เปิดทำเลชิลล์เอ๊าท์ใหม่ By Mr.SAM

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 63 กันแล้วนะครับ ที่ผ่านมาผมได้พาทุกท่านไปเยี่ยมชมอสังหาริมทรัพย์มือสองทั้งประเภทที่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนธุรกิจตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ วันนี้มาส่งท้ายเดือนธันวาคมเลยขอเปิดกรุขุมทรัพย์มือสองขนาดใหญ่อย่างพวกโรงงาน โกดังหรือตึกที่มีโครงสร้างหลังคาสูงโปร่งโล่งที่สมัยนี้ผมเห็นนักลงทุนนิยมนำไปปรับปรุงให้เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่หรือชาวฮิปสเตอร์ที่แสวงหาโลเคชั่นสุดแนวไว้ยืนโพสต์ท่าหามุมถ่ายรูปชิคๆ เอาไปอวดเพื่อนในโซเชียล ผมเลยเห็นโอกาสในการหยิบอสังหามือสองเหล่านั้นมาเล่าเป็นแรงบันดาลให้กับคนที่กำลังอยากสร้างธุรกิจในตัวเอง มาดูกันครับว่ามีชิ้นไหนโดนใจจนต้องหยิบมาเล่าสู่กันฟังในครั้งนี้

โรงงานและโกดังบนถนนพระราม 2

ที่แรกเป็นโรงงานและโกดังเก็บสินค้าเก่าย่านที่พักอาศัย พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรมบนถนนพระราม 2 กลางเมืองสมุทรสาครนี่เอง ด้วยเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เห็นติดประกาศอยู่ที่ราคา 30 ล้านบาท ดูแววแล้วผมว่าน่าจะเหมาะกับการปรับปรุงเป็นแหล่งแฮงค์เอ๊าท์สุดชิลใกล้กรุงเทพฯ แห่งใหม่ หากมองด้วยสายคนวงใน ผมเห็นมีตึก 2 ชั้นที่สามารถเนรมิตเป็นอาร์ตแกลเลอรี่ได้สบาย ส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานโรงงาน 4 ชั้นอาจปรับเป็นร้านขายของสไตล์วินเทจที่ชวนให้นักท่องเที่ยวเคลิ้มไปกับบรรยากาศย้อนยุค และด้วยพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้ ยังอาจแบ่งบางโซนให้มีพื้นที่ทำงานแบบ Co-Working Space แถมมุมถ่ายภาพสวยๆ รวมไว้ให้นักท่องเที่ยวในที่เดียวกันก็น่าสนใจไปอีกแบบนะครับ ยังมีโครงสร้างที่เหมาะกับธุรกิจแนวนี้ยังอีก 2 ทำเลที่จังหวัดเชียงรายและปัตตานีที่อยากชวนไปชม

โกดังเก็บของที่เชียงราย

พูดถึงเชียงราย จังหวัดที่ไม่ได้พลุกพล่านเท่าเชียงใหม่แต่ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผมรู้สึกว่าเป็นเมืองที่ผสมผสานทั้งความเจริญ มนต์เสน่ห์ของศิลปะและวิถีชีวิตพื้นบ้านได้อย่างลงตัว ทำเลตรงนี้อาจเปลี่ยนให้เป็น Creative space หรือพื้นที่สร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ใจกลางเมืองของคนรุ่นใหม่มาใช้เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์แบบในต่างประเทศก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ผมเห็นว่ามีโกดังเก็บของขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ลักษณะอาคารเดิมเป็นสำนักงาน 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย 1 หลัง อาคารสำนักงานชั้นเดียว 1 หลัง และโกดังอีก 3 หลัง ที่อาจเปลี่ยนให้มีทั้งโซนคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่น การศึกษา รวมถึงลานกิจกรรม ราคาทำเลนี้อยู่ที่ 46 ล้านบาท

โกดังที่ปัตตานี 

ส่วนอีกตัวที่จังหวัดปัตตานี พูดถึงจังหวัดนี้ใครไม่ได้อยู่ในพื้นที่อาจนึกไม่ออกครับว่าบ้านเมืองที่นั่นเป็นอย่างไร จะทำธุรกิจอะไรได้ไหม ผมบอกได้คำเดียวว่าเป็นเมืองงามสามวัฒนธรรมดังคำขวัญของที่นี่เลยครับ สวยงามทั้งทางด้านวัฒนธรรม ศาสนา ภาษา และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย แต่สิ่งที่เมืองนี้ยังขาดอยู่ดูน่าจะเป็นคือแหล่งชิลล์เอ๊าท์หรือแลนด์มาร์คแบบที่ว่ามานี่เลยทำให้ผมเห็นโอกาสอยู่ตรงหน้า ยิ่งโกดังที่ผมดูนี้ภายในมี 20 กว่าอาคาร อยู่ใจกลางเมืองและวิวดีติดกับแม่น้ำปัตตานี อีกทั้งพื้นที่ที่กว้างกว่า 21 ไร่เศษที่สามารถสร้างเป็นแลนมาร์คใหม่ของจังหวัดได้สวยเลยครับ โดยอาจปรับให้เป็น Community Mall ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งลานสำหรับจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ร้านแฟชั่น มุมถ่ายภาพสุดชิค รวมทั้งคาเฟ่เก๋ๆ หรือร้านอาหารริมน้ำก็น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่น ผมได้ไอเดียจากสถาปนิกหลายคนที่บอกว่าที่นี่สามารถพลิกฟื้นโรงงานเก่าให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้  อาจสร้างหรือตกแต่งสถานที่ให้สะท้อนถึงความเป็นวัฒนธรรมของชาวใต้แต่แฝงความทันสมัย ความฮิปสเตอร์ ความอาร์ตที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายความวินเทจของภาคใต้เอาไว้ด้วย พูดถึงราคาบอกได้ว่าอยู่ที่ประมาณ 90 ล้านบาทครับ

โชว์รูมรถที่ขอนแก่น

ที่เลือกมาเล่าสู่กันฟังมาเป็นโกดังโรงงาน ยังมีอาคารประเภทโชว์รูมรถยนต์ที่น่าสนใจเพราะสามารถนำมาปรับเปลี่ยนเป็นแหล่งแฮงเอ๊าท์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เช่นกันครับ ผมกำลังพูดถึงภาคอีสาน เมืองใหญ่ทันสมัยและเป็นศูนย์กลางเทียบกรุงเทพฯ คงหนีไม่พ้นจังหวัดขอนแก่น ผมเห็นมีโชว์รูมแบบนี้กลางเมืองใกล้โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ดูเนื้อที่แล้วน่าจะประมาณ 1 ไร่เศษ ภายในยังมีอาคารสำนักงาน 6 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดินสูง หากปรับปรุงให้เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์หรือพื้นที่สร้างสรรค์  ห้องสมุด คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือจะเป็น Co-working space ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนห้างใหม่แถวๆ สามย่านที่คอนเซ็ปต์โดนใจและตอบโจทย์นักเรียน นิสิต-นักศึกษา โดยเฉพาะฟรีแลนซ์ คนรุ่นใหม่อาชีพอิสระ รวมทั้งนักท่องเที่ยวและคนทั่วไป ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ครบจบในที่เดียว สนนราคาประมาณ 70 ล้านบาท ใครสนใจก็อย่ารอช้านะครับเพราะทำเลใจกลางเมืองขนาดนี้ใครคว้าตัดหน้าไปเสียดายแย่

โชว์รูมรถขนาดใหญ่ริมถนนแสงชูโต จ. กาญจนบุรี 

เท่าที่เล่ามา หากใครยังไม่สนใจหรือชอบใจในศักยภาพของพื้นที่ทางภาคอื่นมากกว่า ผมแนะนำว่าลองขับรถไปทางตะวันตกประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าแถวๆ ท่ามะกา ผมเห็นมีโชว์รูมรถขนาดใหญ่และอาคารสำนักงาน 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย และโรงซ่อมบำรุง 1 ชั้นพร้อมชั้นลอยริมถนนแสงชูโต จ. กาญจนบุรี  ใกล้กับสี่แยกท่าเรือทางเข้าสู่ตัวเมืองกาญจน์ ที่นี่ยังมีมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของอารยธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงงดงาม กะด้วยสายตาคร่าว ๆ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ไร่เศษ ผมว่าอาจนำเอาไปปรับปรุงให้เป็นแหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่สุดฮิป และมีลานสำหรับมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ส่วนโรงซ่อมบำรุงปรับปรุงเป็นแหล่งรวมขายของฝากและสินค้าที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวหรือเป็นจุดพักระหว่างการเดินทาง เห็นติดราคาอยู่ที่ 25 ล้านกว่าๆ ครับ

ทั้งหมดที่ผมยกมาเล่าเป็นตัวอย่างโกดังและโชว์รูมรถให้สำหรับคนที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์มือสองไปปรับปรุงให้ธุรกิจต่าง ๆ น่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยและถ้าใครสนใจอยากเริ่มต้นปี 2564 ด้วยการลงทุนที่สร้างรายได้ในระยะยาว ลองเข้าไปดูที่ www.sam.or.th  มีทำเลที่น่าสนใจให้เลือกชมอีกมากมาย หรือโทรไปพูดคุยสอบถามเจ้าหน้าที่ดูครับที่ 02 686 1888 ได้เลยครับ สำหรับในปีหน้าผมจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมเมืองหรือชมอสังหาริมทรัพย์ประเภทไหน ที่ไหน ต้องคอยติดตามนะครับ เจอกันปีหน้าฟ้าใหม่ 2021 สำหรับปีนี้สวัสดีครับ