นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากมีการประชุม เรื่องมาตรการความปลอดภัยการใช้อาคารประกอบธุรกิจโรงแรม เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานการประกอบธุรกิจโรงแรมทั้ง 19 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมแล้ว 358 แห่ง 17,443 ห้อง
การดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านการดำเนินงานและการควบคุมมาตรฐานโรงแรม, พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมการประกอบธุรกิจโรงแรม และส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ที่เข้าพัก ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมและในการพักอาคารประเภทอื่นมาให้บริการที่พักแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนเป็นการทั่วไปมีลักษณะและโครงสร้างของอาคารที่มีอยู่เดิมไม่สอดคล้องกับอาคารที่จะนำมาประกอบธุรกิจโรงแรมตามที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารกำหนด และตามมาตรา 15 และมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547
กำหนดให้การประกอบธุรกิจให้บริการห้องพักที่เข้าข่ายเป็นโรงแรมจะต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนประกอบกับได้มีกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนที่ 72 ก วันที่ 19 สิงหาคม 2559
นอกจากนี้อาศัยอำนาจตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยจังหวัดเชียงใหม่กำหนดมาตราความปลอดภัยการใช้อาคารประกอบธุรกิจโรงแรม เพื่อให้หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบกำกับดูแลควบคุมการประกอบธุรกิจโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ตลอดจนฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม หรือผู้ที่จัดให้มีสระสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โดยถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งดำเนินการกับโรงแรม ที่ยังไม่ได้ขอใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรมตามที่กฎหมายได้กำหนดและโรงแรมที่มีความประสงค์แจ้งจดขออนุญาตการใช้ อาคารประกอบธุรกิจโรงแรม และอาคารที่มีปัญหาอุปสรรค พรบ. ควบคุมอาคารและผังเมืองเชียงใหม่