รับมือปัญหาน้ำรั่วอย่างมืออาชีพ

น้ำรั่ว เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกสำหรับผู้ที่มีบ้านเพราะปัญหานี้มีทั้งมองเห็นด้วยตาเปล่าและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเพราะอยู่ใต้ดิน เจ้าของบ้านจึงต้องสังเกตให้ดี ใครที่ประสบกับปัญหาน้ำรั่วและอยากป้องกันแก้ไขอย่างถาวรสามารถหาข้อมูลได้จากบทความนี้

1. น้ำรั่ว ภัยเงียบของบ้านคุณ 

ปัญหาน้ำรั่วซึม เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุด สำหรับคนมีบ้านหรือมีคอนโดมิเนียม พอรู้อีกที่ค่าน้ำประปาก็ขึ้นมาสูญเปล่าโดยต้องจ่ายเงินโดยไม่จำเป็นมาหลายเดือน นอกเหนือจากปัญหานี้แล้ว เมื่อไล่ดูก็ไม่พบท่อในส่วนไหนเกิดการรั่วซึม ต้องไปตรวจดูสุขภัณฑ์ ดูก๊อกน้ำ ฝักบัว ชักโครก เมื่อซ่อมแซมแล้วทุกอย่างใช้งานได้ดีจะเป็นการแก้ปัญหาน้ำรั่วอย่างยั่งยืน โดยปกติปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเจ้าของบ้านได้ทำการตรวจสอบแก้ไขเป็นที่เรียบร้อย 

ปัญหาน้ำรั่ว นอกจากจะทำให้เราจ่ายค่าน้ำแพงขึ้นแล้ว ยังสามารถก่อปัญหาใหญ่ ๆ ตามมาได้ด้วย เช่น ทำให้เพื่อเชื้อราหรือตะไคร่ในพื้นและผนัง ทำมีสีลอกล่อน วัสดุเกิดอาการบวมน้ำและโป่งพองขึ้นมา และส่งผลเสียหายต่อโครงสร้างของบ้านที่เป็นเหล็กก็จะขึ้นสนิมจนเกิดผุกร่อนในที่สุด หากไม่รีบแก้ไขก็จะทำให้บ้านแตกร้าวหรือทรุดในที่สุด

2. สังเกตอย่างไรว่ามีน้ำรั่วซึมในบ้าน  

การสังเกตว่าบ้านเรากำลังมีน้ำรั่วอยู่หรือไม่อย่างง่าย ๆ คือ ผู้ใช้น้ำควรตรวจดูใบแจ้งหนี้ค่าน้ำในแต่ละเดือน และนำมาเปรียบเทียบกันว่าอัตราค่าน้ำมีความผิดปกติหรือไม่ หรือเดือนไหนมีการใช้น้ำที่มากผิดปกติโดยไม่มีสาเหตุ เช่น มีคนอยู่ที่บ้านจำนวนเท่าเดิม และไม่มีการใช้น้ำที่มากในเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือการใช้น้ำตามกิจวัตรปกติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ต้องมีจุดรั่วในบ้านโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้ว

นอกเหนือจากนี้ให้ลองสังเกตด้วยตาเปล่าว่ามีส่วนไหนของตัวบ้านมีน้ำรั่วซึมผิดสังเกต ไม่ว่าจะเป็นตามข้อต่อน้ำประปาในบ้านมีการรั่วซึมหรือไม่ ลูกลอยของชักโครกยังใช้งานได้อย่างปกติหรือไม่ แต่เมื่อสำรวจอย่างละเอียดตามผนัง พื้น  ฝ้าเพดานแล้วไม่มีสิ่งผิดปกติเลย ให้ปิดก๊อกน้ำทุกก๊อก สุขภัณฑ์ทุกจุด และไปดูที่มิเตอร์น้ำว่ายังมีการหมุนอยู่หรือไม่และเลขตัวหลังของมิเตอร์มีการเคลื่อนไหวรึเปล่า ถ้าเป็นทั้งสองอย่างแสดงว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งรั่วอย่างแน่นอน

3. ตรวจสอบจุดรั่วที่ท่อประปา 

การตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย หากมีแบบแปลนการเดินของท่อประปาก็สามารถช่วยได้มาก แต่ถ้าไม่มี เราก็ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย โดยขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้ ถ้าบ้านไหนมีท่อประปาเป็นแบบเดินลอยคือ เห็นท่อด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนก็ไม่ยากจะสังเกตตามจุดต่าง ๆ ของท่อ แต่บ้านโดยส่วนใหญ่แล้วท่อประปามักซ่อนอยู่ตามพื้น บนฝ้าและผนังห้อง 

ในลำดับถัดมา ควรเดินไล่ดูท่อข้อต่อตามการแยกสาขาของท่อประปา สามารถปิดวาล์วเช็กทีละส่วน โดยปิดวาล์วชั้นบนของบ้านก่อน หากมิเตอร์น้ำหมุนและลองสลับไปปิดวาล์วน้ำด้านล่างดูบ้าง ถ้ายังหมุนอยู่แสดงว่าน้ำรั่วจากทางด้านล่างของตัวบ้าน

4. เครื่องตรวจสอบน้ำรั่ว  

สามารถให้ช่างประปาเข้ามาตรวจสอบให้ สนนราคาอยู่ที่หลักพัน ถ้าเป็นบ้านเดี่ยว ราคาจะลดหลั่นกันไปตามสภาพ หากเป็นบ้านทาวน์โฮม ค่าบริการจะอยู่ประมาณหลักพันต้น ๆ เท่านั้น
เครื่องตรวจสอบน้ำรั่วจะทำงานด้วยระบบดิจิตัล และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำเป็นอย่างยิ่ง มักใช้ในการตรวจสอบก่อนโอนกรรมสิทธิ์ก่อนที่จะรับมอบบ้านและเซ็นโอนบ้านกับโครงการต่าง ๆ  ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ซื้อบ้านในโครงการไม่ปวดหัวกับปัญหาจุกจิก อย่างเช่น น้ำรั่วซึม โดยไม่ทราบว่ารั่วตรงส่วนไหนและต้องไปไล่หาเองทีละจุด

5. อุปกรณ์เตือนเมื่อน้ำรั่ว

ปัจจุบันมีอุปกรณ์ทันสมัยที่สามารถตรวจสอบน้ำรั่วในบ้าน ซึ่งมีราคาเพียงร้อยกว่าบาทเท่านั้น วิธีการใช้คือให้นำเครื่องไปวางไว้ในจุดที่มีโอกาสจะเกิดน้ำรั่วในบ้าน หากเครื่องตรวจจับความเปียกชื้นได้ จะทำการส่งเสียงร้องเตือนทันที อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เพื่อรับการแจ้งเตือนในแบบทันทีได้อีกด้วย

6. ซ่อมก๊อกน้ำรั่วด้วยตนเอง

สามารถซ่อมเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องอาศัยช่างเพียงแต่รู้วิธีง่าย ๆ โดยวิธีเตรียมอุปกรณ์แค่เทปพันเกลียวและคีมประปา โดยมีวิธีการดังนี้

1. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าจุดรั่วซึมอยู่ตรงไหนกันแน่
2. เมื่อมั่นใจแล้วว่าเป็นจุดนี้ ให้ปิดวาล์วจ่ายน้ำขณะที่กำลังซ่อม แล้วหาผ้ามาหุ้มตัวก๊อก ก่อนใช้คีมหมุนตัวก๊อก
3. เมื่อเห็นเทปเกลียวของเก่าให้ดึงออกมาแล้วเอาเทปที่เตรียมไว้พันใหม่หลาย ๆ รอบ เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้หมุนหัวก๊อกอีกครั้งเพื่อใช้งานในลำดับต่อไป

7. ถ้าท่อประปารั่วในผนังควรทำอย่างไร  

ให้สังเกตก่อนว่าผนังบ้านมีรอยเปียกซึมของน้ำออกมาบ้างหรือไม่ ถ้ามีอาการสีผนังปูดบวม ลอกล่อนออกมา แสดงว่ามีท่อประปาในผนังรั่วอย่างแน่นอน ส่วนผนังห้องน้ำอาจสังเกตได้ยากกว่าเพราะมีการปูกระเบื้องทับไว้อีกชั้นหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การสังเกตคือให้ดูว่ามีน้ำกองอยู่บริเวณด้านล่างของพื้นห้องหรือไม่ มีมากน้อยแค่ไหน การแก้ปัญหาในเบื้องต้น ให้สกัดบริเวณผิวผนังออกก่อนอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้กระทบโครงสร้างของตัวบ้าน เมื่อเจอจุดที่เกิดปัญหาแล้วให้เลือกวิธีการอุดหรือตัดท่อน้ำออก

8. วิธีแก้ปัญหาท่อประปาใต้ดินรั่ว 

หากพบพื้นดินที่เปียกชื้นแบบผิดปกติ ให้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการรั่วซึมของท่อประปาใต้ดิน ซึ่งอาจจะส่งผลให้น้ำไหลอ่อนกว่าปกติ หรือต้นไม้บริเวณดังกล่าวเติบโตกว่าพื้นที่บริเวณอื่น ๆ รวมถึงพื้นดินและทรายเคลื่อนตัวมากผิดปกติ วิธีที่ง่ายที่สุดคือตัดระบบท่อน้ำทิ้งเก่า แล้วเดินท่อลอยใหม่หรือปะซ่อมแซมรูรั่วของท่อประปา ถ้ามีความเสียหายหนักมากสามารถเรียกช่างประปามาซ่อมแซม เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องค่าน้ำประปาในอนาคต

9. ท่อประปาบนฝ้าเพดานรั่วต้องรีบแก้ไข  

หากพบปัญหานี้ต้องรีบแก้ไขทันที เพราะหากปล่อยไว้ฝ้าอาจหล่นลงมาและเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ที่อยู่อาศัยได้ ถ้าปัญหายังไม่หนักมากให้ใช้ซีลิโคนมาปิดไว้เป็นการชั่วคราว แต่การขึ้นไปบนหลังคาควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ควรรู้จุดที่แน่ชัดก่อนที่จะทำการขึ้นไปอุดรอยรั่ว ถ้าไม่ชำนาญเรียกช่างที่ชำนาญงานทางด้านนี้จะดีกว่า หรือมีอีกหนึ่งวิธีคือ ใช้เทปยางกันซึมแก้ปัญหาไปก่อนที่จะรีบเรียกช่างประปามาแก้ไข

10. ปั๊มน้ำรั่ว อย่าปล่อยไว้  

ปัญหาหนักใจแก้ไม่ตกของใครหลาย ๆ คน  ถึงแม้ปั๊มน้ำจะยังสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา แต่อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกหลายอย่าง เช่น ค่าน้ำขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่ได้ กว่าจะมาพบว่าเป็นที่ปั๊มน้ำรั่วก็เสียเงินโดยไม่จำเป็นไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังทำให้ปั๊มน้ำเกิดการติด ๆ ดับ ๆ ส่งน้ำไม่ถึงชั้น 2 ของบ้านเวลาเปิดใช้ 

ปั๊มน้ำรั่วสามารถสังเกตได้จาก ตัวปั๊มเองอาจเกิดการรั่วซึม เช่น ซีลเสื่อมสภาพ ถังแรงดันน้ำผุสึกกร่อน ซึ่งเป็นธรรมดาของอายุการใช้งานที่นานจนเกินไป ให้ลองเปลี่ยนอุปกรณ์เบื้องต้น หรือขันเกลียวต่าง ๆ ให้แน่นหนาขึ้น หากไม่มีความชำนาญในการแก้ไขด้วยตนเอง ให้เรียกช่างมาตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วก่อนที่ปั๊มน้ำจะเสียหายจนต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่

ปัญหาที่เกิดขึ้นของบ้านเกือบทุกหลังคือ การรั่วซึมของท่อภายในและภายนอกบ้าน อยู่ที่การรับมือปัญหาน้ำรั่วอย่างมืออาชีพ ซึ่งบทความนี้บอกข้อมูลในการแก้ไขเบื้องต้นโดยไม่ต้องเรียกช่างก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

น้ำรั่วซึม เป็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับบ้านเรา เนื่องจากการวางระบบท่อประปาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตามปัญหานี้ทุกคนสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ เพียงใช้ความรู้จากบทความนี้ หากเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อน อย่างเช่น การซ่อมท่อในผนังหรือท่อน้ำใต้ดิน กระทั่งการปรับอุปกรณ์บางชิ้นก็สามารถเรียกหาช่างผู้เชี่ยวชาญมาจัดการได้ ทั้งนี้ เมื่อสงสัยว่าเกิดน้ำรั่วในบ้าน อย่าปล่อยปัญหาไว้เนิ่นนานเพราะอาจจะลุกลามบานปลายได้