ออริจิ้น ส่องโอกาสลงทุน 3 ทำเลฮอต พร้อมปักธงผุด 3 โครงการรองรับ

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ของปี 2561 บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “ไนท์บริดจ์” 3 โครงการที่อยู่บนแนวรถไฟฟ้า 3 สาย  ใน 3 ทำเลที่มีศักยภาพในการลงทุน ได้แก่ พระราม 9 รัชโยธิน และ สุขุมวิท 107 รวมมูลค่า 6,000 ล้านบาท โดยจะเปิดให้จองผ่านออนไลน์ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ คาดว่าจะมียอดจองผ่านออนไลน์ประมาณ 30% และคาดว่าจะมียอดขายถึงสิ้นเดือนมี.ค.ประมาณ 70% หรือประมาณ 4,200 ล้านบาท

สำหรับทำเลพระราม 9 ถือเป็นทำเลใจกลางย่านธุรกิจใหม่ (New CBD) หรือเป็น financial street แห่งใหม่ หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้ายสำนักงานมาอยู่บนทำเลนี้ ขณะที่สถานี MRT พระราม 9 เป็นสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 2 ของสถานี MRT ทั้งหมด และเป็นทำเลที่มีทั้งแหล่งงาน ศูนย์การค้า ศูนย์จัดแสดงสินค้า และโลจิสติกส์ โรงพยาบาล สถานศึกษา อาทิ  โครงการ The Super Tower อาคาร AIA สำนักงานใหญ่ยูนิลีเวอร์ G Tower เซ็นทรัล พระราม 9 เป็นต้น  

นอกจากนี้ พระราม 9 ยังเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจในการลงทุนในทำเลนี้ และบริเวณพระราม 9-ดินแดง ยังมีโอกาสในการพัฒนาได้อีกมา ปัจจุบัน Capital gain ปรับขึ้นเฉลี่ย 4.6-11% โดยมีผลตอบแทนจากการเช่าอยู่ที่ประมาณ 5-6.3% ต่อปี ขณะที่ผู้บริโภคมีรายได้เฉลี่ย 75,000-120,000 บาทต่อเดือน

ส่วนทำเลรัชโยธิน ซึ่งจะเป็นทำเลเศรษฐกิจใหม่ที่เชื่อมต่อกับพระราม 9 มีทั้งแหล่งงาน สถานศึกษา และรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายหมอชิต – สะพานใหม่ และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
โดยปัจจุบันราคาที่ดินบริเวณแยกรัชโยธินถึงแยกเกษตรได้มีการปรับขึ้นประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมา และปรับขึ้นถึง 2 เท่าตัว ในช่วง 2 ปี ปัจจุบันมี Capital gain ปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 10%

นอกจากนี้จะมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท บีทีเอส และ บริษัท จี แลนด์ พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บนเนื้อที่ 48 ไร่ และโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อ เป้นสมารืทซิตี้เนื้อที่ 200 ไร่ จำสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทำเลรัชโยธินในอนาคต

ขณะที่ทำเลแบริ่ง – บางนา มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการ และรถไฟฟ้ารางเบาที่จะวิ่งจากบางนาไปสุวรรณภูมิ และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะช่วยยกระดับทำเลแบริ่งให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่และแหล่งงานขนาดใหญ่ ทำให้ย่านบางนากลายเป็นฮับในฝั่งจะวันออกที่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้า ถือเป็นทำเลที่มีอัตราการขายคอนโดมิเนียมสูงเกิน 70% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นทำเลที่มี Capital gainอยู่ที่ 5-6% และมีแนวดน้มที่จะปรับขึ้นทุกๆ ปี และมีผลตอบแทนจากการเช่าอยู่ที่ 7% ซึ่งถือเป้นแนวดน้มที่ดีสำหรับการซื้อขายและการปล่อยเช่า

ด้านนายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่บนถนนดินแดง ห่างจาก MRT พระราม 9 ราว 350 เมตร เป็นอาคารสูง 27 ชั้น จำนวน 325 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,300 ล้านบาท ทั้งโครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Duo Space ทุกห้องพักภายในอาคารมีเพดานสูงถึง 4.2 เมตร เป็นห้องขนาด 1-3 ห้องนอนตั้งแต่ 23-579 ตารางเมตร(ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นที่ 4.69 ล้านบาท

โครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่ 2 งาน ใกล้แยกรัชโยธิน ห่างจาก BTS พหลโยธิน 24 เพียง 20 เมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ถึง 3 สาย เป็นอาคารสูง 33 ชั้น จำนวน 488 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,700 ล้านบาท นอกจากจุดขาย Duo Space พร้อมเพดานสูง 4.2 เมตรแล้ว ยังมอบ Auto Parking ถึง 70% ห้องพักมีขนาด 1-2 ห้องนอน ขนาด 22-61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท

โครงการไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1 ไร่ 1 งาน ในซอยสุขุมวิท 107 ห่างจาก BTS แบริ่งราว 300 เมตร ประกอบด้วยอาคารสูง 28 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 304 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ห้องพักมีขนาด 1-2 ห้องนอน ตั้งแต่ 23-61ตร.ม. เพดานสูง 2.6 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท