ชีวิตวิถีใหม่เร่งสังคมไทยเป็นตัวเร่งให้คนส่วนใหญ่ในสังคมปรับตัวไปอย่างไรเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้นจากการ “ทำงานที่บ้าน” หรือ Work From Home โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่าย
ในวันที่ทุกคนเดินทางออกนอกบ้านน้อยลง และใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น พฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงตั้งแต่ต้นปีถึงเมษายน 2563 ทำให้เห็นถึงการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไปในคนกลุ่ม Gen Y และ Baby Bloomer
วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อในเครือของบริษัท โดยข้อมูลจากฝ่าย Data Intelligence & Customer Insights (DICI) ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในช่วงเวลาตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2563 ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ชีวิตวิถีใหม่ (The New Normal) ได้ว่า
1.แม้ในภาพรวม ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทจะลดลง (ลดลง 37% ในเดือนเมษายน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน)
2.การที่คนไม่ค่อยเดินทางออกนอกบ้าน เป็นตัวเร่งให้สังคมไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสดเร็วขึ้น โดยคนทุกวัยเริ่มคุ้นชินกับการใช้จ่ายออนไลน์และไลฟ์สไตล์ดิจิทัล เช่น สั่งอาหาร ชอปปิ้ง รับชมความบันเทิงต่างๆ ผ่านทางออนไลน์
5 เทรนด์พฤติกรรมการใช้จ่ายหลัง COVID-19
ในช่วงโควิด-19 “ทุกวัยหันมาใช้จ่ายออนไลน์” จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตร ชี้ให้เห็นว่าช่วงมีนาคมถึงเมษายน 2563 จำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตที่ทำรายการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เฉลี่ยต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นถึง 37% โดยในจำนวนนี้ 10% เป็นผู้ใช้รายใหม่
ทั้งนี้ พบว่าในคน ทุกวัยมีแนวโน้มใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น แม้ว่ากลุ่มผู้ใช้ที่มีจำนวนมากที่สุดจะเป็นกลุ่ม Gen Y แต่กลุ่ม Baby Boomers ก็ปรับตัวมาใช้ช่องทางดิจิทัลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหมวดบริการส่งอาหาร และการชอปปิ้งออนไลน์ โดยพบว่ากลุ่ม Baby Boomer มีจำนวนครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในบางแพลทฟอร์มเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แสดงให้เห็นว่า ชีวิตวิถีใหม่เป็นตัวเร่งให้สังคมไทยก้าวสู่ยุคสังคมไร้เงินสด
“ยอดชอปปิ้งออนไลน์ บริการส่งอาหาร เติบโตก้าวกระโดด” ในช่วงที่ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ไม่สามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบ ผู้บริโภคเริ่มปรับตัว คุ้นชินกับวิถีชีวิตที่ง่าย สะดวกสบาย นิยมการสั่งอาหาร ชอปปิ้งผ่านทางออนไลน์ เห็นได้จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดดังกล่าวในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน 2563 ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยหมวดช้อปปิ้งออนไลน์มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 46% ในเดือนมีนาคม และ 75% ในเดือนเมษายน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนบริการส่งอาหาร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือนมีนาคมและเมษายนเพิ่มขึ้น ถึง 300% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ช่วงเวลาการสั่งอาหารก่อนเที่ยงมีการเติบโตขึ้นมากจากก่อนหน้าช่วงโควิด น่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของคำสั่งซื้อในช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง
พบว่า 92% ของลูกค้ามักใช้บริการผู้ให้บริการเพียงรายเดียว มากกว่าจะเปลี่ยนผู้ให้บริการไปมา เป็นโอกาสที่ดีสำหรับ แบรนด์ผู้ให้บริการที่ควรเร่งสร้าง brand loyalty ลูกค้า
สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ไอที และความบันเทิงออนไลน์ พบว่ามียอดใช้จ่ายสูงขึ้น ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ก่อนที่จะเริ่มลดลงในเดือนเมษายน เนื่องจากนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลให้หลายบริษัทให้พนักงาน Work from Home
โดยกลุ่มที่มียอดใช้จ่ายในหมวดนี้สูงสุด คือ กลุ่ม Gen Y นอกจากนี้ การใช้จ่ายในหมวดความบันเทิงออนไลน์ เช่น บริการสตรีมมิ่ง เกมออนไลน์ โซเชียลมีเดียในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เทียบกับค่าเฉลี่ยยอดใช้จ่ายในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
“ยอดใช้จ่ายหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ต เติบโตต่อเนื่อง” จากวิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง แต่หันมาใช้จ่ายในหมวดสินค้าจำเป็นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหมวดซุปเปอร์มาร์เก็ต
ทั้งนี้ หมวดที่ได้รับผลกระทบ คือ หมวดสายการบิน หมวดโรงแรมและหมวดท่องเที่ยว ซึ่งยอดใช้จ่ายผ่านบัตรลดลงถึง 100%, 89% และ 66% ตามลำดับในเดือนเมษายน 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนหมวดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสินค้าแฟชั่น ลดลง 85%, 72% และ 77% ตามลำดับ ในทางตรงกันข้าม หมวดซุปเปอร์มาร์เก็ต ในเดือนมีนาคม เติบโตถึง 34% และมียอดใช้จ่ายรายวันเฉลี่ยเติบโตถึงสองเท่า เทียบกับยอดเมื่อปีที่ผ่านมา
สำหรับพฤติกรรมการซื้อที่เห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนไป คือ ลูกค้าจำนวนมาก ใช้จ่ายในหมวดนี้ในช่วงเวลาก่อนเที่ยง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และมีจำนวนการใช้จ่ายลดลงหลังสองทุ่ม
ขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง เพิ่มขึ้นประมาณ 15% ในเดือนมีนาคม และมีการซื้อจำนวนมากในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนมีนาคม เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งซื้อเพื่อกักตุนสินค้า ก่อนจะลดลงในเดือนเมษายน โดยยอดใช้จ่ายในหมวดนี้ในเดือนเมษายนเติบโต 2% และมียอดใช้จ่ายรายวัน ใกล้เคียงกับยอดใช้จ่ายรายวันของปีที่ผ่านม
อีกเทรนด์ของการใช้จ่ายเกิดขึ้นกับ ยอดใช้จ่ายในหมวดกองทุน เพิ่มขึ้นถึง 196% ในเดือนมีนาคม และ 157% ในเดือนเมษายน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่เป็นการใช้เพื่อซื้อกองทุน SSF และยอดใช้จ่ายเพื่อชำระเบี้ยประกันกรมธรรม์ควบการลงทุน แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อ หันมาให้ความสำคัญกับการออม และการลงทุน เพื่อความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น
ธุรกิจปรับกลยุทธ์รับพฤติกรรมเปลี่ยน
ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ประกอบไปด้วย บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วีซ่า เปิดเผยว่า จากข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นถึงความต้องการซื้อสินค้าในตลาดยังมีอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนหมวดการใช้จ่าย ไปตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ธุรกิจต่างๆ จึงควรเร่งปรับกลยุทธ์ โดยหันมาให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และมุ่งเจาะตลาดที่ยังคงมีศักยภาพสูง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ หรือโปรโมชั่นที่เหมาะกับชีวิตวิถีใหม่ของลูกค้า เช่น โปรโมชั่นที่เกี่ยวกับการชอปปิ้งออนไลน์ บริการส่งอาหาร สินค้าไอที ความบันเทิงออนไลน์ ฯลฯ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ในเวลาที่ทันท่วงที เพื่อให้ยังคงสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง