นาย ทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ร่วมกับชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ประชุมหารือ ในความพยายามที่จะบูรณะท่าเรือบั๊คกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หลังซบเซาลงเนื่องจากการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ในปี 2556
เบื้องต้น ได้มีการวางแผนจะปรับปรุงพื้นที่สาธารณะกว่า 19 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือบั๊ค สร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่เป็นศูนย์แสดงและจัดจำหน่ายสินค้า ตลาดนัดชายแดน สวนสาธารณะ ปรับปรุงท่าเรือบั๊คให้ได้มาตรฐานและสวยงาม โดยมีสะพานเชื่อมต่อหากัน ระหว่างท่าเรือบั๊คและพื้นที่แลนด์มาร์คเชียงของ รวมไปถึงการสร้างเส้นทางปั่นจักรยานริมน้ำโขงตั้งแต่ บ้านห้วยเม็ง-บ้านโจ้โก้ ซึ่งอาจเป็นเส้นทางปั่นจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีระยะทางยาวอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ที่ผ่านมาอำเภอเชียงของมีจุดด้อยในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งในตัวเมืองและสถานที่รอบนอก ประกอบกับการที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางข้ามฝั่งที่ท่าเรือบั๊ค แต่ต้องไปข้ามบริเวณสะพานมิตรภาพดังกล่าวแทน ส่งผลให้อำเภอเชียงของกลายเป็นเมืองทางผ่านเท่านั้น
ทั้งนี้ท่าเรือบั๊คถือว่าเป็นท่าเรือเก่าแก่ของอำเภอเชียงของ แต่สภาพปัจจุบันยังไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีการพัฒนาให้สวยงาม โดยตามแผนพัฒนาดังกล่าว จะเน้นการปรับปรุงให้ท่าเรือมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น และปรับภูมิทัศน์ด้วยการสร้างตลิ่งแม่น้ำโขง กับจุดจอดเรือข้ามฟากเพื่อให้เรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวได้ใช้บริการได้โดยสะดวก
โครงการทั้งหมดนี้จะมีจุดที่สอดคล้องกันคือเรื่องของ “ระเบียงริมโขง” หรือสะพานไม้ที่เชื่อมต่อกันระหว่างท่าเรือบั๊กและแลนด์มาร์ค ซึ่งจะมีความสวยงามและจะเป็นอีกจุดน่าสนใจในการท่องเที่ยวได้ต่อไป
โดยอำเภอเชียงของได้รับงบประมาณจากรัฐ ภายใต้แนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งมีโครงการตามแผนทั้งสิ้น 8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 280 ล้านบาท เพื่อพัฒนาอำเภอเชียงของในด้านการท่องเที่ยวและการค้าขายที่ยั่งยืน
โครงการทั้งหมดประกอบไปด้วย
จากการหารือกัน ชาวบ้านต่างมีความเห็นด้วยในการสร้างแลนด์มาร์คเชียงของให้เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้งจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น และชาวบ้านก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
อีกทั้งเมื่อเกิดการสร้างงานใหม่ คาดว่าชาวบ้านก็จะกลับมาทำงานในบ้านเกิดของตัวเองด้วย โดยนาย ทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ เชื่อว่าโครงการนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเชียงของไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนต่อปีเมื่อแล้วเสร็จ
ที่มาและภาพประกอบ
http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/612074
http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNRPT6007060010005
บทความแนะนำ