วิธีเลือกบ้านโครงสร้างแข็งแรงให้อยู่ได้นานเป็นสิบๆ ปี

หากมองบ้านเป็นมนุษย์ ร่างกายก็เหมือนโครงสร้าง และเสื้อผ้าก็เหมือนการตกแต่งที่บ่งบอกสไตล์ได้ ดังนั้นถ้าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงก็จะไม่ต้องซ่อมแซมและมีอายุยืนยาวเช่นเดียวกับบ้าน หากโครงสร้างดี งานละเอียด บ้านหลังนั้นก็จะแข็งแรง ทนทานอยู่ได้เป็นสิบปี 

แต่คุณคงสงสัยใช่ไหมล่ะครับว่า แล้วเวลาไปดูบ้านจะรู้ได้อย่างไรว่า โครงสร้างนี้แข็งแรงดีจริงหรือไม่ อย่างแรกเลยคุณต้องลองเดินดูสถานที่จริงว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง และถามเซลครับ วันนี้ผมมีโครงการที่มีโครงสร้างแข็งแรงมากโครงการหนึ่งมาให้ศึกษาเป็นตัวอย่างกันครับ นั่นก็คือ โครงการ Nord Ladprao 110 ไปดูกันครับว่า บ้านที่บอกว่าแข็งแรง ทนทาน อยู่นานเป็นสิบๆ ปีจะต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง

1. โครงสร้างบ้าน

• การใช้เหล็กหนวดกุ้งระหว่างทุกแถวของอิฐกันเสา เพราะจะทำให้กำแพงยิ่งแข็งแรงขึ้นและไม่แยกตัวจากเสา ซึ่งดีกว่าการใช้ metal strap และตะปูสั้นยึด
  
• คานทับหลัง LinTel  การใช้คานทับหลังแบบ LinTel ทั่วบ้าน จะทำให้กำแพงสูงแข็งแรงไม่โค้ง รวมถึงการใช้เสาเอนทั้งบ้าน จะช่วยในเรื่องรับแรงลม จึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับบ้านได้
  
• ก่อคอนกรีตรอบขอบ การก่อคอนกรีตขอบรอบพื้นทั่วบ้าน จะช่วยทำให้บ้านสามารถกันน้ำซึมได้
  
• ก่อเสาด้วยวิธี wedge เพราะจะทำให้แน่นขึ้น รับน้ำหนักได้ดีกว่าการใช้ตะปู  
  
  

2. ผนัง

• ฉาบปูนทับอิฐมวลเบา ข้อดีของอิฐมวลเบาคือน้ำหนักเบาและการป้องกันความร้อนได้ดี เมื่อนำปูนมาฉาบทับเพิ่มจะทำให้ผนังแข็งแรงและสวยงามขึ้น
  
• ตีตาข่ายกำแพง การตีตะข่ายในกำแพงทั้งบ้านจะช่วยป้องกันกำแพงร้าว จากการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้
  
• Double wall การใช้กำแพงหนา 10 เซนติเมตร 2 ชั้น จะสามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและความสงบมากขึ้น
  
• ทาสี การทาสีผนัง ที่มีลักษณะการทาสีรองพื้น ฉาบผิวบาง และทาสีรองพื้น แล้วค่อยทาสีจริง จะทำให้สีกำแพงไม่เพี้ยน 
  

​​3. บันไดคอนกรีต 
การใช้บันไดคอนกรีตจะทำให้บันไดมีความแข็งแรง ไม่โยกเยก คุณจะสังเกตได้ง่ายหากลองเดิน เพราะรู้สึกมั่นคง แข็งแรง ไม่ยวบยาบ

4. หลังคาลาดเอียงและเพิ่มฉนวนใต้หลังคา
การก่อสร้างหลังคาในลักษณะลาดเอียง พร้อมเพิ่มฉนวนกันความร้อนที่พื้นหลังคาให้หนา จะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ช่วยให้บ้านสามารถเก็บความเย็นจากแอร์ได้ดี ที่สำคัญหลังคาที่มีลักษณะลาดเอียงสามารถรับลมและระบายอากาศได้ดีด้วย

5. การใช้กระจกตัดแสง
กระจกภายในบ้านควรเป็นกระจกแบบตัดแสง อย่างโครงการ Nord Ladprao 110 ใช้ของ Tostem ซึ่งเป็นกระจกคุณภาพดี ช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอก และตัดแสงได้ถึง 29% ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิความภายในบ้าน เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย

6. ประตูคุณภาพ
ประตูที่มีคุณภาพจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยและลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ อย่างแบรนด์ tostem ที่ Nord Ladprao 110 ใช้ จะเป็นประตูมาตรฐานญี่ปุ่นที่กรองเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง เพราะมี lock 3 ชั้น และมี child lock เพื่อความปลอดภัยของเด็ก รวมถึงยังเป็นประตูอะลูมิเนียม ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับสภาพอากาศของเมืองไทย

หากคุณกำลังต้องการบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง ตกแต่งสวยมีสไตล์อยู่ล่ะก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Nord Ladprao 110 เรื่องสไตล์ ทำเล และการตกแต่งได้ที่นี่ หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่นี่

โทร :  081-565-3663  
อีเมล : [email protected] 
เว็บไซต์  : www.assetta.co.th
Facebook :  fb.com/assetta.th