เมื่อบ้านหรือคอนโดที่เราซื้อ ไม่ได้มีห้องแต่งตัวมาให้ แต่ใจเราต้องการที่พักพิงให้เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งหน้า หรือเครื่องแต่งตัวต่างๆ จำนวนมาก อีกทั้งยังต้องการความเป็นส่วนตัวเวลาแต่งตัวอีกด้วย ฉะนั้นแล้วไม่มีห้องแต่งตัวคงไม่ได้ แต่จะสร้างห้องแต่งตัวอย่างไรให้ไม่ยุ่งยาก แถมใช้งบน้อย เรามาดูวิธีสร้างห้องแต่งตัวด้วยตนเอง ฉบับใช้งบประมาณดีต่อใจกันครับ
ขั้นแรกที่เราจะต้องทำเลยก็คือการเลือกทำเลที่จะทำห้องแต่งตัว โดยแนะนำว่าให้ใกล้ห้องน้ำและเดินไปห้องนอนได้ง่าย หรืออยู่ภายในห้องนอน เพื่อให้คล่องตัว แต่งตัวได้อย่างสะดวก มีความเชื่อมต่อกันในการใช้ชีวิต เช่น ตื่นมาเดินมาเข้าห้องน้ำ แล้วมาแต่งตัวที่ห้องแต่งตัว เป็นต้นครับ
หลังจากที่ได้จุดที่จะเป็นห้องแต่งตัวแล้ว เราก็ต้องมาทำการกั้นห้องครับ หากเราต้องการกั้นห้องในงบประหยัด ผมแนะนำว่าให้ใช้ตู้ทรงสูงมากันโซน ซึ่งไม่เพียงเราจะใช้ตู้นั้นในการเก็บเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวได้แล้ว เรายังได้ผนังกั้นแยกส่วนห้องแต่งตัวออกมาได้ด้วย เรียกได้ว่าประโยชน์แบบ 2 in 1 เลยครับ แถมยังประหยัดพื้นที่ได้ดีด้วยหากเรามีพื้นที่จำกัดวิธีนี้ถือเป็นไอเดียที่ดีเชียวครับ แต่ถ้าไม่ชอบวิธีนี้เราก็สามารถซื้อฉากกั้นมากั้นห้อง หรือจะก่อสร้างฉากกั้นถาวรก็ได้ แต่วิธีนี้อาจจะต้องใช้งบเยอะหน่อย และอาจเปลืองพื้นที่มากกว่านำตู้มากั้น หรือซื้อฉากกั้นสำเร็จรูหมากั้นนะครับ
แน่นอนว่าห้องแต่งตัวจะต้องมีตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักเก็บของ หรือราวแขวนผ้า โดยแนะนำให้เป็นตู้ทรงสูง เพื่อประหยัดพื้นที่ แต่ใช่ว่าสูงจนเราไม่สามารถหยิบของมาใช้ได้นะครับ ซึ่งหากเป็นตู้เก็บของที่เราไม่ได้หยิบใช้บ่อยอาจสูงจนใกล้เพดานแล้วเราหาบันไดหรือเก้าอี้เตี้ยๆ มาไว้หยิบสิ่งของที่เก็บได้ครับ แต่สำหรับตู้เสื้อผ้าหรือราวแขวนผ้า โดยปกติแล้วควรจะมีระยะสูงจากพื้นประมาณ 150-160 เซนติเมตร เพราะไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็หยิบจับมาใช้ได้อย่างสะดวก แต่หากเป็น สำหรับลิ้นชักที่จะวางไว้กับพื้นก็ควรสูงจากพื้นประมาณ 35 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อให้ก้มลงไปหยิบได้ง่าย แต่ก็ไม่ควรสูงเกิน 60 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้สูงบังหรือพอดีกับตู้เสื้อผ้า เพราะอาจจะยากต่อการหยิบใช้งาน แถมยังทำให้ห้องแต่งตัวดูคับแคบและแน่นได้ครับ
สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งนั้น หากห้องแต่งตัวของเรามีพื้นที่น้อยควรเลือกโต๊ะเครื่องแป้งที่มากประโยชน์ใช้สอย เช่น อาจเป็นทั้งกระจกส่องตัวใช้แต่งหน้า แต่ก็สามารถเป็นลิ้นชักเก็ยของได้ เป็นต้น หรือหากมองว่าโต๊ะเครื่องแป้งทั้งเซ็ตอาจมีราคาสูงเกินไป เราอาจหาโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ มาวางสักชุด แล้วซื้อกระจกต่งหน้ามาเพิ่มเติมเอาก็ได้นะครับ
สิ่งสำคัญในห้องแต่งตัวก็คือไฟครับ หากห้องแต่งตัวไม่มีแสงไฟแล้ว เราจะไม่สามารถแต่งตัวได้อย่างแน่นอน ยกเว้นแต่จะแต่งในจุดที่มีแสงธรรมชาติเข้าเพียงพอเท่านั้น และอีกสิ่งสำคัญก็คือไม่ควรใช้ไฟสีส้ม เพราะอาจจะทำให้ชุดหรือการแต่งหน้าของเราผิดเพี้ยนไปจากสีจริงได้ แต่ควรเลือกใช้เป็นไฟหลุมที่ให้โทนสีขาวนวลหรือสีออกเหลืองนวลสบายตา นอกจากจะให้ความสว่างที่สมจริง ไม่หลอกตาแล้ว ยังจะช่วยทำให้ชุดและเครื่องแต่งกายต่างๆ ที่อยู่ภายในห้องแต่งตัวดูน่าสวมใส่มากขึ้นด้วย อีกทั้งยังควรติดไฟให้สว่างเท่าๆ กับทั้งห้องแต่งตัว เพื่อให้ดารแต่งตัวของเราเป๊ะ ไม่มีพลาด
การติดหรือวางกระจกแบบเต็มตัวใว้ในห้องแต่งตัวนั้น นอกจากจะเอาไว้ส่องความเรียบร้อยในการแต่งตัวของตัวเองแล้ว ยังช่วยให้ห้องแต่งตัวดูกว้างขึ้นเป็นสองเท่าด้วยครับ โดยแนะนำให้ติดกระจกที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อประหยัดพื้นที่ หรือวางกระจกเต็มตัวไว้ข้างๆ โต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เหมือนกัน สำหรับใครที่ต้องการเห็นความเรียบร้อยของตัวเองที่รอบด้านแนะนำว่าให้ติดกระจกแบบร้อยด้านหรือกระจก 2 บานติดกันก็ได้ครับ
สำหรับสไตล์กระจกที่จะเลือกมาติดนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของห้องเลยครับ หากเลือกกรอบทองมีลวดลาย หรือกระจกบานใหญ่มากแบบไม่มีกรอบติดที่ผนังไปเลยก็จะได้บรรยากาศแบบหรูหรา แต่หากเลือกเป็นกระจกกรอบไม้หรือพลาสติกบางๆ โทนสีสว่าง สีโมโนโทน หรือสีธรรมชาติก็จะได้ห้องแต่งตัวสไตล์มินิมอลครับ
คงจะได้ไอเดียไปเริ่มทำห้องแต่งตัวที่ถูกใจ ตรงสไตล์ สบายกระเป๋ากันแล้วใช่ไหมครับ ว่าจะเลือกมุมไหน แต่งอย่างไร และซื้ออะไรบ้างมาสร้างห้องแต่งตัวด้วยตัวเอง