โยธาฯ ผนึก สผ.วางแผน-พัฒนาเมือง รับมือภัยจากภูมิอากาศเปลี่ยน

กรมโยธาฯผนึกสผ.ร่วมวางแผนพัฒนาเมืองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นำร่องจังหวัดตรังออกแบบเมืองปลอดภัย พร้อมเร่งวางผังลุ่มน้ำทั่วประเทศกำหนดพื้นที่เสี่ยงในการอยู่อาศัย

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า กรมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) เพื่อสนับสนุนการวางแผนและพัฒนาเชิงพื้นที่ ตามแนวทางการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงจากภาวะเรือนกระจกทำให้ต้องร่วมกันวางแผน ออกแบบ ป้องกัน เมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน

"ในส่วนของกรมได้มีการวางผังลุ่มน้ำ 25 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ เมื่อจัดทำผังน้ำแล้วจะทำให้ทราบว่า เมื่อฝนตกทิศทางการไหลของน้ำในแต่ละพื้นที่จะไปทางไหน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการป้องการภัยพิบัติจากน้ำท่วม เช่น พื้นที่ไหนที่เป็นที่รับน้ำตามธรรมชาติ แม่น้ำ ลำคลองต่างๆ ถ้าตื้นเขินจะได้ทำการขุดลอก อะไรที่สร้างขึ้น เช่น ถนน สะพาน ทางรถไฟ ถ้ากีดขวางทางน้ำก็จะต้องแก้ไข เพื่อให้น้ำระบายได้สะดวก เป็นต้น โดยคาดว่าการจัดทำผังลุ่มน้ำทั่วประเทศน่าจะเสร็จภายในปี 2562"

นายมณฑล กล่าวอีกว่า เมื่อการจัดทำผังลุ่มน้ำทั้ง 25 ลุ่มน้ำทั่วประเทศเสร็จเรียบร้อย แต่ละจังหวัดจะผังน้ำของแต่ละจังหวัดทำให้รู้ว่าทุกพื้นที่ของประเทศไทยการไหลของน้ำจะเป็นอย่างไร มีอุปสรรคอย่างไร และจะมีความเสี่ยงต่อการเสียหายตรงพื้นที่ไหน เพื่อเอามากำหนดในการวางผังเมืองในทุกระดับ และผังเมืองรวมที่บังคับตามกฎหมาย เช่น การกำหนดพื้นที่โล่งเพื่อรับน้ำ การกำหนดพื้นที่เสี่ยงที่ไม่ควรอยู่อาศัย เป็นต้น ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ในการวางผังที่จะมีรายละเอียดที่มากขึ้น นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสาธารณูปโภค เช่น กรมทางหลวง การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังสามารถนำผังนี้ไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการก่อสร้างได้ด้วย

นอกจาก ภัยธรรมชาติจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกี่ยวกับน้ำแล้ว ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย อย่าง เช่น ภาคใต้ มักมีพายุ เกิดขึ้นบ่อย หรือภัยจากดินถล่ม ปัจจัยเหล่านี้จะนำมาพิจารณาในการวางแผนและพัฒนาในเชิงพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสผ. และกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ และความปลอดภัยทางปรมาณูแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (The German Federal Ministry for the Environment, Nature Conservation, and Nuclear Safety: BMU) ผ่านองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (German International Organization: GIZ) ในการเลือกพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ จังหวัดตรัง มาเป็นโครงการนำร่องในการออกแบบเมืองปลอดภัยจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และจะขยายไปในในภูมิภาคอื่นๆ ด้วยเช่นกัน 

"สำหรับความร่วมมือกับสผ.จะเป็นการผสานระหว่างองค์ความรู้ด้านการวางแผนและพัฒนาเชิงพื้นที่ กับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยมุ่งหวังที่จะร่วมมือกันพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการ และนำไปปฏิบัติให้เกิดผล ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในด้านการทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภูมิต้านทานและยั่งยืน และการปฏิบัติอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบ" นายมณฑลกล่าว

ด้านนางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สผ.กับกรมโยธาธิการและผังเมือง จะนำสังคมไปสู่การมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ก่อให้เกิดการบูรณาการประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับการวางแผนและพัฒนาเชิงพื้นที่ในทุกระดับ สู่การร่วมกันกำหนดนโยบาย แผนงาน เครื่องมือ และกลไกในการวางแผนและพัฒนาเชิงพื้นที่เหมาะสมต่อการปรับตัว และขับเคลื่อนให้เกิดการดาเนินงานในระดับพื้นที่อย่างแท้จริง ในช่วงระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้

Baania มี Line แล้วนะ
ติดตามเรื่องราวอสังหาริมทรัพย์แบบอินเทรนด์ ได้ทุกวันผ่าน Line ID @baania