วิธีปลูกดอกกุหลาบอย่างไรให้ออกดอกสวยทั้งปี

ราชินีแห่งดอกไม้ในเทศกาลแห่งความรัก คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ดอกกุหลาบ” ดอกไม้แทนความรู้สึกและความหมายดี ๆ ให้แก่คนที่คุณรัก แต่ครั้นเมื่อคุณจะไปเลือกซื้อ กลับพบว่า ราคาของกุหลาบค่อนข้างแรง ยิ่งในช่วงเทศกาลก็ยิ่งแพง

Baania จึงขอนำทุกท่านมารู้จัก กับวิธีปลูกดอกกุหลาบอย่างไรให้ออกดอกสวยทั้งปี เพื่อให้ท่านได้ลองนำไปปลูกกัน แถมสร้างความประทับใจให้กับคนที่คุณรัก

วิธีปลูกดอกกุหลาบและพันธุ์กุหลาบที่นิยมปลูกในบ้าน

เริ่มต้นกันที่ การทำความรู้จัก 8 สายพันธุ์กุหลาบ ที่กำลังได้รับความนิยม  

1. กุหลาบตัดดอก หรือไฮบริดที (Hybrid T.)

ลักษณะพุ่มตรงสูงประมาณ 1-2 เมตร ให้ดอกเดี่ยว ขนาดใหญ่ มีกลีบซ้อน มีให้เลือกหลายหลายสายพันธุ์

• ดอกสีแดง เช่น พันธุ์บราโว่ นอริค้า ปาปามิลแลนด์ โอลิมเปียด เวก้า
• ดอกสีชมพู เช่น มาเรีย คาสลาส สวาทมอร์ เฟรนด์ชิพ เพอร์ฟูมดีไลท์ จูวังแซล อเควเรียส
• ดอกสีส้ม เช่น ซันดาวน์เนอร์ แซนครา ซุปเปอร์สตาร์หรือทรอพปิคานา
• ดอกสีเหลือง เช่น คิงส์แรนซัม เฮสมุดสมิดท์ นิวเดย์ โอรีโกลด์ ซันคิงส์
• ดอกสีขาว เช่น ไวคริสต์มาส เอทีนา
• ดอกสีอื่น ๆ เช่น แยงกี้ดูเดิล ดับเบิลดีไลท์ เบลแอนจ์ 

2. กุหลาบพวง (Floribunda.)

อีกหนึ่งพันธ์ุที่นิยมเพาะปลูก พุ่มสูงประมาณ 1 - 1.5 เมตร ลักษณะการออกดอกเป็นช่อที่ละหลาย ๆ ดอก ดอกดก และมีครบทุกสี แต่ขนาดเล็กกว่ากุหลาบตัดดอก เช่น พันธุ์ฟูซีเลียร์ และแองเจลเฟส เป็นต้น

3. แกรนดิฟลอร่า (Grandiflora.)

ลูกผสมระหว่างกุหลาบตัดดอก และกุหลาบพวง ลักษณะเป็นดอกเดี่ยว แต่ขนาดเล็กกว่ากุหลาบตัดดอก ต้นโต สูง และแข็งแรง เช่น พันธุ์คาเมล็อท หรือคาเลทไนท์

4. มินิเอเจอร์ (Miniature.)

พุ่มทรงเล็ก ออกดอกขนาดเล็ก และเป็นพวง เช่น พันธุ์เบบี้ และมาสเคอร์เหรด 

5. ไคลมเบอร์ (Climher.)

ลักษณะดอกขนาดใหญ่ เป็นพวง นำไปเลื้อยพันกับต้นไม้ หรือสิ่งต่างๆ เช่น พันธุ์ดอนจวน และคอกเทล

6. โพลีแอนท่า (Polyantha.)

พันธุ์ลูกผสม ต้นเตี้ย แต่ทนทานและแข็งแรงมาก ออกดอกเป็นพวง เช่น พันธุ์ราเบีย และวายวอน 

7. แรมเบลอร์ (Rambler.)

ต้นสูง ออกดอกเป็นพวง ขนาดเล็ก เช่น พันธุ์เปอร์กิน และไดโรที 

8. ซรับโรส (Shrub.)

ลูกผสมพันธุ์ป่า ทรงต้นเป็นพุ่ม ออกดอกเป็นช่อ ดอกขนาดเล็ก กลีบชั้นเดียว เช่น พันธุ์โรซ่านิด้า โรซ่าฟลอร่า และโรซ่ารูโกซ่า 

การเตรียมพื้นที่ก่อนปลูกกุหลาบ

มาต่อกันที่การเตรียมพื้นที่ก่อนปลูก ซึ่งท่านต้องพิจารณาตามปัจจัยต่อไปนี้

1. เลือกพันธุ์ที่ต้องการ ไม่ว่าพันธุ์อะไรให้พักต้นก่อนการปลูก 7 วัน

2. 7 วันแรก ให้วางกุหลาบในที่มีแสงแดดรำไร และขยับออกไปเพื่อรับแสงแดดวันละ 1 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวันจนครบหนึ่งอาทิตย์

3. เลือกพื้นที่เพาะปลูก เมื่อครบ 7 วันแล้วให้ทำการนำไปลงปลูกได้ โดยเลือกว่าจะลงปลูกแบบใด  

• ปลูกลงกระถาง ให้เลือกกระถางขนาด 10 นิ้วขึ้นไป
• ปลูกลงบนดิน จะเจริญเติบโตได้ดีกว่าในกระถาง  

4. ดินปลูก ดิน 1 ส่วน ผสมกับ อินทรีย์วัตถุ (ปุ๋ยหมัก ฟาง หรือแกลบ) 2 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และขุยมะพร้าว ½ ส่วน เพื่อนำมาคลุมผิวดิน

5. ทดลองรดน้ำ หากน้ำไหลผ่านลงดินได้ไม่เร็วและไม่ช้าเกินไปประมาณ 10 นาทีถือว่าดี เพราะถ้าเร็วไป ดินจะรักษาความชื้นได้ไม่ดี แต่ช้าไปจะทำให้รากเน่านั่นเอง

ข้อแนะนำ ไม่ว่าจะปลูกลงกระถาง หรือบนดิน ควรให้ต้นกุหลาบได้รับแสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน และอุณหภูมิควรอยู่ในช่วงระหว่าง 15 - 25 องศาเซลเซียส

วิธีปลูกดอกกุหลาบอย่างไรให้ออกดอกสวยทั้งปี

เคล็ดไม่ลับกับวิธีการปลูกกุหลาบให้ออกดอกตลอดทั้งปี เริ่มที่ปัจจัยแรก คือ

1. สภาพพื้นดิน

พบว่าดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย ที่มีค่าเป็นกรดเล็กน้อย pH ประมาณ 6.0 - 6.5  จะทำให้กุหลาบเติบโตได้ดี และดินนั้นต้องไม่เคยปลูกกุหลาบมาก่อน

2. ความชื้น

โดยมีความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมประมาณร้อยละ 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์

3. แสง

กุหลาบชอบแดดจัด ควรปลูกกลางแจ้ง จะให้ผลผลิตสูง และควรโดนแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน

4. การรดน้ำ

ควรรดวันละครั้ง เช่น ช่วงเช้าเวลา 7.00 - 8.00 น. หรือช่วงเย็นเวลา 17.00 - 18.00 น. เพราะหากรดช่วงแดดแรงจะทำให้อาจทำให้ใบเฉา และเกิดรอยไหม้ได้

5. การตัดแต่ง

• ปลิดยอด: เด็ดยอดประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อให้ยอดได้เกิดใหม่ และผลิดอก
• ตัดแต่งเล็ก: ตัดก้านช่อเก่า กิ่งแห้ง หรือใบที่เป็นโรคทิ้ง
• ตัดแต่งใหญ่: ตัดแต่งกิ่งเล็ก ๆ ออก หรือตัดกิ่งใหญ่ ๆ ให้สั้นลงปีละ 2 ครั้ง

6. โรคและแมลง

ศัตรูตัวร้ายของกุหลาบ คือ เพลี้ยไฟ ซึ่งสามารถกำจัดด้วยสารกำจัดศัตรูพืช อิมิดาคลอพิด หรือโปรวาโด สำหรับไรแดง จะระบาดช่วงต้นมีนาคมถึงช่วงฤดูหนาว กรณีระบาดไม่รุนแรงสามารถใช้น้ำฉีดได้ แต่ถ้าหากแพร่ระบาดเยอะให้ใช้สารโอไมท์ ทอคออทูช ฉีดพ่นใต้ใบต่อเนื่องทุกเช้าจนกว่าเชื้อจะหมด

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ ปัจจัยต่าง ๆ ที่จะช่วยในการดูแลกุหลาบให้ผลิดอกออกผลตลอดทั้งปี มีพุ่มที่สวยงาม แถมยังห่างไกลโรค

วิธีใส่ปุ๋ยกุหลาบ

ปุ๋ย ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืชทุกชนิด เพราะช่วยให้พืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอและช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต สำหรับกุหลาบก็จำเป็นเช่นกัน แล้วปุ๋ยที่ต้องใส่ ควรเป็นปุ๋ยชนิดใด วันนี้เรามีคำตอบมาฝากทุกท่าน 
กุหลาบ สามารถใส่ได้ทั้งปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ขึ้นอยู่กับระยะการเจริญเติบโต ซึ่งปุ๋ยที่นิยมนำมาใส่ ได้แก่

• สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ช่วยเพิ่มความโปร่ง ร่วนซุย และให้ธาตุอาหารแก่ดิน โดยใส่ต้นละ 5 - 10 กรัม ทุก 2 สัปดาห์
• สูตร 20-20-20 นำไปผสมกับน้ำ 1 ส่วน จะช่วยให้ธาตุอาหารได้ดีกว่าสูตร 15-15-15 แต่ทำให้ดินแน่นและแข็ง
• ปุ๋ยคอก ควรใช้สลับกับปุ๋ยสูตร 20-20-20 ที่ผ่านการหมัก และย่อยสลายเรียบร้อยแล้ว จะช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้แก่ดิน ไม่ควรใช้ปุ๋ยคอกใหม่ เพราะจะทำให้พืชขาดไนโตรเจน
• ปุ๋ยนูเทคซุปเปอร์เค เป็นปุ๋ยบำรุงใบ ให้ธาตุอาหารพืชได้นานถึง 14 วัน เพียงพอต่อการออกดอกของกุหลาบ

ทั้งหมดนี้ คือ ปุ๋ยสูตรต่าง ๆ ซึ่งท่านต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพดิน และต้นของกุหลาบ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ ให้กุหลาบพร้อมออกดอกได้อย่างเต็มที่ 

เห็นไหมว่า วิธีการปลูกกุหลาบ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสม เตรียมพื้นที่ และดูแลกุหลาบให้เติบโตอย่างเต็มที่ ประการสำคัญที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ การเลือกปุ๋ยให้เหมาะสมกับระยะการเจริญเติบโต เพียงเท่านี้ กุหลาบก็ออกดอกบานสะพรั่ง ให้ท่านได้นำไปมอบให้แก่คนที่คุณรัก หรือแม้แต่การนำไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกช่องทาง