีบ ดูๆ ไปก่อน เจอถูกใจก็ค่อยซื้อ ผมดูหน้าตาโบรชัวร์แล้วยังคิดอยู่ว่า ไม่เหมือนที่ส่งลิสต์ไปให้นี่นา แต่แฟนจับมัดเสียขนาดนี้จะทำไงได้ ผมโอนเงินจองไปเลยครับ ทั้งที่เห็นแต่โบรชัวร์กับแปลนบ้าน ธนาคารทำเรื่องประเมินกับกู้เสร็จในสองอาทิตย์ ส่วนบ้านจริงๆ ก็ไปเห็นกันวันโอนนั่นแหละ จบกระบวนการซื้อบ้านทั้งหมดภายใน 14 วัน

เมื่อผมมาเห็นบ้านจริง ๆ ตอนวันโอน บอกเลยครับว่า...ไม่ผิดหวัง ความรู้สึกแรกตั้งแต่ลงเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ และขับรถมาที่โครงการมันสะดวกมาก รถไม่ค่อยติด และเป็นถนนที่เชื่อมการเข้า-ออกเมืองได้ง่าย บรรยากาศโดยรอบสงบซึ่งผมชอบมาก เพราะเราต้องการบ้านสำหรับการพักผ่อนจริงๆ ผมเริ่มสำรวจบ้านในแต่ละส่วน ยอมรับเลยว่าที่นี่เลือกใช้วัสดุดีจริง คือใช้งานได้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่ามีให้ครบ"

Baania: อะไรที่ทำให้คุณตี๋ตัดสินใจจองบ้านรวดเร็วขนาดนี้ครับ?

คุณตี๋: “เอาจริงๆ ก็คือแฟนผมมาดูแล้วบอกว่าที่นี่ดีและชอบที่นี่มาก อันนี้น่าจะเป็นเหตุผลหลัก (ฮา) คือโครงการแถม Built-in pantry มาอยู่แล้ว พอเห็น Island ตรงกลางเท่านั้นแหละ รู้เลยว่าทำไมแฟนถึงได้ชอบมาก แฟนชอบครัวสวยๆ เจอแบบนี้เข้าคงกรี๊ดเลย อีกอย่างเป็นช่วงใกล้หมดโปรโมชันก็เลยรีบตัดสินใจ จริงๆ เราอยากได้บ้านหลังเล็กๆ เพราะเราอยู่กันแค่ 2 คน แต่สุดท้ายที่เลือกแบบบ้านหลังนี้ เพราะแปลนบ้านสวย ใช้งานได้จริง และไม่มีห้องไหนที่เล็กเกินไปจนอึดอัด ใช้งานได้ทุกห้องทุกพื้นที่ และได้บ้านหัวมุมด้วย”

Baania: ไอเดียการแต่งบ้านแบบ Eclectic Style คือตัวตนของเราเลยใช่ไหมครับ?

คุณตี๋: "จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ส่วนตัวผมค่อนข้างเป็นคนที่ชอบอะไรไม่เหมือนใคร เป็นตัวของตัวเอง ออกไปทางหัวรั้นนิดๆ หัวนอกหน่อย ชอบความคลาสสิ ชอบศิลปะ มันดูมีเสน่ห์และมีสไตล์ จริงๆ แล้ว ผมว่ารสนิยมของผมกับโครงการมีความคล้ายกันนะ ในเชียงใหม่หมู่บ้านที่จะมีสถาปัตยกรรมแบบอเมริกันโคโลเนียลที่มีความโดดเด่นและไม่เหมือนใครค่อนข้างหายาก นี่ก็น่าจะเป็นอีกความเข้ากันได้ของสไตล์การแต่งบ้านกับสไตล์การออกแบบโครงการ

 

แนวคิดที่จะแต่งบ้านหลังนี้ แรกๆ ไม่ได้เจาะจงว่าอยากแต่งแบบไหน แค่คิดว่าอยากให้เป็นบ้านที่รวบรวมของทุกอย่างที่เราชอบให้อยู่ด้วยกันได้ ผมชอบของเก่าแนว Antique เพราะแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชอบภาพเขียนที่สะสมมาตั้งแต่บ้านหลังแรก ผมชอบวัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ขัดแต่งเยอะ เฟอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่เลยเป็นแบบลอยตัว ซื้อเป็นชิ้นๆ ผมไม่ค่อยเลือกพวกที่จัดมาเป็น Set หรือพวกวัสดุปิดผิว ส่วนแฟนผมเป็นพวกมนุษย์เห็นผี แฟนรู้ว่าผมชอบของเก่า แต่ขอว่าอย่าให้ดูขลังก็พอ เดี๋ยวจะไม่กล้าอยู่  ผมเลยเลือกแต่งแบบผสมของใหม่กับแอนทีค  โดยอยากให้ภาพรวมเหมือนบ้านแบบฝรั่ง

การตกแต่งแบบนี้ เรียกว่า Eclectic Style คือ การตกแต่งแบบผสมผสาน โดยการมิกซ์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลายรูปแบบต่างยุค ต่างสมัย ต่างสไตล์ ให้เข้ากันโดยการจัดองก์ประกอบ หรือการใช้สีสันที่ไปด้วยกัน การตกแต่งแบบนี้จะใกล้เคียงกับสไตล์ Maximalism ซึ่งทั้งสองสไตล์ยืนอยู่บนแนวความคิด More is more เป็นบ้านมีความอบอุ่นและดูร่วมสมัย ก็เอาโจทย์ทั้งหมดนี้มาผสมผสานกัน มีทั้งของใหม่ผสมกับของ Antique มีความ Vintage ผสมกับ Oriental แล้วก็หยอดความร่วมสมัยเข้าไปนิดๆ หน่อยๆ เนี่ยแหละครับ Eclectic Style ในแบบของผม

อย่างมุมนี้ แฟนบอกว่าด้านใต้ console ดูโล่งไปหน่อย ช่วงบ่ายๆ วันนั้นเลยไปได้แม่เสือดาวจากบ้านถวายมาวางด้านล่าง แม่เสือดาวทำจากเรซิ่นทำสีทอง งานดี เหมือนงานทองเหลืองมาก ทำให้มุมนี้ดูหวานซ่อนเปรี้ยวขึ้น ส่วนแจกันดัดแปลงมาจากเชิงเทียน แจกันสวยๆ แพงไป เลยเอาเชิงเทียนมาใช้แทน ดูฟรุ้งฟริ้งดี

ส่วนของตกแต่งก็มาจากหลายๆ แหล่ง ส่วนหนึ่งเป็นของสะสม ส่วนที่ซื้อใหม่ส่วนใหญ่ได้มาจากจตุจักรบ้าง ร้านที่เป็นของอิมพอร์ตบ้างแต่จะรอตอนลดราคาหนักๆ สั่งจาก Internet ก็มี บางตัวก็เป็นของจากเชียงใหม่ ผมไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นของที่ไหนหรือแนวไหน ถ้าเห็นแล้วชอบราคาใช้ได้และเข้ากันได้กับของอื่นๆ ในห้องก็ซื้อเลยครับ”

Baania: มุมโปรดในบ้านของคุณตี๋ที่ชอบมากที่สุดคือมุมไหนครับ?

คุณตี๋: “ชอบทุกมุมของบ้านเลยครับ (ฮา) เพราะเราจัดเองแต่งเอง และมันได้ใช้งานจริงๆ ทุกห้อง ทั้งห้องรับแขก โต๊ะกินข้าว ห้องครัว ห้องนอน หรือห้องพระ ซึ่งมันเข้ากับความต้องการของตัวเองที่สุด”

Baania: ตั้งแต่ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ ประทับใจเรื่องอะไรบ้าง?

คุณตี๋: "จริงๆ มีหลายเรื่องที่ทำให้ผมกับแฟนรู้สึกดีและประทับใจกับการซื้อบ้านหลังนี้ ข้อแรก คือทีมงานและความรับผิดชอบของโครงการ ผมอยู่กรุงเทพเป็นหลัก ก็ต้องอาศัยทีมงานช่วยดูแลอะไรให้หลายๆ อย่าง ซึ่งที่โครงการ ดิ เอสตีม เชียงใหม่ ไม่ได้แค่โอนแล้วจบ แต่ช่วยดูแลกันตลอด การแก้ไขงานต่างๆ ก็รวดเร็วเรียบร้อยดี บางอย่างหมดระยะประกันไปแล้วยังมาช่วยดูแลกันอยู่เลย

ข้อสอง คือการออกแบบและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานได้จริงๆ แทบไม่ต้องเปลี่ยนหรือทำอะไรเพิ่มเลย คำนึงถึงคนที่ใช้งานจริง ตั้งแต่จุดเดินไฟ จุดติดตั้งโทรทัศน์ก็ให้มาครบหมดทุกห้อง ขนาดช่างที่ผมเรียกเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ชมกันหมดว่าที่นี่ให้มาครบและวัสดุดี

ข้อสาม คือสังคมของที่นี่ค่อนข้างดี สงบและไม่วุ่นวายกัน ตอนนี้หลักๆ ผมจะใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ และจะกลับมาเชียงใหม่ประมาณเดือนละครั้ง ผมแทบจะไม่ออกไปไหน คือถ้าจะออกไปก็อาจจะนัดเพื่อน หรืออยากหาร้านกาแฟนั่งชิลล์ๆ แต่ส่วนใหญ่ผมจะอยู่บ้าน ตอนเย็นว่างๆ ก็ไปว่ายน้ำ เข้าฟิตเนสที่คลับเฮาส์ของโครงการ ผมว่าที่นี่เหมาะที่จะเป็นบ้าน ในวันที่ผมกับแฟนจะมาใช้ชีวิตช่วงเกษียณที่สุดแล้วครับ ถ้าให้เลือกซื้อบ้านอีกครั้ง ผมก็ยังจะเลือกบ้านที่โครงการ ดิ เอสตีม เชียงใหม่อยู่ดีครับ"

หาได้ยากนะครับ สำหรับ “รสนิยม” ของคนซื้อบ้าน การแต่งบ้าน และการออกแบบของโครงการที่จะเข้ากันได้อย่างลงตัวขนาดนี้ โดยใช้เวลาคลิกกันเพียงไม่กี่วัน เมื่อเทียบกับหลาย ๆ คนที่อาจต้องใช้เวลานับเดือน นับปี เพื่อจะให้ได้ “บ้าน” อย่างที่ตัวเองฝัน หากใครที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่ในสังคมคุณภาพ หรือมีแผนที่จะย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่อาจจะยังไม่มีเวลามา Survey ด้วยตัวเอง ให้ www.baania.com ช่วยคุณค้นหาบ้านที่ใช่ ในทำเลที่ชอบ ก่อนก็ได้นะครับ...