ทางนิตยสารโฮมบายเออร์ไกด์ เชียงใหม่ได้จัดสัมมนาประจำปีหัวข้อ “เล็กชนะใหญ่ได้ไง” ในเดือนกรกฎาคม 2556 เพราะสถานการณ์ตอนนั้นเริ่มมีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาบุกอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการในท้องถิ่นตื่นตระหนกจนทำให้ต้องเชิญคุณตัน อิชิตัน ที่ในเวลานั้นสามารถทำยอดขายอิชิตันบางช่วงเวลาชนะโออิชิที่เป็นเจ้าใหญ่ได้มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
แต่ข่าวล่าสุดเมื่อกลางเดือนมกราคม 2558 มีบริษัทในเครือผู้ประกอบการรายใหญ่ประกาศพับแผนการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอุดรธานี และอีกรายประกาศคืนเงินและยกเลิกโครงการที่พัทยา ทำให้เห็นว่าการแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ความเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวของความสำเร็จ ยังมีเรื่องของการรู้จักทำเล รู้จักผู้บริโภคในท้องถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะตามทำเลนั้นๆ รวมทั้งช่องทางการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สามารถนำสูตรสำเร็จจากส่วนกลางมาใช้ได้
คำพูดที่ว่า “เล็กชนะใหญ่ได้ไง” คงยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ รู้แต่ว่ารายเล็กจะอยู่ได้ยังไงเมื่อมีรายใหญ่เข้ามาแข่งขันในตลาด เพราะในธรรมชาติของโลกต้องประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่มีความหลากหลาย ทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและไม้คลุมดิน ทุกส่วนล้วนเป็นความจำเป็นซึ่งกันและกัน
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความหลากหลายของผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก จะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคมากที่สุด เพราะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับตัวเอง เพราะบ้านเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดสิ่งหนึ่งในชีวิต
จังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายต้องถือว่ามีผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีความแข็งแรง และมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาพัฒนาโครงการ ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกสรรโครงการที่เหมาะสมได้อย่างครบถ้วน นับเป็นโชคดีของชาวเชียงใหม่ เชียงราย และคงไม่ต้องถามว่า “เล็กชนะใหญ่ได้ไง” แต่ที่นี่ไม่ว่าเล็กว่าใหญ่ต่างอยู่ร่วมกันได้แน่นอนค่ะ
ภาพ โครงการรายใหญ่ รายเล็ก
ผู้เขียน : อัญชนา วัลลิภากร
มีประสบการณ์ในแวดวงสื่อด้านอสังหาริมทรัพย์มานาน
ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ (เชียงใหม่) จำกัด
อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยรังสิต และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย