เมืองไทยยุคนี้มีราคาคอนโดมิเนียมที่สูงถึงตารางเมตรละ 7 แสนบาทโดยเจ้าของสถิติคือโครงการ "98 ไวร์เลส" โดยผู้พัฒนาก็คือ บมจ.แสนสิริ เป็นห้องชุดฟูลลี่เฟอร์นิช แพงสุดอยู่ที่ตารางเมตรละ 7.25 แสนบาท ในขณะที่กลุ่ม MQDC บริษัท แมกโนเลียส ควอลิตี้ ดีเวลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ของ "บี-ทิพาภรณ์ (เจียรวนนท์) อริยวนารมย์" บุตรสาวเจ้าสัวซีพี เพิ่งแบเบอร์ว่า ห้องชุดตารางเมตรแพงสุดที่ลูกค้าซื้อไปอยู่ที่ 6.2 แสนบาท/ตารางเมตร สร้างแตกตื่นและฮือฮาไปทั้งวงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นราคาอ้างอิงให้ตลาดรวมได้หรือไม่
ท็อป 10 เริ่ม 2.7 แสน
ต้องดูคำนิยามตลาดคอนโดฯ แพงกันเสียก่อน "อลิวัสสา พัฒนถาบุตร" เอ็มดีโบรกเกอร์ดังค่ายซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) หรือซีบีอาร์อี ระบุว่า เส้นแบ่งตลาดคอนโดฯ แพง ยังมีเลเยอร์ทับซ้อนกันอยู่โดยตารางเมตรละ 1 แสนบาท เรียกว่า คอนโดฯตลาดบนตารางเมตรละ 2 แสน เรียกว่า คอนโดฯ ตลาดไฮเอนด์และตารางเมตรละ 3 แสนบาทขึ้นไป เรียกว่า คอนโดฯ ตลาดลักเซอรี่ เมื่อเรียงลำดับห้องชุดราคาแพง 10 อันดับแรก "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจพบว่า มีราคาอยู่ระหว่างตารางเมตรละ 2.7 แสน จนถึง 5.8 แสนบาท/ตารางเมตร มีเงื่อนไขว่าเป็นราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ หมายถึงห้องชุดราคาถูกสุด+แพงสุดในโครงการ ชั่งน้ำหนักออกมาแล้วเป็นค่าเฉลี่ยกลาง ๆ และเป็นห้องชุดที่ยังอยู่ระหว่างการขาย
จะเห็นได้จาก 98 ไวร์เลส ราคาแพงสุด คือ ตารางเมตรละ 7.25 แสนบาท ในขณะที่ห้องชุดเดอะวัน ขายลูกค้าคนเดียวเกือบ 1,000 ตารางเมตร ราคา 650 ล้านบาท ถ้าเฉลี่ยก็น่าจะตกตารางเมตรละ 6 แสนกว่าบาท
ลูกค้ากระเป๋าหนักซื้อเกินครึ่ง
อย่างไรก็ตาม เจาะเซ็กเมนต์ห้องชุดตลาดไฮเอนด์+ลักเซอรี่ มีราคา 2-3 แสนบาท/ตารางเมตร พบว่าราคาเฉลี่ยโครงการอยู่ระหว่าง 2.3-3.7 แสนบาท เป็นราคาที่มีหน่วยเสนอขายเยอะสุด ส่วนใหญ่มีอัตราการขายเกินครึ่งหรือเกิน 50%ในด้านผู้ประกอบการ ถ้าเอ่ยชื่อออกมาล้วนแต่คุ้นหูในวงการอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นค่ายแสนสิริ, เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น, MQDC, เพซ ดีเวลอปเมนท์, ควอลิตี้ เฮ้าส์, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, เมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, เกษร พร็อพเพอร์ตี้ รวมทั้งค่ายคันทรี่กรุ๊ป และนาย เอสเตท (NYE Estate)ยกตัวอย่าง ค่ายอนันดาฯ ที่มีห้องชุดติดทำเนียบท็อป 10 แบรนด์ "แอชตัน สีลม" เพิ่งลอนช์โครงการเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ห้องชุดตารางเมตรเฉลี่ย 2.7 แสน จำนวน 428 ยูนิต ถูกจองซื้อถึง 301 ยูนิต เท่ากับมียอดขายแล้ว 70%
ในขณะที่แบรนด์แอชตันยังมีอีกทำเลอยู่ที่อโศก ราคาเฉลี่ยเพียง 2.5 แสน/ตารางเมตร เห็นผลเข้าใจว่าราคาขายไม่ได้ไล่ระดับขึ้นมาเพราะขายหมดแล้ว 100% ส่วนราคาซื้อขายนอกโครงการขยับขึ้นมาอีกเท่าไหร่ ยังไม่มีการสำรวจออกมา แต่คาดว่าติดอยู่ในท็อป 10 ได้ไม่ยาก
"ชานนท์ เรืองกฤตยา" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า พอร์ตคอนโดฯ ของบริษัทเจาะตลาดได้ครบทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่ตารางเมตรเริ่มต้น 3.5 หมื่นบาท ไปจนถึง 2 แสนกว่าบาท สูตรสำเร็จคือ ไม่ว่าทำเลไหน อนันดาฯราคาต่ำกว่าคู่แข่งขัน หรือต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 10%
ลงทุนคอนโดชนะเงินเฟ้อ
คอนโดฯ แพงแท่งล่าสุด ดูเหมือนเป็นของแบรนด์ "รีเสิร์ฟ ทองหล่อ" ของค่ายพฤกษา โฮลดิ้ง ที่ทำสถิติปิดการขาย 110 ยูนิต อย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ ด้วยราคาเฉลี่ยขึ้นไปถึงตารางเมตรละ 2.7 แสน ปรับขึ้นจากราคาประกาศสตาร์ตที่ 2.5 แสนบาทความสำเร็จของรีเสิร์ฟ ทองหล่อ ทางผู้บริหาร "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต" เอ็มดีกลุ่มพฤกษาแวลู บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง นำเสนอทฤษฎีใหม่ว่า เป็นเพราะการซื้อคอนโดฯ วันนี้ ผลตอบแทนดี เอาชนะเงินเฟ้อได้
"ห้องชุดตลาดบนไม่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพราะซื้อเงินสดเป็นส่วนใหญ่ ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาอาจมีการเก็งกำไรในคอนโดฯ อยู่บ้าง วันนี้หายไปหมด กลุ่มมาทดแทนก็คือซื้อลงทุน กลุ่มที่มีเวลท์เยอะ ๆ แทนที่จะถือสมุดเงินฝากก็มาซื้อคอนโดฯ"
เทคนิคการขายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสกัดนักเก็งกำไร ก็คือการเรียกเงินดาวน์สูง 30% จนทำให้แทบสูญพันธุ์ไปเลยทีเดียว
"ทำเลทองหล่อ พฤกษาฯเคยทำโครงการไอวี่ ตอนนั้นต้นทุนที่ดินตารางวาละ 5 แสนบาท เมื่อ 5 ปีที่แล้ว วันนี้ต้นทุนที่ดินวาละ 1.55 ล้าน แถมทำเลไกลกว่าเดิมด้วย โดยไอวี่ขายตารางเมตรละ 1.2 แสนบาท เวลาผ่านไป 5 ปีในปัจจุบัน ห้องชุดต่ำสุดตั้งขายตารางเมตรละ 2.5-2.7 แสน"
นำไปสู่ข้อสรุป ใครลงทุนคอนโดฯ อัพไซด์เกนชนะเงินเฟ้อ
ขอบคุณข่าวจาก: ประชาชาติธุรกิจ
บทความที่แนะนำ: