ตลาดวัสดุ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ในรูปแบบของโมเดิร์น เทรดยังเติบอย่างไม่หยุดยั้งจากไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่เปลี่ยนมาซื้อหาวัสดุ อุปกรณ์ในโมเดิร์น เทรด มากขึ้น เพราะความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าที่มีครบไลน์ และบริการที่ตอบโจทย์ ทั้งการจัดส่ง ติดตั้ง ไปจนถึงหลังการขาย แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวลงไปบ้างจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่ก็ยังได้แรงหนุนของกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ที่ยังมีกำลังจับจ่ายช่วยประคับประคองให้พอรอดตัวมาได้ และเริ่มกลับสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
“ในปีนี้ธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ลูกค้าระดับกลางขึ้นไปก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมานัก โดยยอดขายในช่วง 2 เดือนแรกถือว่าดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และคาดว่าในไตรมาสแรกจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าบริษัทจะมีผลการดำเนินการที่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่สำหรับเมืองที่ยังต้องพึ่งพารายได้จากสินค้าเกษตรยังไม่ดีนีก เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่กระจายตัว ราคาสินค้าเกษตรยังต่ำ ทำให้การจับจ่ายยังไม่ดีขึ้น ไม่เหมือนกทม. ปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยว ” นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์วัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านรายใหญ่อย่าง ‘โฮมโปร’ ให้ความเห็น
ในส่วนของโฮมโปร แม้ว่าจะเริ่มมองเห็นสัญญาณบวก แต่ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่สูงไปกว่าปีที่ผ่านๆ มามากนัก โดยยังเป็นการวางเป้าหมายอย่างระมัดระวังในช่วงที่เศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัว โดยนายคุณวุฒิ กล่าวถึงเป้าหมายในปี 2561 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-7% จากปี 2560 ที่มีรายได้ 6.4 หมื่นล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่ 4,886 ล้านบาท โดยมีรายได้เติบโตจากปี 2559 ประมาณ 5% แต่กำไรเพิ่มขึ้นถึง 18% ซึ่งเป็นผลมาจากสัดส่วนการขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ดีขึ้น
สำหรับงบลงทุนจะใช้ประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาโฮมโปร เอส ซึ่งเป็นสาขาขนาดเล็กอีก 8 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และปรับปรุงสาขาอีก 4 แห่ง ส่วนในต่างประเทศ ปัจจุบันมีสาขาในมาเลเซีย 6 สาขา และมีที่ดินรองรับสำหรับการเปิดสาขาใหม่แล้ว แต่ยังไม่อยู่ในแผนของปีนี้
“ในปีนี้นอกจากการขยายและปรับปรุงสาขาที่มีอยู่แล้ว นโยบายหลักจะเน้นการทำตลาดในรูปแบบออมนิ ชานแนล โดยเชื่อมโยงทุกช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน อย่างเช่นคนที่ซื้อของออนไลน์ ก็สามารถมารับที่หน้าร้านได้ หรือคนที่มาซื้อที่ร้านก็สามารถซื้อในรูปแบบออนไลน์ได้”
ขณะที่การขายผ่านช่องทางออนไลน์ของโฮมโปรก็ยังมีสัดส่วนแค่เพียง 1% หรือประมาณ 600 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งกรรมการผู้จัดการ โฮมโปร มองว่า ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต และเชื่อว่า โฮมโปร จะมีไม้เด็ดออกมาให้เห็นอีกเป็นระยะ หลังจากล่าสุดได้ปล่อย แอพ โฮมเซอร์วิส มาให้บริการผู้บริโภคในยุค 4.0 กันไปแล้ว
นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไป สายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และกิจการพิเศษ ของโฮมโปร กล่าวเพิ่มเติมถึง Home Service Application ว่า โฮมโปรได้พัฒนารูปแบบการบริการ เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายและอุ่นใจ ให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Home Service Application แอปเดียวที่เหมือนมีช่างประจำบ้านจากโฮมโปร
สำหรับ Home Service Application จะใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารสำหรับการใช้บริการ Home Service ผ่าน Mobile App รองรับได้ทั้งระบบ IOS และ Android ครอบคลุมงานบริการมากกว่า 40 การบริการ อาทิ บริการล้าง และทำความสะอาดเครื่องใช้ภายในบ้าน บริการย้ายจุดติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ บริการปรับปรุงบ้าน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ อาทิ บริการแม่บ้านทำความสะอาด บริการขนย้าย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดวันและเวลานัดหมายการรับบริการได้ด้วยตนเอง แบบ Real-time และหากต้องการเลื่อนนัดการบริการก็ สามารถเลื่อนนัดหมายด้วยตนเองก่อนล่วงหน้า 1 วัน โดยระบบจะส่งรูปและชื่อของช่างให้ลูกค้าทราบ เพื่อความปลอดภัยจากการบริการ และหลังจากที่ได้รับบริการแล้ว ลูกค้าสามารถ ให้ rating & review แก่ช่าง เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น และในอนาคตอันใกล้ ลูกค้าจะสามารถเลือกช่างที่ชื่นชอบ กำหนดให้เป็นช่างประจำบ้านได้อีกด้วย
นางสาวสิริวรรณ กล่าวต่อว่า ลูกค้าผู้ใช้บริการ Home Service Application นอกจากจะหมดข้อกังวลเกี่ยวกับการติดต่อหาช่างยาก และไม่น่าเชื่อถือแล้ว ยังสะดวกสบายเพราะมีเครือข่ายให้บริการมากที่สุดถึง 81 สาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดครบทุกภูมิภาค ด้วยทีมช่างมีมากกว่า 1,000 ทีม ที่ผ่านการอบรมจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และมีอุปกรณ์ เครื่องมือในการทำงานที่ทันสมัย
เมื่อรายใหญ่อย่าง โฮมโปร เริ่มขยับมาลุยบริการในยุค 4.0 พร้อมกับการมุ่งใช้กลยุทธ์ออมนิ ชานแนล ในการสนองตอบความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ช่องทางแล้ว การแข่งขันในตลาดโมเดิร์น เทรด สินค้าวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ยุคดิจิทัล คงมีอะไรให้ดูชมกันอีกมากทีเดียว