ผุดตลาดเทิดไท(ตาลคู่)ที่โคราช ทุ่มงบ500 ล้าน ให้บริการครบวงจรตลอด 24 ชั่วโมง
2 ผู้บริหารหนุ่มทุ่มงบ 500 ล้าน เนรมิตที่ดินบนถนนมิตรภาพ สร้างตลาดเทิดไท (ตาลคู่) ใหญ่สุดในภาคอีสาน แบบครบวงจร 24 ชั่วโมง พร้อมฟ้องแพ่งและอาญา เทศบาลตำบลสุรนารี หลังไม่ยอมออกใบอนุญาตถมดิน ทั้งที่ สนง.โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา ยันตามกรอบของกฎหมาย สามารถถมได้
แนวโน้มการแข่งขันด้านธุรกิจเริ่มรุนแรงมากขึ้น จากการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนขนาดใหญ่หลายกลุ่ม ขณะเดียวกันก็ทำให้การค้าส่ง ค้าปลีก ตามหัวเมืองขนาดใหญ่ โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา มีการปรับตัวตามไปด้วย ทำให้ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ตลาดสด หรือบ้านจัดสรร ต้องพัฒนาและปรับตัวเพื่อสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน และมีเงินหมุนเวียนในจังหวัดเป็นจำนวนมาก
นายจักรกฤษณ์ วัชรมาลีกุล ประธานกรรมการบริหาร ตลาดเทิดไท (ตาลคู่) เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายภคมน จินดามุข คณะกรรมการบริหารตลาดเทิดไท ได้นำเงินจำนวน 1 แสนบาท ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนสร้างศาลเจ้าพ่อขุนด่าน (ตาลคู่) หลังใหม่ ตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 139 ถ.มิตรภาพ ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ซึ่งมีนายศุภชัย จันทร์หล้า ประธานผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อขุนด่าน(ตาลคู่) เป็นผู้รับมอบในครั้งนี้
ส่วนแนวคิดในการลงทุนทำตลาดค้าส่ง ค้าปลีก แห่งใหม่ใหญ่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บนเนื้อที่ 100 ไร่ โดยใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท เพื่อเป็นการลดการจราจรที่ติดขัดอยู่แต่ในตัวเมือง และเป็นการกระจายสินค้าออกนอกพื้นที่ โดยที่ไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำให้สะดวกต่อการขนย้าย ติดต่อซื้อขาย อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดตามแนวคิดของ รองศาสตราจารย์ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งตนมองว่าจังหวัดนครราชสีมามีศักยภาพ และมีความพร้อมในการลงทุนหลายด้าน เนื่องจากว่าเป็นจังหวัดใหญ่และเป็นประตูสู่อีสานที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ทั้งนี้ การทำตลาดเทิดไท (ตาลคู่) ตนจะยกระดับมาตรฐานคุณภาพ พัฒนาศักยภาพด้านการตลาด และสร้างโอกาสทางการค้า รวมไปถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจโดยจะทำเป็นตลาดค้าส่ง ค้าปลีก 24 ชั่วโมงแบบครบวงจร และมีการแบ่งสัดส่วนเป็นโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนธนาคาร ไอที หรือแม้แต่อาหาร อาทิ เคเอฟซี นอกจากนี้ยังมีโซน อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ โดยภายในตลาดจะมีการสร้างอาคารพาณิชย์กว่า 300 คูหา แผงขายของขนาด 5 คูณ 5 เมตร จำนวนกว่า 5,000 แผง ส่วนความกว้างของถนนทุกเส้นภายในตลาดจะมีความกว้าง 16 เมตร เพื่อง่ายต่อการขนถ่ายสินค้าและการจราจร ด้านการดูแลความปลอดภัย ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร กล้องวงจรปิด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ตลาด ทางด้านนายอดุลย์ เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 10 ได้มีการจัดสรรงบประมาณจำนวน 42 ล้านบาทและได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากทางเทศบาลนครนครราชสีมา นำท่อขนาดกว้าง 1.50 เพื่อผันน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ทุกปี โดยมีการวางท่อทั้งหมด 3 จุด เริ่มตั้งแต่ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน (ตาลคู่) จุดที่ 2 หน้าศูนย์เบนซ์ จุดที่ 3 ปากซอย 3 ยอด ก่อนจะผันลอดผ่านถนนไปออกลำตะคอง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ประธานกรรมการบริหาร ตลาดเทิดไท (ตาลคู่) ยังเปิดเผยกับทีมข่าวต่อไปว่า ขนาดนี้ยังไม่สามารถถมดินได้เนื่องจากทางเทศบาลตำบลสุรนารี ไม่ออกใบอนุญาตในการถมดินให้ ทั้งที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมาได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มและเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องขอถมดิน ก็สามารถกระทำได้ตามกรอบของกฎหมายคือพระราชบัญญัติการขุดดินถมดิน พ.ศ.2543 และกฎหมายกระทรวงกำหนดมาตรการป้องกันการพังทลายของดิน หรือสิ่งปลูกสร้างในการขุดดิน พ.ศ.2548 ทำให้โครงการที่จะทำตลาดมีการหยุดชะงักส่งผลเสียเป็นอย่างมาก เมื่อทวงถามคำตอบก็ตอบสั้นๆว่าอยู่ในช่วงตรวจสอบเอกสาร ทั้งที่ยื่นเอกสารไปก่อนหน้านั้นแล้วหลายเดือน แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งทางโครงการได้มีการหารือแล้วว่า จะมีการดำเนินการฟ้องแพ่งและอาญา หากเทศบาลตำบลสุรนารียังไม่ยอมออกใบอนุญาตถมดินให้
ที่มา : korat-realestate.com