นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ เปิดเผยว่าอำเภอเชียงของได้จัดทำแอปพลิเคชัน “เชียงของดิจิทัลซิตี้” เพื่อให้เป็นมัคคุเทศก์แนะนำสถานที่สำคัญต่างๆ ใน อ.เชียงของ เนื่องจากที่ผ่านมาเชียงของเป็นเมืองผ่านของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว และประเทศจีนตอนใต้ จึงไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก ทั้งที่เชียงของมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายหลาย ทั้งด้านวัฒนธรรม เมืองโบราณ รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่มีเสน่ห์น่าสัมผัส
การสร้างแอปพลิเคชัน “เชียงของดิจิทัลซิตี้” เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ภายใต้โครงการประชารัฐ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้ได้นำ “ปลาบึก” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ อ.เชียงของ มาออกแบบเป็นตัวมาสคอต
วิวริมแม่น้ำโขง เชียงของ
ถนนคนเดินเชียงของ
สำหรับการทำงานของแอปพลิเคชัน เมื่อผ่านจุดที่มีสัญญาณบลูทูธ แอปพลิเคชันจะแสดงประวัติและความเป็นมาของสถานที่นั้นๆ ซึ่งมาสคอตแต่ละตัวจะแสดงประวัติและแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใน อ.เชียงของมากยิ่งขึ้น
การจัดทำเชียงของดิจิทัลซิตี้จะเป็นต้นแบบและจุดเริ่มต้นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงราย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้ให้ความสนใจ และในอนาคตจะต่อยอดเพื่อนำเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของอำเภออื่นๆ เช่น อ.เมือง, อ.เชียงแสน และอ.แม่สาย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาท้องถิ่นไปพร้อมๆ กัน
นายธนิสร กระฎุมพร ประธารคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่อำเภอเชียงของ กล่าวว่า “แอปพลิเคชันเชียงของดิจิทัลซิตี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่เพิ่มขึ้น และยังได้รับความสะดวกในด้านต่างๆ ทราบสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาโดยนำสถานที่สำคัญ เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงแรม และร้านอาหารเข้าไปด้วย ทำให้มีความสะดวกในการหาข้อมูล หลังจากเปิดใช้งานในช่วงแรก คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-15 รวมถึงจะทำให้มีการค้าการลงทุนในอ.เชียงของเพิ่มขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่
“แอปพลิเคชันเชียงของดิจิทัลซิตี้จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ฟื้นตัว เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การพัฒนาด้านที่พัก, ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็จะพัฒนาตาม เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น”
ภาพประกอบ: www.monlapinn.blogspot.com, www.thetrippacker.com
บทความแนะนำ