การสร้างบ้านหรือปรับปรุงใหม่ มักจะมาพร้อมกับปัญหากวนใจที่ทำให้หลายคนต้องกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหามลภาวะทางกลิ่นที่มาจากสีทาบ้านที่สร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยและคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง Baania จึงขออาสาพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับวิธีดับกลิ่นสีทาบ้านให้ได้ผลดี โดยไม่มีผลข้างเคียงกันดีกว่า
ก่อนจะลงมือภาคปฏิบัติ เรามาลองศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของสีทาบ้านประเภทต่าง ๆ กันสักเล็กน้อย ว่าสีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อทำให้เราสามารถเตรียมความพร้อมรับมือได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง
เป็นสีที่ผู้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื่องจากสีชนิดนี้นิยมนำมาใช้ทาส่วนต่าง ๆ ของบ้านอีกทั้งยังเหมาะกับงานประเภทปูนหรือคอนกรีต เนื่องจากสีทาบ้านประเภทนี้มีคุณสมบัติในการยึดติดที่ดีเหมาะสำหรับทั้งงานภายนอกและภายใน เหมาะสำหรับเป็นสีทาผนังก็ดี หรือเป็นสีทารองพื้นก็ได้
อย่างไรก็ดี สีน้ำอะครีลิคกลับมีข้อเสียใหญ่ที่สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้อยู่อาศัย นั่นก็คือ กลิ่นฉุนของสารเคมีชนิดเดียวกับที่มีในพลาสติก หากสูดดมนาน ๆ จะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจไม่สะดวก และหากสูดดมเกินขนาดอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
สีทาบ้านประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มของช่างไม้ เนื่องจากมีคุณสมบัติแห้งช้าและสามารถทำให้วัสดุที่ถูกทาขึ้นเงาจนเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น เราจึงมักพบสีน้ำมันถูกนำมาใช้กับการทาบ้านที่สร้างจากไม้ หรือโลหะที่ต้องการความเงางามนั่นเอง
ถึงแม้ว่าสีน้ำมันจะได้รับความนิยมนำมาใช้ทาบ้านและเป็นสีพื้นฐานของงานศิลปะมายาวนานกว่า 500 ปี แต่ข้อเสียของสีประเภทนี้ก็มีอยู่มาก เพราะวัตถุดิบหลักที่ใช้ผลิตมาจากน้ำมันระเหย ซึ่งส่งผลกระทบในเรื่องของกลิ่นและสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน หากสูดดมสีน้ำมันเป็นระยะเวลายาวนาน สารระเหยเหล่านี้ก็อาจทำลายปอดหรือส่งผลต่อระบบการหายใจของเราได้เช่นกัน
มีลักษณะคล้ายกับสีน้ำมัน แต่ถูกนำมาประยุกต์ใหม่ให้เหมาะกับงานก่อสร้างที่เน้นพื้นไม้เป็นหลัก อีกทั้งยังมีคุณสมบัติปกป้องพื้นไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากตัวสีประกอบไปด้วยฟิล์มบาง ๆ มากมาย สีทาบ้านไม้ที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ แลคเกอร์ และ ยูรีเทน นั่นเอง
ข้อเสียของสีทาไม้ก็ไม่ต่างจากสีน้ำมัน เพราะมีวัตถุดิบหลักในการผลิตเป็นน้ำมันระเหย เพียงแต่สีทาไม้จะส่งกลิ่นรุนแรงและยาวนานกว่าสีน้ำมันมาก หากบ้านใดไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีก็อาจต้องทนสูดกลิ่นสีทาไม้ประเภทนี้นานนับเดือนเลยทีเดียว
สีประเภทนี้นิยมใช้กับบ้านซึ่งมีโครงสร้างเป็นโลหะ เนื่องจากมีคุณสมบัติระเหยง่าย แห้งไว ยึดเกาะพื้นผิวได้ดี อีกทั้งยังมีราคาประหยัด เหมาะสำหรับใช้ทาป้องกันสนิม เป็นต้น
ข้อเสียของสีกัลป์วาไนซ์อาจไม่ได้มาในรูปแบบกลิ่นสักเท่าไรนัก แต่กลับมาในรูปแบบของสารตกค้างซึ่งไม่ควรใช้กับพื้นที่ที่ต้องเกี่ยวข้องกับอาหารการกินเป็นอันขาด
อุปกรณ์ยอดฮิตที่ไม่ว่าผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังคงใช้งานได้ดี เนื่องจากกากกาแฟมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้ดี เหมาะสำหรับกำจัดกลิ่นสีทาบ้านได้ทุกประเภท
ถือว่าเป็นน้ำยาอเนกประสงค์ที่สามารถใช้กับงานทำความสะอาดได้แทบจะทุกประเภท เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถกำจัดกลิ่นฉุนได้ภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นสารสกัดจากกระบวนการธรรมชาติโดยไม่มีสารตกค้างให้กังวลใจ
อุปกรณ์บ้าน ๆ ที่มีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นของสีทาบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากท่านใดมีข้อสงสัยในประสิทธิภาพของถ่าน สามารถทดลองใช้กับตู้เย็นที่บ้านดูก่อนได้ รับรองว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์ไม่กล้าเข้ามากล้ำกรายอย่างแน่นอน
เรียกได้ว่าเป็นวิธีพิชิตสีทาบ้านด้วยวิธีการหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ถึงแม้ว่าอุปกรณ์ชนิดนี้ไม่ได้มีคุณสมบัติดูดซับกลิ่นอย่างอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ แต่เป็นวิธีการที่นำเอาสารระเหยชนิดหนึ่งซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ ไปทดแทนสารระเหยที่ก่อมลภาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ถือว่าเป็นการกำจัดกลิ่นด้วยวิธีการธรรมชาติที่ได้ผลดี การันตีด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน เพียงแค่นำพืชผักหรือผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด อาทิ มะกรูด มะนาว สับปะรด หรือหอมหัวใหญ่ ไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ก็สามารถช่วยดูดซับกลิ่นของสีทาบ้านให้จางหายไปอย่างรวดเร็ว
การกำจัดกลิ่นของสีทาบ้านให้ได้ผลดีนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ดังนั้น ผู้อยู่อาศัยควรเข้าใจบริบทของพื้นที่ จึงจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวิธีการได้อย่างเหมาะสม วิธีกำจัดสีทาบ้านซึ่งได้รับความนิยมประกอบไปด้วย
อย่าปล่อยให้กลิ่นสีทาบ้านสร้างความวุ่นวายใจให้กับผู้อยู่อาศัยและคนที่อยู่ใกล้ชิด เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นมลพิษใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี วิธีดับกลิ่นสีทาบ้านให้ถูกวิธี ผู้อยู่อาศัยควรศึกษาวิธีการต่าง ๆ ให้รอบคอบ เพราะหากอยากได้ผลลัพธ์ที่เยี่ยมยอด ต้องสามารถประยุกต์ใช้วิธีการให้เข้ากับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง