เคล็ด (ไม่) ลับฉบับนักลงทุน รู้ทันกันขาดทุนจากอสังหาฯ

สมัยนี้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่มือเก่าให้เข้ามาลองแสวงหากำไร แต่ขึ้นชื่อว่าการลงทุนแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จตามที่ตนเองคาดหวังเสมอไป เราคิดว่าคุณคงไม่อยากจะอยู่ฝั่งของผู้พ่ายแพ้ในเกมนี้ ฉะนั้น แม้ว่า Baania จะช่วยอะไรคุณไม่ได้มากนัก แต่ขอให้ลองนำเคล็ดลับที่เรารวบรวมมาจากที่ต่างๆ นำไปพิจารณาและตัดสินใจอย่างถูกต้องที่สุดนะครับ

1. หาข้อมูลอยู่เสมอ

สตีฟ จอบส์ ศาสดาแห่งอารยธรรมแอปเปิ้ลผู้ล่วงลับเคยบอกไว้ว่า “Stay hungry, stay foolish” ซึ่งไม่ได้หมายถึงการปล่อยให้ตนเองหิวโหยและขลาดเขลา ตรงข้ามเขาอยากสื่อว่า จงกระหายในการหาความรู้และไม่คิดว่าตัวเองฉลาดเกินจะรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มอีก และใช่ครับ ข้อมูลข่าวสารคืออำนาจที่สำคัญของนักลงทุน หากคุณรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นรอบๆ พื้นที่ที่คุณจะลงทุนอสังหา เช่น จะมีรถไฟฟ้า มีทางด่วน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ หรืออะไรก็ตามที่จะเป็นปัจจัยบวก ก็ย่อมคาดการณ์ได้ว่า อสังหาริมทรัพย์นั้นๆ มีแนวโน้มราคาที่จะสูงขึ้น

2. อย่าซื้อแพง

ของมันแน่อยู่แล้ว ไม่มีใครอยากได้ของแพงครับ ยิ่งในการลงทุนหากคุณได้ของที่ราคาถูกเท่าไหร่ ก็หมายถึงคุณจะได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นคงไม่เป็นการเสียเวลาที่จะค้นหาว่า อสังหาฯ ที่คุณถูกใจอยู่นั้นมีราคาประเมินเท่าใด และราคาซื้อขายควรเป็นเท่าใด ทรัพย์ที่คุณเจรจาอยู่ราคาสูงหรือต่ำกว่าความเป็นจริงหรือเปล่า ถ้าไม่รู้จะไปหาที่ไหน ติดตามที่ Baania สิครับ เรามีรายงานภาวการณ์ของตลาด หรือ Market Report ออกมาเป็นระยะอยู่แล้ว

3. อย่าเพิ่งเล่นใหญ่

คุณมาเพื่อลงทุน ก็หมายถึงคุณพร้อมที่จะปล่อยทรัพย์นั้นในเวลาและราคาที่เหมาะสม ฉะนั้นแล้วทรัพย์ของคุณก็ควรจะดูสมเหตุสมผลและโดนใจกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง คงมีน้อยคนนักที่จะมาซื้อหรือเช่าบ้านราคาเป็น 10 ล้านกับคุณ (แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้หรอกนะครับ) เราแค่บอกว่า กลุ่มลูกค้าของคุณจะมีจำนวนมากกว่าสำหรับบ้านหรือคอนโดราคา 3 ล้าน (ซึ่งเป็นระดับราคาที่คนมองหามากที่สุด) ทั้งนี้และทั้งนั้น เป้าหมายกำไรของคุณก็ควรจะเป็นตัวเลขที่เป็นไปได้ เช่น กำไรอาจจะไม่ต้องมาก แต่ก็กินได้นานๆ

4. เผื่อใจไว้เจ็บ

คุณอาจจะฝันถึงการทำกำไรจากบ้านที่เพิ่งได้มาในราคาไม่สูงนัก หรือให้เช่าคอนโดแล้วเก็บกินค่าเช่าไปเรื่อยๆ อย่างสบายๆ แต่เดี๋ยวก่อนครับ โลกแห่งความจริงอาจจะไม่ใจดีกับคุณขนาดนั้น เช็คสุขภาพให้ดีก่อนว่าคุณสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน มีสายป่านยาวแค่ไหน ยิ่งเป็นการผ่อนกับสถาบันการเงิน การไม่มีคนเช่าไม่ทำให้คุณพักการชำระหนี้ได้แต่อย่างใด คุณอาจจะต้องเผชิญสภาวะเลือดออกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อนลงทุน ลองคิดหาความเป็นได้ที่เลวร้ายที่สุดแล้วหาทางออกเผื่อไว้ครับ

5. รู้จักกระจายความเสี่ยง

มหาเศรษฐีอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว” พลาดพลั้งขึ้นมาไข่จะแตกเสียหายหมด ข้อนี้ใช้ได้กับการลงทุนทุกอย่าง คุณอาจจะเน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็จริง แต่อย่าลืมหยอดเงินส่วนหนึ่งไว้ในการลงทุนประเภทอื่นด้วย ด้วยความปรารถนาดีครับ

6. สร้างเครือข่าย

สังคมสมัยใหม่อย่าฝืนทำอะไรตามลำพังเลยครับ ยิ่งคุณมีเครือข่ายกว้างไกลขนาดไหน คุณก็อาจจะได้ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงบางสิ่งที่คาดไม่ถึงก็ได้ เช่น ข่าววงใน หรือสิทธิพิเศษนิดหน่อย แต่กระนั้นการสร้างเครือข่ายก็ต้องใช้เวลาและความสามารถเฉพาะบุคคลอยู่บ้าง และถ้าคุณผูกมิตรสำเร็จ ก็ติดต่อกันได้ยาว ๆ เลยครับ

7. อย่าลืมค่าซ่อมแซม

ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว หากคุณจะซื้อบ้านมือสอง (หรือสาม... หรือสี่) มาตกแต่งแล้วปล่อยเช่า หรือขายเสียใหม่ แต่คุณต้องคิดถึงสภาพของทรัพย์ด้วยว่าต้องซ่อมมากขนาดไหน คุ้มหรือเปล่ากับการลงมือตกแต่งเพื่อขายต่อ และค่าซ่อมทั้งหมดก็จะกลายมาเป็นทุนที่ลดส่วนกำไรของคุณลงไปอีก ฉะนั้นถ้าเจอทรัพย์ที่ทรุดโทรมมากก็ขอให้คิดอย่างถี่ถ้วนครับ

8. ทำเลที่ใช่ อะไรๆ ก็ง่าย

อสังหาริมทรัพย์นั้นเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ ฉะนั้นทำเลจึงกลายเป็นตัวตัดสินคุณค่าของทรัพย์นั้นไปโดยปริยาย นอกจากนี้หากคุณอ่านทำเลขาด มองออกว่ามีอะไรอยู่ในย่านนั้นบ้าง คุณก็พอจะคาดหวังการปล่อยเช่าหรือการขายต่อได้ไม่ยาก เช่น หากคุณซื้อคอนโดใกล้สถานศึกษา ผู้เช่าของคุณก็อาจจะเป็นนักศึกษา หรือบุคลากรในนั้น หากใกล้แหล่งงานใหญ่ ผู้เช่าก็คงทำงานในนั้นเช่นกัน พอคุณเห็นภาพของผู้เช่าแล้ว คุณก็พอจะรู้ว่าจะทำกำไรได้มากน้อยแค่ไหน

9. หาผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือ

จะเป็นอะไรไปหาคุณต้องให้นายหน้าหาผู้ซื้อหรือผู้เช่าให้ ก็ดีกว่าปล่อยให้เงินลงทุนจมอยู่แบบนั้น บรรดานายหน้าทั้งหลายเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการนี้อยู่แล้ว และพวกเขาก็จะช่วยให้คุณปล่อยขายหรือเช่าทรัพย์ที่คุณมีได้รวดเร็วขึ้น พร้อมกับค่าใช้จ่ายอีกเล็กน้อยตามที่ตกลงกัน ที่คุณต้องใส่ใจคือนายหน้าที่คุณใช้บริการต้องเชื่อถือได้ หากใช้เป็นรูปแบบบริษัทไปเลยก็รับประกันได้ในระดับหนึ่ง

10. อยากรวยใจต้องนิ่ง

การลงทุนเป็นเกมวัดใจอย่างหนึ่งครับ คุณต้องใจถึงพอที่จะปล่อยทรัพย์ในราคาที่เหมาะสม เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่านี่จะเป็นเกมระยะยาว การทำกำไรจากอสังหาอาจจะไม่ได้รวดเร็วนัก คุณอาจจะต้องรอให้ชุมชนพัฒนาสักหน่อยเพื่อให้ทรัพย์ของคุณมีราคาขึ้น และเมื่อถึงเวลาก็เจรจาด้วยความเยือกเย็นก่อนจะตัดสินใจอะไร

ทั้งหมดนี้คือเคล็ดบางส่วนที่คุณน่าจะพอทราบกันอยู่แล้ว แต่เมื่อกำลังคิดถึงผลตอบแทนก้อนโต ใครหลายคนก็อาจจะหลงลืมสิ่งเหล่านั้นไปชั่วคณะ เราจะเขียนประโยคต่อไปนี้ให้คุณอ่านอย่างช้าๆ “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” และเมื่อคุณตัดสินใจลงสู่สนามแล้ว อย่าลืมหยิบความรู้ ความอดทน และความมั่นใจ ติดตัวไปด้วย ... ส่วนใครที่มีพร้อมทุกอย่าง แล้วอยากเริ่มแต่ยังไม่รู้จะหาพันธมิตรการทางเงินที่ไหน เขามารอแนะนำคุณอยู่นานแล้ว

คลิ๊กเลยครับ