สำหรับบ้านพื้นที่น้อยเป็นเรื่องน่ารู้ หากพูดถึงอุปกรณ์ทำอาหารสำหรับห้องครัวการเลือกซื้อเตาอบ ถือเป็นหนึ่งในนั้นที่หลายบ้านนิยมเลือกใช้กันก็คือเตาอบ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมเป็นอย่างมากในการนำมาประกอบอาหาร และขนม เอาใจสายอาหารคาว และหวาน ให้ได้รสชาติที่อร่อย แถมฟังก์ชันการใช้งานก็มีให้เลือกใช้หลากหลาย
เริ่มต้นกันที่ขอนำทุกท่านมารู้จักกับประเภทของเตาอบแต่ละประเภท กับการใช้งาน และข้อดีข้อเสียต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เตาประเภทนี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนของด้านบนจะใช้สำหรับประกอบอาหาร และส่วนด้านล่างจะเป็นเตาอบ
เป็นเตาที่เน้นความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน
เตาที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะสามารถฝังเข้าไปในผนังเพื่อปกปิดรูปลักษณ์ ให้บ้านนั้นดูสวยงาม และทันสมัย
จะเห็นได้ว่าเตาอบทั้ง 3 ประเภทนั้น มีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไปตามลักษณะการใช้งานต่าง ๆ แต่สำหรับเตาอบบิวท์อินถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้มากทั้งที่สุด
การเลือกซื้อเตาอบนั้นถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ โดยท่านจะต้องพิจารณา และคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ Baania จึงขอนำ 8 วิธีที่ควรรู้ในการเลือกซื้อเตาอบมาฝากแก่ทุกท่าน
โดยควรพิจารณาจากการใช้งาน หากใช้งานไม่บ่อยนัก และบ้านพื้นที่น้อย ก็ควรเลือกขนาดให้เล็กพอเหมาะ ถ้ามีการใช้งานค่อนข้างบ่อย และมีการอบในปริมาณเยอะ ๆ แนะนำให้ซื้อขนาดใหญ่ เพื่อช่วยประหยัดเวลา
โดยดูว่าผลิตมาจากวัสดุชนิดใด สามารถทนความร้อน และรองรับน้ำหนักได้ดีหรือไม่ รวมถึงเมื่อมีการใช้งานจะเสี่ยงต่อการขึ้นสนิมหรือไม่
เตาอบที่ดีต้องสามารถควบคุม และปรับระดับอุณหภูมิได้ เพราะการอบแต่ประเภทแตกต่างกัน จะส่งผลต่อการกระจายความร้อนให้ไม่ไหม้ หรือสุกจนเกินไปตามเวลาที่กำหนดนั่นเอง
โปรดตรวจสอบระบบความปลอดภัย และการรองรับมาตรฐานคุณภาพด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานปลอดภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์ต้องมีใบรับประกันคุณภาพสินค้า
ต้องเหมาะสมกับคุณภาพของวัสดุที่เลือกใช้ ฟังก์ชันการทำงาน รวมถึงความจุในการใช้งานแต่ละครั้งต้องเหมาะสม และคุ้มค่าคุ้มราคา
เพราะหากสินค้ามีปัญหาจะสามารถส่งซ่อมได้ทันที ไม่ต้องรอนาน หรือไม่ต้องเรียกช่างจากภายนอกเข้ามาดูแล
เตาอบเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงาน ดังนั้น ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่แสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานเบอร์ 5 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้งาน
ผลิตภัณฑ์ต้องมาพร้อมกับคู่มือให้คำแนะนำการใช้งานเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจถึงรายละเอียดเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ หรือการแก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อเตามีข้อบกพร่อง หรืออาการผิดปกติ
ทั้ง 8 วิธีที่กล่าวมานี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ในการเลือก และตัดสินใจซื้อเตาอบสักเครื่องมาใช้งานภายในบ้าน เพื่อให้ตรงตามความต้องการ และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ต่อมาเป็นวิธีการเตรียมที่เพื่อติดตั้งก็มีด้วยกันทั้งหมด 5 วิธีง่าย ๆ ที่ท่านก็สามารถทำเองได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
ถือว่าการติดตั้งเตาอบไม่ได้ยุ่งยากเลย แต่ต้องอาศัยความชำนาญ จึงควรจ้างช่าง หรือผู้รับเหมามาดำเนินงานจะค่อนข้างดีกว่า เพื่อให้ได้งานที่ละเอียด มีคุณภาพ และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน
เมื่อเลือกซื้อและติดตั้งเตาอบพร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การดูแลรักษาเตาอบ ซึ่งมีทั้งหมด 4 วิธี ที่จะช่วยให้เตาอบอยู่คู่ครัวของคุณไปอีกยาวนาน และพร้อมใช้งานตลอดเวลา
1. การเผาเตาก่อนใช้งาน ก่อนนำไปใช้ครั้งถัดไป โดยการเปิดเครื่องทิ้งไว้ 1 - 2 ชั่วโมง ความร้อนช่วยในการขจัดคราบ และกลิ่น เมื่อครบแล้วให้ปิดเครื่อง เมื่อหายร้อนให้นำถาดไปทำความสะอาด
2. ทำความสะอาดภายในเตา สำหรับเตาที่เคลือบเทปลอน หรือสแตนเลส ให้นำมาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ด กรณีที่อาหารมีกลิ่นแรง ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำให้เจือจางชุบผ้าแล้วนำไปเช็ด สำหรับเตาที่ใช้เหล็กภายในให้แปรงปัดฝุ่นเพื่อทำความสะอาด
3. การทำความสะอาดฮีตเตอร์ กรณีมีคราบไขมัน หรือเศษขนมปังติดที่ฮีตเตอร์ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดตามขดลวด โดยห้ามใช้ของมีคมขูดเด็ดขาด
4. การดูแลภายนอก ภายนอกเตาอบ หรือพื้นที่ประกอบอาหารอาจจะมีเศษขนม หรืออาหารหล่นอยู่ ซึ่งนั่นจะทำให้หนู แมลงสาป หรือแมลงอื่น ๆ มากิน และกัดสายไฟ รวมถึงเข้าไปบริเวณภายในเตาทำให้ได้รับความเสียหายได้ ดังนั้น ควรมีการเช็ด และทำความสะอาดหลังจากใช้งานทุกครั้ง
เพียงแค่นำ 4 วิธีดูแลรักษาเตาอบมาประยุกต์ใช้ภายในครัวของคุณ ก็สามารถทำให้เตาอบนั้นสะอาดหมดจด ไร้กลิ่นคราบ ให้กังวลใจอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรกับบ้างกับการเลือกซื้อเตาอบแบบบิวท์อิน ไว้ใช้งานภายในห้องครัว ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ และการดีไซน์ที่ทันสมัยเอาใจสายตกแต่งบ้าน โดยมาพร้อมกับวิธีการติดตั้งที่ทั้งสามารถทำเองได้ หรือจ้างช่าง รวมถึงวิธีการดูแลรักษาเตาอบให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานคู่ครัวของคุณ