เรื่องราวของ EEC ยังคงดำเนินต่อไป นอกจากอย่างที่เราทราบกันดีว่า EEC เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีนักลงทุนทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์และคมนาคมขนส่ง ที่เข้ามาพัฒนาและลงทุนในเขตพื้นที่ดังกล่าว แนวโน้มการเติบโตและพัฒนาของ EEC มีแนวโน้มเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ไม่เพียงแค่การลงทุนในด้านอสังหาฯ หรือคมนาคมเพียงเท่านั้น ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมก็เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับ EEC ให้เป็นฮับอาเซียนอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
โดยล่าสุดท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาได้จับมือกับ AIS พัฒนาระบบ Smart Terminal ที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เพื่อนำนวัตกรรมสุดล้ำต่างๆ มาให้ผู้โดยสารใช้งาน และนำมาพัฒนาระบบบริหารจัดการภายใน ซึ่งสำคัญในการที่จะพัฒนาสนามบินแห่งนี้ให้ทันสมัยเทียบเท่าสนามบินชั้นนำระดับโลก
พลเรือตรี ลือชัย ศรีเอี่ยมกูล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ กล่าวว่า “การมีเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยน่าจะเป็นสิ่งที่ดีภายในสนามบิน ซึ่ง AIS ก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้จึงตัดสินใจให้เข้ามาช่วยพัฒนาระบบ Mobile Application, Video Analytics, และระบบอื่นๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใน Terminal 2 ก่อน”
ดิจิทัลโซลูชันส์ ที่นำมาพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ให้เป็น “Smart Terminal” ในระยะแรก จะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ
1. แอปพลิเคชัน U-Tapao ที่จะมีข้อมูลด้านการบิน และข้อมูลสนามบินแบบครบครันในแอปฯ เดียว อาทิ สถานะตารางการบิน บริการการเดินทางไปกลับสนามบิน บริการที่จอดรถ ฯลฯ รวมทั้งแผนที่แสดงจุดให้บริการต่างๆที่เสริมระบบการนำทางและการแสดงข้อมูลการบริการภายในสนามบินด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR)
2. เทคโนโลยี Video Analytics ประกอบด้วยเครือข่ายกล้องวงจรปิดทั่วอาคาร และโปรแกรมวิเคราะห์ประมวลผลภาพปัญญาประดิษฐ์และบิ๊กดาต้า ประยุกต์ใช้เป็นระบบตรวจจับและรับรู้ใบหน้าบุคคล (Face Recognition) ในพื้นที่สนามบิน เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย เช่น กรณีบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย หรือกรณีบุคคลสำคัญ เป็นต้น และระบบแสดงข้อมูลความหนาแน่นของผู้โดยสาร (Heat Map Analytics) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านระบบรักษาความปลอดภัย และการบริหารจัดการของการท่าฯ
ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) เผยว่า “อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4 ของปี 2561 ทำให้ระบบข้างต้นต้องเสร็จสมบูรณ์ภายในเวลานั้นด้วย เพื่อยกระดับให้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาเป็น Intelligent Gateway of EEC
ตอนนี้อู่ตะเภาเป็นสนามบินใหม่ ที่กำลังจะเปิดให้บริการทางพาณิชย์เต็มรูปแบบ ในเดือนมกราคม ปี 2562 ดังนั้นเวลานี้จึงเป็นช่วงสำคัญ และเหมาะสมที่สุดในการเข้าไปดำเนินการพัฒนา และยกระดับการบริหารจัดการในทุกๆ ส่วนให้พร้อมเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งระบบ Smart Terminal ที่เอไอเอสเข้าไปติดตั้งก็คาดการณ์จะแล้วเสร็จไตรมาส 4 ของปี 2561 นี้ เพื่อให้พร้อมใช้ได้ทันทีที่ Terminal 2 เปิด โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัย และเรื่องความสะดวกของผู้โดยสารก่อน ส่วนเรื่องระบบตรวจคนเข้าเมืองนั้นอาจเป็นเรื่องอนาคตเพื่อพัฒนาสู่ Smart Terminal ในทุกขั้นตอน ด้านการพัฒนานวัตกรรมไปใช้กับภาคธุรกิจนั้น AIS พร้อมสำหรับให้บริการ โดยมีโซลูชันส์ต่างๆ ที่เราทำร่วมกับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต และนักพัฒนามากมาย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำเรื่องนวัตกรรม ที่พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะยกระดับประเทศในทุกๆ ภาคส่วน”
โดยก่อนหน้านี้ AIS เคยนำร่องติดตั้งระบบที่คล้ายกันด้วยแนวคิด Smart City ในโครงการอสังหาฯ ทั้งหมู่บ้าน และคอนโด, โรงงานอุตสาหกรรม, ศูนย์ราชการต่างๆ, และมหาวิทยาลัย ซึ่งเปิดให้บริการจริงแล้ว
Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania