สถานการณ์ที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 2560 และแนวโน้มปี 2561

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดงาน “สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ” เพื่อนำเสนอข้อมูลผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยล่าสุดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และตาก โดยเป็นข้อมูลจากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 ประเภทโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อ GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ โดยมี Mega Projects ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นตัวขับเคลื่อนการลงทุนของภาคเอกชนที่สำคัญ โครงการดังกล่าวประกอบด้วย โครงการขยายสนามบินเชียงใหม่เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว 18 ล้านคนในปี 2568 โครงการ High speed train สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โครงการ Motorway เชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย และรถไฟทางคู “เดนชัย – เชียงใหม” เป็นต้น แผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมดังกล่าวได้เปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ๆ รวมถึงส่งผลโดยตรงต่อความหน้าแน่นของโครงการที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

จังหวัดเชียงใหม่
จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรร พบว่ามีโครงการอยู่ระหว่างการขาย จำนวน 182 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ  21,468 หน่วย เหลือขายประมาณ 7,177 หน่วย (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 176 โครงการ หน่วยในผัง 20,667 หน่วย เหลือขายประมาณ 7,459 หน่วย) โดยโครงการบ้านจัดสรรกระจายอยู่ใน 4 อำเภอหลัก คือ อำเภอสันกำแพง 36 โครงการมีหน่วยในผัง 4,982 หน่วย (เหลือขาย 1,991 หน่วย) อำเภอเมืองเชียงใหม่ 40 โครงการ 3,898 หน่วย (เหลือขาย 1,058 หน่วย) อำเภอสันทราย 40 โครงการ 4,074 หน่วย (เหลือขาย 1,615 หน่วย) และอำเภอหางดง 29 โครงการ 3,809 หน่วย (เหลือขาย 1,480 หน่วย) นอกจากนี้ยังมีอยู่ในอำเภอสารภี 12 โครงการ 1,454 หน่วย (เหลือขาย 242 หน่วย) อำเภอดอยสะเก็ด 12 โครงการ 1,545 หน่วย (เหลือขาย 318 หน่วย) และอำเภอแม่ริม 12 โครงการ 1,670 หน่วย (เหลือขาย 465 หน่วย)

แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย พบว่าเป็นประเภทบ้านเดี่ยวมากที่สุดมีร้อยละ 68 ของหน่วยบ้านจัดสรรทั้งหมด ทาวน์เฮ้าส์มีร้อยละ 15 อาคารพาณิชย์มีร้อยละ 6 บ้านแฝดมีร้อยละ 8 ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าจัดสรร ซึ่งบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์พักอาศัยส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท

โดยภาพรวมมีบ้านเดี่ยวเหลือขายประมาณ 4,861 หน่วยจากหน่วยในผัง 14,609 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์เหลือขายประมาณ 1,028 หน่วย จากหน่วยในผัง 3,155 หน่วย อาคารพาณิชย์พักอาศัยเหลือขายประมาณ 439 หน่วยจากหน่วยในผัง 1295 หน่วย และบ้านแฝดเหลือขายประมาณ 583 หน่วย จากหน่วยในผัง 1,620 หน่วย

สำหรับสถานะของการก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าร้อยละ 66 เป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จ ร้อยละ 9 เป็นหน่วยซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ส่วนอีกร้อยละ 25 เป็นหน่วยที่ยังไม่เริ่มสร้าง ทั้งนี้ มีบ้านจัดสรรสร้างเสร็จเหลือขายรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 1,650 หน่วย

โครงการอาคารชุด จากการสำรวจพบว่ามีโครงการอยู่ระหว่างการขายจำนวน 50 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 8,615 หน่วย มูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 27,459 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 2,257 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 7,761 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 50 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 8,615 หน่วย เหลือขายประมาณ 2,257 หน่วย)

เมื่อแบ่งตามพื้นที่ พบว่าจากหน่วยในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมด อยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่มากถึง 43 โครงการ มีหน่วยในผัง 7,637 หน่วย เหลือขาย 1,839 หน่วย อยู่ในอำเภอสันทราย 6 โครงการ 839 หน่วย เหลือขาย 49 หน่วย อยู่ในอำเภอแม่ริม 1 โครงการ 139 หน่วยเหลือขาย 369 หน่วย ที่เหลือกระจายอยู่ในอำเภอ หางดง และสารภี

จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด เป็นห้องชุดแบบหนึ่งห้องนอนมากถึงร้อยละ 60 ส่วนใหญ่ อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท เป็นแบบสองห้องนอนร้อยละ 17 เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 23 ที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป

ส่วนในภาพรวม มีห้องแบบสตูดิโอเหลือขายประมาณ 375 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,867 หน่วย แบบหนึ่งห้องนอนเหลือขายประมาณ 1,430 หน่วยจากหน่วยในผัง 5,187 หน่วย แบบสองห้องนอนเหลือขายประมาณ 421 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,498 หน่วย และแบบสามห้องนอนขึ้นไปเหลือขายประมาณ 31 หน่วยจากหน่วยในผัง 63 หน่วย

สำหรับสถานะของการก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าเป็นหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 69 เป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างร้อยละ 30 และเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างร้อยละ 2 โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขายประมาณ 1,478 หน่วย

ประเภทบ้านพักตากอากาศหรือวิลล่า นับเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบเชิงเขาที่มีราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป และส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ขายให้กับชาวต่างชาติ หรือให้เช่าระยะยาว พบว่ามีโครงการบ้านพักตากอากาศซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 7 โครงการ มีหน่วยในผังรวมประมาณ 56 หน่วย ขายได้แล้วเพียงประมาณ 17 หน่วย

จังหวัดเชียงราย
จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขายจำนวน 33 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 2,772 หน่วย มีมูลค่าโครงการการตามหน่วยในผังรวมกันทั้งสิ้นประมาณ  8,423 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 987 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 3,361 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี  42 โครงการ 3,283 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,745 หน่วย)

แบ่งตามพื้นที่ พบว่าโครงการบ้านจัดสรรกระจายอยู่ใน 3 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย 30 โครงการ มีหน่วยในผัง 2,528 หน่วย (เหลือขาย 931 หน่วย) อำเภอแม่สาย 2 โครงการ 173 หน่วย (เหลือขาย 43 หน่วย) อำเภอเชียงแสน 1 โครงการ 71 หน่วย (เหลือขาย 13 หน่วย) 
แบ่งตามประเภท พบว่าเป็นประเภทบ้านเดี่ยวมากที่สุดมีร้อยละ 36 ของหน่วยบ้านจัดสรรทั้งหมด รองลงมาเป็นประเภททาวน์เฮ้าส์มีร้อยละ 25 อาคารพาณิชย์พักอาศัยมีร้อยละ 21 ที่ดินเปล่ามีร้อยละ 14 อันดับสุดท้ายเป็นประเภทบ้านแฝดมีร้อยละ 3 ตามลำดับ

บ้านเดี่ยวส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท อาคารพาณิชย์และบ้านแฝดส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท

โครงการอาคารชุด จากการสำรวจพบว่าโครงการซึ่งอยู่ระหว่างการขายจำนวน 2 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 605 หน่วย มูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 938 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 83 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 150 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 11 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 1,949 หน่วย เหลือขายประมาณ 556 หน่วย) โดยอยู่ในอำเภอเมืองเชียงรายทั้งสิ้น เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 16 แบบหนึ่งห้องนอนร้อยละ 12 และแบบสองห้องนอนร้อยละ 23 โดยห้องชุดแบบสตูดิโอส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท แบบหนึ่งห้องนอนส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท และแบบสองห้องนอนส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท

จังหวัดพิษณุโลก
จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ในระหว่างการขายจำนวน 34 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 2,636 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,286 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอเมืองทั้งสิ้น (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 38 โครงการ 2,562 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,180 หน่วย) เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 66 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 16 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 10 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝดร้อยละ 8 และที่ดินเปล่าจัดสรรร้อยละ 0.2 

โครงการอาคารชุด จากการสำรวจพบว่ามีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายเพียง 6 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 1,196 หน่วย เหลือขายประมาณ 316 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอเมืองทั้งสิ้น (เทียบกับปีก่อนหน้ามีโครงการ 1,119 หน่วย เหลือขายประมาณ 360 หน่วย) เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 44 แบบหนึ่งห้องนอนร้อยละ 56 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท

จังหวัดตาก
จาการสำรวจพบว่ามีโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ในระหว่างการขายจำนวน 10 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 334 หน่วย เหลือขายประมาณ 179 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอเมือง 6 โครงการ 170 หน่วย อยู่ในอำเภอแม่สอด 4 โครงการ 164 หน่วย เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 53 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 17 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 20 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 5-7.5 ล้านบาท ทั้งทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์พักอาศัยมีราคาสูงกว่าบ้านเดี่ยวเนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ใน อำเภอแม่สอดเกือบทั้งหมดซึ่งเป็นอำเภอการค้าเขตชายแดนของจังหวัดตาก

โครงการอาคารชุดจากการสำรวจพบว่ามีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 6 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 788 หน่วย เหลือขายประมาณ 181 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอแม่สอดทั้งสิ้น เป็นห้องชุดแบบหนึ่งห้องนอนมากถึงร้อยละ 92 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 และ 1.5-2 ล้านบาท ที่เหลือเป็นแบบสองห้องนอนร้อยละ 4 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท แบบสตูดิโอ ร้อยละ 4 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท