พลัส ฯ เผยคอนโด-ทาวน์เฮ้าส์ สินค้าฮอตปี 61 ตลาดกลาง-บนกำลังซื้อยังปึ้ก วางกลยุทธ์รับมือโครงการใหม่บุกตลาดเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้ 1,300 ล้าน โต 18%
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2561 ถือเป็นปีที่มีปัจจัยบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นปีที่รัฐบาลลงทุนด้านคมนาคมต่อเนื่อง มีเม็ดเงินเข้ามาในระบบสูงสุดกว่าที่เคยมีมาประมาณ 30% ของงบลงทุนรวมทั้งประเทศ ที่ถูกนำมาใช้เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนเหล่านี้จะส่งผลดีต่อการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากเป็นตลาดที่รองรับการอยู่อาศัยจริงและเพื่อการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตาม 2 ประการคือ 1. ร่างกฎหมายผังเมือง ที่คาดว่าจะประกาศใช้เร็วๆ นี้ ต้องจับตาดูในรายละเอียดว่ามีการปรับเปลี่ยนด้านไหนบ้าง และ 2.ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทได้คาดการณ์ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 จะยังคงเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งยังคงมีกำลังซื้อในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียม รองลงมาคือ ทาวน์เฮาส์ และตามด้วยบ้านเดี่ยว โดยคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์กลุ่มตลาดระดับกลางถึงกลุ่มระดับบนจะเป็นที่ต้องการในตลาดสูงขึ้น และตลาดบ้านเดี่ยวกลุ่มระดับกลางยังเป็นอุปทานหลักและมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี เนื่องจากตลาดระดับกลาง-บน ยังมีแรงขับโดยเฉพาะจากกลุ่มตลาดแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียมเป็นหลักเช่นเดิม และจะเริ่มขยายพื้นที่เติบโตตั้งแต่พื้นที่ชั้นในไปยังแถบชั้นกลางของกรุงเทพฯ
สำหรับกลยุทธ์และแผนงานของบริษัทในปี 2561 นั้น ยังตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการเติบโต ด้วยการต่อยอดนโยบายการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ (Digital Transformation) และเน้นสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและการเงิน จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อบรรลุเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้าทั้งด้านการขายและบริการ
“ในปี 2561 เป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทาย เนื่องจากมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดมากกว่าปีก่อนหน้าเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมและจะมีการต่อยอดจากธุรกิจเดิม โดยลงทุนระบบด้านเทคโนโลยีเพื่อให้พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้กำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 1,300 ล้านบาท หรือเติบโต 18% จากปี 2560 ซึ่งมีรายได้รวม 1,100 ล้านบาท (เติบโต 14% จากปี 2559) โดยสัดส่วนรายได้ยังคงแบ่งเป็น 60% มาจากงานด้านการขาย และ 40% มาจากงานด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์” นายอนุกูล กล่าว