แต่งสวนยังไงให้สวนสวยในบ้าน? ไปชมกันเลย

สวนนั้นเป็นการลงทุนระยะยาวในปรับปรุงพื้นที่ภายในหรือภายนอกบ้านให้ดูสวยงามน่ามอง หากใครไม่อยากไม่สิ้นเปลืองเงินไปกับค่าแรงหรือค่าก่อสร้าง เพียงนำ 11 วิธีแต่งสวนสวยอย่างถูกหลักและเข้าใจง่ายไปใช้ การแต่งสวนในแต่ละครั้งจะออกมาเหมือนมืออาชีพและแปลกใหม่ ป้องกันสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมเข้ามาในบ้าน และช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

1. งบหลักร้อย

การแต่งสวนโดยมีงบประมาณจำกัด ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในการแต่ง ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของจำเป็นต้องให้รายละเอียดอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดการณ์เอาไว้ของเจ้าบ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือ

• การวางแผน: จำเป็นอย่างมากว่าจะสวนตรงไหน ใช้พื้นที่เท่าไหร่ และเอาไว้ใช้ทำอะไร ถือเป็นการตั้งจุดประสงค์ให้กับเจ้าบ้าน คนในบ้าน หรือคนข้างบ้านที่เป็นมิตรมาใช้พื้นที่ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
• สำรวจ: เมื่อได้สวนที่ตรงใจแล้ว จำเป็นต้องค้นหาราคาของที่ใช้ต่อว่า คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไปหรือไม่ และควรตัดหรือเพิ่มอะไรเข้ามาบ้าง 
• ลงมือทำ: การร่วมแรงของคนในบ้านถือเป็นวิธีลดค่าใช้จ่ายอีกอย่างหนึ่ง ทั้งยังสร้างความสัมพันธ์อันดีแล้ว ยังได้สวนสวยอย่างที่หวัง

2. แนวตั้งความสวยไม่จำกัดพื้นที่

การจัดสวนแนวตั้ง (Tropical Garden) เป็นที่นิยมกับคนในเมืองเป็นอย่างมาก ด้วยพื้นที่อยู่อาศัยมีจำกัด และต้องการเพิ่มความสวยงามรอบ ๆ บ้าน โดย Wikipedia ให้ข้อมูลว่าแนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้นจาก แพทริก บลังค์ (Patrick Blanc) นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้เดินทางสำรวจพรรณไม้ในป่าเขตร้อนชื้น พบว่ามีพืชเกิดขึ้นเองบนโขดหินตามน้ำตก จึงเกิดแรงบันดาลใจให้เขาคิดค้นการจัดสวนแบบนี้ขึ้นมา ซึ่งการจัดสวนแนวตั้งจำเป็นต้อง

ดูจุดที่ใช้แต่งสวนก่อนว่าอยู่ทางทิศใดของบ้าน หากอยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือของบ้าน ควรเลือกพรรณไม้ที่สามารถรับแสงแดดช่วงครึ่งเช้าได้ดี หากอยู่ทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ของบ้าน ควรเลือกพรรณไม้ที่สามารถรับแสงแดดช่วงหลังบ่ายได้ดี 

สำหรับพรรณไม้ที่เหมาะสมต่อการนำมาวางสวนแนวตั้ง ไม่ควรใหญ่บังลม สามารถวางบนกระถางได้ หากถูกแดดบ่อยครั้งควรใช้พรรณไม้ที่ไม่มีดอกจะทนกว่า และหากมีร่มบางควรใช้ไม้ประดับในร่มทั่วไป ดินต้องมีความชื้นตลอดวัน 

ในการดูแลจะค่อนข้างยุ่งยากในเรื่องแมลง และสารอาหาร ควรซื้อโครงสร้างสำเร็จรูปมาติดตั้ง หรือผู้ให้บริการติดตั้งให้ เพราะจะมีระบบส่งน้ำเข้ามาช่วยให้ง่ายในการดูแล

3. สวนแขวน

เป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มความสวยงามให้กับการแต่งสวนแขวน จะเน้นให้ความสวยงามเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากกระถางนั้นอยู่ในระดับสายตา โดยมีการจัดอยู่ 2 รูปแบบคือ การจัดสวนแขวนแบบเดี่ยว โดยให้แต่ละกระถางเว้นระยะห่างจากกันพอสมควร นิยมนำไปไว้ตามระเบียง หน้าบ้าน หรือในบ้าน เพื่อเป็นจุดนำสายตา และการจัดสวนแขวนแบบหมู่ มักมีพื้นที่กว้าง ใช้เป็นมุมผ่อนคลาย และกิจกรรมต่าง ๆ

พรรณไม้ในการจัดสวนแขวนส่วนใหญ่มักจัดในทิศตะวันตก เพื่อให้รับแสงแดดไม่มากเกินไป ใช้ไม้เลื้อย ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้มีก้านที่มีขนาดเล็ก โดยมีพันธุ์หลายชนิดเพื่อสร้างสีสรรค์ให้กับพื้นที่  กระถางควรมีมากกว่า 1 รูปทรงในการบรรจุพรรณไม้ อาจใช้สีหรือวาดลวดลายลงไปด้วยให้มีจุดสนใจมากขึ้น

4. น้ำเสริมฮวงจุ้ย

น้ำเป็นสิ่งที่ประกอบกับบ้านมาตั้งแต่โบราณ เชื่อกันว่าบ้านหลังไหนมีน้ำไหลผ่านอยู่หน้าบ้านจะทำให้บ้านหลังนั้นนั้นร่ำรวย เพราะเป็นทางสัญจรในการค้าขาย ในหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่า น้ำคือเงินทองที่เข้าใจยากเพราะไม่มีทิศทางที่แน่นอน บางครั้งส่งผลดีให้กับบ้าน และบางครั้งส่งผลเสียให้กับบ้านเช่นกัน 

อาจารย์ มงคล มงคลประพฤติ อดีตคณะกรรมการฝ่ายบริหาร สมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ให้ข้อมูลว่า การเลือกน้ำที่ถูกต้องต้องให้มีลักษณะปกติของน้ำตามธรรมชาติ ไม่ไหลแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้การเงินเข้ามาไวและออกไว หากไหลลงเป็นชั้น ๆ คล้ายน้ำตกนั้นก็ทำให้การเงินติดขัด หรือถ้ามีกำแพงมากั้นก็จะทำให้ไม่ได้รับทรัพย์

รูปแบบที่เหมาะสมควรเป็นทรงกลม มีฐานรองด้านล่าง เช่น โอ่งน้ำล้นหรืออ่างน้ำล้น เป็นต้น ควรเลือกสีขาวหรือสีเทาจะดี และตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ ปากัวหรือทิศเหนือ หากสวนตั้งอยู่ทิศอื่นสามารถเลือกทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้แทนได้ กรณีอยู่ในตำแหน่งอื่นและไม่สามารถตั้งได้ ให้ตั้งตามจุดที่คนในบ้านเดินผ่านสะดวก ไม่ขวางทางเข้าประตู และติดดินเข้าไว้

 

5. สีสัน

อีกสิ่งสำคัญในการทำสวนนั่นคือทางเดิน เพื่อใช้ในการสัญจรระหว่างคนภายในบ้าน จัดระเบียบให้กับสวน และยังเพิ่มความสวยงามเวลาที่มอง ในการเลือกทางเดินไม่สามารถเจาะจงได้อย่างละเอียดเนื่องจากขึ้นอยู่กับแบบสวนที่ทำและความนิยมของเจ้าบ้าน โดยมีลักษณะหลักดังนี้

1. ทางเดินพื้นไม้: เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศยุคเก่า ธรรมชาติ พื้นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ไร้ซึ่งการปรุงแต่ง ในบ้านบางหลังอาจขัดเงาให้กับไม้แล้วนำมาทาสี เคลือบเงา ผสมกับหิน แผ่นกระเบื้อง หรือปูนคอนกรีต
2. ทางเดินหิน: จะเป็นการนำความร่วมสมัยเข้ามาประกอบให้บรรยายกาศยุคโมเดิร์น ความสมบูรณ์แบบและเป็นระเบียบ นิยมใช้หินกาบ หินคอบเบิล (Cobblestones) และหินฟรีฟอร์ม มักนำมาผสมกับหินกรวด หินลูกเต่า
3. ทางเดินหญ้า: มักใช้เป็นลานกลางแจ้ง สนามเด็กเล่น หรือลานกิจกรรมต่าง ๆ ให้บรรยากาศอิสระ มักนำไปผสมกับทางเดินไม้ และทางเดินหิน โดยการวางทางเดินห่างจากกันเล็กน้อยเพื่อให้หญ้าเข้าไปกั้นได้

6. พื้นเล่นระดับ

พื้นไล่ระดับ ถือเป็นการแต่งสวนอีกแบบหนึ่งที่นิยมมากในช่วง 2 ปีก่อน เนื่องจากเป็นการแบ่งพื้นที่ในการใช้สอยของสวนแล้ว ยังเหมาะต่อการชมธรรมชาติรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นที่ต่างระดับกันทำให้มองเห็นสภาพแวดล้อมในมุมมองที่ต่างกันออกไป

7. รั้วและระแนง

หากต้องการสิ่งบดบังแสง สภาพแวดล้อมรอบข้าง หรือเพิ่มพื้นที่ให้มีความสวยงามขึ้น รั้วและระแนงสามารถจัดการได้ โดยตัวรั้วที่ใช้ควรเลือกสีและโครงที่เข้ากับรูปแบบของบ้านก่อน ส่วนระแนงจำเป็นต้องดูตามพื้นที่บ้านว่ามีจุดใดเป็นปัญหา หากมีแสงมาก ระแนงสลับสี ระแนงเล่นระดับสามารถจัดการได้เป็นอย่างดี ถ้าต้องการตกแต่งสวนให้เน้นสีขาวเป็นหลักจะดีที่สุด ทั้งระแนงและรั้วนั้นมีขนาดที่ใหญ่ การซื้อในแต่ละครั้งจึงควรคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนเสมอ

8. ไฟ

สวนในหลาย ๆ บ้านมักติดไฟเพื่อใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทานข้าวนอกบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศรูปแบบใหม่ จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อมานั่งพักผ่อนดูสวนในอีกมุมมองหนึ่ง ในการติดไฟให้สวนนั้นมีจุดที่นิยมติดกันเป็นหลักคือ

• ทางเดิน: เนื่องจากสวนเมื่อเข้าช่วงกลางคืนแล้ว แสงจากดวงจันทร์ก็ไม่อาจส่องทางให้เดินได้อย่างปลอดภัย โดยไฟทางเดิน นิยมใช้โคมไฟเตี้ย หรือโคมไฟฝังพื้น เพราะไม่ส่องเข้าหาคนเดินให้ปวดตาและให้ทางที่ชัดเจนยามค่ำคืน
• ผนัง: เมื่อมีไฟนำทางให้เดินแล้ว ส่วนถัดมาก็คือจุดหมาย จะทำให้คนเดินในสวนยามกลางคืนสามารถคาดการณ์ระยะทางได้ว่าอยู่หว่างจากจุดหมายเท่าไหร่ นิยมใช้ไฟที่เป็นเส้นยาวสูงระดับสายตาเพื่อให้มองได้ไม่ลำบาก
• ต้นไม้: เป็นจุดทำกิจกรรม หรือมานั่งพักชมบรรยากาศที่แตกต่าง และอาจเป็นจุดนำสายตาของคนในบ้านได้เมื่อมีงานสังสรรค์ต่าง ๆ นิยมใช้ไฟส่อง เพื่อให้เห็นสีสันและการเคลื่อนไหวของต้นไม้ หรือตั้งไฟเสาสูงไว้กลางลานแจ้ง เพื่อกระจายแสงให้มากที่สุด และเป็นประติมากรรมในยามเช้าได้อีกด้วย

9. จุดอับ

การจัดสวน สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงในการจัดเป็นอย่างมากนั่นคือการทำความสะอาด หากสวนมีการจัดวางที่มากเกินไปจนทำให้มีมุมอับจะทำให้สภาพแวดล้อมตรงนั้นเป็นที่อยู่ของสัตว์เลื้อยคลานทั้งมีพิษและไม่มีพิษได้

วิธีการที่ง่ายที่สุดและไม่เปลืองเงินมาก คือการเว้นระยะห่างระหว่างต้นไม้ เรียงลำดับความสูงของต้นไม้ที่เป็นต้นเล็กให้มาวางข้างหน้าก่อน จะทำให้ต้นไม้ได้รับแสงแดดกันอย่างทั่วถึง ไม่เหี่ยวเฉาจนตายในที่สุด

อีกวิธีหนึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงของตกแต่งเพิ่มเติม เช่น กระบะที่มีขนาดใหญ่ช่วยทำให้มุมอับหมดไปได้ เพียงนำกระถางต้นไม้มารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ในกระบะ เพื่อความสวยงามควรเน้นพรรณไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งให้มากที่สุดแล้วค่อยนำต้นไม้อื่นมาเติมตามความเหมาะสม

10. สไตล์บ้าน

บ้านถือเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่งที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากอดีตเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมให้ปัจจุบัน จึงทำให้บ้านมีรูปแบบที่หลากหลาย และการจัดสวนมีความแปลกใหม่ตามเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศไปอีกด้วย โดยในไทยนิยมใช้แบบบ้าน ดังนี้

• บ้านแบบโมเดิร์น: ที่เน้นความร่วมสมัยของยุคใหม่ เหมาะกับสวนที่มีการตกแต่งน้อย หรือเรียบง่ายตามแบบฉบับอังกฤษ โทนสีจะเน้นไปในทางอ่อน
• บ้านแบบทรอปิคอล: เป็นอีกแบบบ้านที่มีความคล้ายกับบ้านไทยผสมรีสอร์ท มักมีสีสดใส การจัดสวนจึงเน้นไปกับการจัดระเบียบ และให้ร่มเงากับบ้านที่เป็นสีเขียวเป็นหลัก 
• บ้านทาวน์เฮ้าส์หรือทาวน์โฮม: พบได้มากในตัวเมือง เนื่องจากเป็นบ้านจัดสรรที่การออกแบบเหมือน ๆ กันซึ่งทำให้ราคาไม่สูง แต่มีข้อจำกัดของพื้นที่ จึงเหมาะกับสวนแขวน และตั้งไม้ประดับหน้าบ้านเล็กน้อย เพื่อให้มีที่พักผ่อนสายตามากขึ้น

11. สวนในร่ม

การแต่งสวนไม่ได้มีเพียงแค่แต่งนอกบ้านเท่านั้น ยังสามารถนำไปตกแต่งภายในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งการนำพรรณไม้ต่าง ๆ เข้าไปในบ้านถือเป็นการฝืนความเป็นธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องดูแลมากกว่าปกติ ต้นไม้ที่นำเข้าไป ควรเป็นต้นไม้ขนาดเล็กและมีความต้องการด้านแสงแดดคล้าย ๆ กัน นิยมนำกระถาง และถาดมาใส่ไว้ทุกต้นเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษา ต้นไม้บอนไซถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของบ้านในสวนที่กินพื้นที่น้อย และมีลูกเล่นหลากหลายจากการตกแต่ง รูปแบบการจัดสวน จะใช้การแต่งแบบแนวตั้ง และวางพื้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะในบ้านนั้นมีพื้นที่ใส่สอยจำกัด บางบ้านอาจมีการทำที่วางของต้นไม้เอาไว้อยู่แล้ว

จริงๆแล้วการแต่งสวนถือเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งในสังคมที่ช่วยให้ผู้คนรับรู้ว่ารสนิยมของเจ้าบ้านนั้นเป็นอย่างไร และยังทำให้บ้านที่ตกแต่งมีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น ซึ่งบ้านยังได้รับผลประโยชน์จากร่มเงาของสวนได้อีกด้วย