สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มา 14 ปี ถึงวันนี้ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด พร้อมที่จะอัพเลเวลเสริมความแข็งแกร่งด้วยการวางแผนขอจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในปี 2562 เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในช่วงเวลาอีกประมาณ 1 ปีนี้ กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ ต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน
"ช่วงเวลาที่ผ่านมามันพิสูจน์ว่าเราคือตัวจริงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และวันนี้เราอยากจะก้าวไปอีกขั้นด้วยการเสริมความแข็งแกร่งให้สามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตอบสนองกับผู้บริโภค ด้วยต้นทุนการเงินที่สามารถแข่งขันในการซื้อที่ดินที่เหมาะสมในการพัฒนาโครงการได้"
กรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ถ้าเราไม่มีทุนเพียงพอก็ไม่สามารถจะแข่งขันซื้อที่ดินในเมืองที่มีราคาแพงขึ้นได้ ต่อไปคงจะออกไปพัฒนาโครงการในย่านชานเมือง ขณะที่บริษัทเห็นว่า คอนโดมิเนียมในเมืองยังคงเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จึงต้องระดมทุน 1,000-2,000 ล้านบาท เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้สามารถแข่งขันในการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเมืองได้
โดยขณะนี้และ 3 ปีหลังเข้าตลาดจะยังคงโฟกัสไปที่การพัฒนาคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ก่อนที่จะขยายพอร์ตให้สมดุลทั้งในส่วนของการเพิ่มสัดส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ เพราะเป็นธุรกิจเริ่มต้นของบริษัทตั้งแต่ปี 2547 และธุรกิจที่เป็นการสร้างรายได้ระยะยาวที่มั่นคง (recurring income) เช่น อาจจะพัฒนา โรงแรม เป็นต้น
สำหรับแผนในปี 2561 กรมเชษฐ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่อีก 6 โครงการ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท มีทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยแนวราบ เน้นในทำเลใกล้เมืองที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน สถานศึกษา โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงสะพานใหม่ ซึ่งเป็นทำเลที่บริษัทพัฒนาโครงการอยู่แล้วหลายโครงการ และทำเลถนนรัชดาฯ-ลาดพร้าว ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพระราม 9 ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่
ในช่วงครึ่งปีแรกจะเปิดขายก่อน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ Brown ห้วยขวาง เป็นคอนโดแบบเฟรนช์สไตล์ อยู่ในทำเลศักยภาพย่านพระราม 9 ซึ่งเป็น CBD ใหม่ โครงการตั้งอยู่ใกล้สำนักงานเขตห้วยขวาง เนื้อที่ 1 ไร่เศษ เป็น low riseคอนโด จำนวน 202 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท จะเปิดพรีเซลส์ในวันที่ 24 ก.พ.นี้
โครงการ Glam ลาดพร้าว 71 เป็นลักชัวรี่ทาวน์โฮม จำนวน 18 ยูนิต ขายราคา 12 ล้านบาท โครงการ Atmoz คอนโดมิเนียม ในซอยลาดพร้าว 15 ภายใต้แนวคิด “Urban Refresh” เนื้อที่กว่า 3 ไร่ จำนวน 558 ยูนิต ขายราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท และจะปักหมุดในย่านฝั่งธนบุรีด้วยโครงการ Brown ศิริราช-อิสรภาพ ภายใต้แนวคิด Stylish Condo กับดีไซน์ Modern Vintage อยู่บนถนนพรานนกใกล้โรงพยาบาลศิริราช ขายในราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท
สำหรับในปี 2561 บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขาย 2561 อยู่ที่ 4,200 ล้านบาท เติบโตกว่า 25% จากยอดขาย 3,336 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ที่มียอดรับรู้รายได้เพียง 829 ล้านบาท และตั้งเป้าที่จะมียอดขายเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 20% โดยในปี 2562 มียอดขาย 5,100 ล้านบาท ปี 2563 ยอดขาย 6,200 ล้านบาท และปี 2564 มียอดขาย 7,500 ล้านบาท
กรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการขายของบริษัทจะมุ่งไปที่ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หรือเรียลดีมานด์ 80% ส่วนอีก 20% เป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุน โดยในแต่ละแบรนด์จะมีคาเร็กเตอร์เฉพาะของตัวเอง เช่น แบรนด์ Brown จะเป็นคอนโดในแนวลักชัวรี่วินเทจ ราคาอยู่ที่ 8 หมื่น-1 แสนบาทต่อตารางเมตร Modiz จะเป็นคอนโดในแนวโมเดิร์น ราคา 8 หมื่น-1 แสนบาทเช่นกัน
ส่วน Atmoz เป็นแบรนด์คอนโดที่พัฒนาหลายๆ อาคาร ราคาอยู่ที่ 7.5-9 หมื่นบาทต่อตารางเมตร แบรนด์ wynn จะเป็นคอนโด แนวอีโค ราคา 6.5-7.5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ส่วนแบรนด์ Kave จะเป็นคอนโด เจาะกลุ่มมหาวิทยาลัย ซึ่งในอนาคตมีแนวคิดที่จะมีการพัฒนาแบรนด์ที่เป็น high rise ด้วยเช่นกัน
"การที่บริษัทมีแบรนด์คอนโด อยู่หลายแบรนด์ เพราะมองว่า อสังหาฯ ส่วนหนึ่งก็เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามอารมณ์และช่วงเวลา จึงต้องไม่หยุดนิ่ง สามารถปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้และในอนาคตเราอาจจะมีแบรนด์ใหม่ที่เป็น high rise คอนโด เพราะว่าเรายังไม่เคยมี แต่สุดท้าย key success ของการทำธุรกิจอสังหาฯ คือ การให้บริการที่ดีตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงหลังการอยู่อาศัย" กรมเชษฐ์ กล่าว