การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในยุคที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะพาองค์กรผ่านไปให้ได้ เปิดกลยุทธ์ ไซมิส แอสเสท กับ แผนสร้างรายได้จากธุรกิจเช่าที่การันตีรายรับได้ดีกว่าขายในยุคที่ตลาดเต็มไปด้วยความผันผวน
จากทำโครงการเพื่อขาย จากนี้ บมจ. ไซมิส แอสเสท หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เริ่มมองถึงการเพิ่มพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในสัดส่วนที่มากกว่าเดิม
สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต
ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” ที่ใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจในช่วงปีที่ผ่านมา ในปีนี้ ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอทเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เตรียมเดินหน้าทำในเรื่องหลัก เริ่มตั้งแต่
1.มุ่งเน้นพัฒนาโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพในย่านใจกลางเมือง ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ (New CBD)
2.สร้างความแตกต่างของโครงการในแต่ละทำเล ด้วยการนำนวัตกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกมาใช้เพื่อสร้างจุดเด่นในแต่ละโครงการและยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี เป้าหมายตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อลงทุนในระยะยาว
3.การสร้างผลประกอบการ (Revenue) จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโต เฉลี่ยสะสม 3 ปีย้อนหลังที่ 62.2% และมีผลกำไรเติบโตโดยเฉลี่ยสะสม 3 ปีย้อนหลังมากกว่า 100% โดยในปี 2019 มีผลกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 512 ล้านบาท
กลยุทธ์ธุรกิจปี 2563
จากที่พัฒนาโครงการเพื่อขาย ในปีนี้ ไซมิส แอสเสท ขยายไลน์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ ก้าวสู่การเป็น Living’s Value Creator หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นสร้างคุณค่าให้กับทุกประสบการณ์การอยู่อาศัยและการลงทุน
อีกส่วน เตรียมเพิ่มธุรกิจด้านอาหาร (F&B) ด้านบริการพื้นที่ให้เช่า เช่น Cloud Kitchen ธุรกิจด้านบริการการเช่าได้แก่ Serviced Residence ที่จะเป็นช่องทางการเพิ่มความมั่นคงแก่รายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง
ขั้นกว่าบริการสร้างเงินได้
การเพิ่มมูลค่า Asset ของลูกค้าด้วยการปรับปรุงบริการหลังการขายจากคอนโดมิเนียมปกติเป็น Branded Residence โดยจะดำเนินการภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักคือ
1.พัฒนาห้องชุดแบบมีบริการเพื่อปล่อยเช่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของลูกค้า
การให้ความสำคัญกับการออกแบบและพัฒนาห้องชุดให้เหมาะกับการปล่อยเช่า (Serviced Residence) เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากค่าเช่า โดยมีแผนพัฒนาห้องชุดดังกล่าวในโครงการที่มีอยู่ในมือ เช่น The Collection, Siamese Exclusive 42, Siamese Exclusive Ratchada , Siamese Rama 9, Siamese Sukhumvit 87 และ Siamese Sukhumvit 48 ซึ่งจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการแก่ผู้เช่าเหมือนกับพักอาศัยในโรงแรม
2. การพัฒนาอาคารให้เช่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท
การเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งานในโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น โครงการที่เป็นโรงแรมหรือ Serviced Residence, พื้นที่เช่าเพื่อการพาณิชย์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำจากธุรกิจให้เช่า โดยจะเริ่มเข้าไปแผนพัฒนาอาคารในโครงการ The Collection, Siamese Exclusive 42, Siamese Exclusive Ratchada, Siamese Rama 9, Siamese Sukhumvit 48 และSiamese Sukhumvit 87 ที่เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส (Mixed-use)
3. พัฒนาและปรับปรุง (Renovate) อาคารเก่าเพื่อขายหรือให้เช่า
การเดินหน้าแผนเข้าลงทุนในอาคารที่ตั้งอยู่ในทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เช่น สีลม สุขุมวิท หรือหัวเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับเปลี่ยนประเภทการใช้งานอาคารเพื่อสร้างมูลค่าแก่โครงการ เพื่อสร้างรายได้จากการขายหรือให้เช่า ล่าสุดได้เข้าซื้อที่ดินและอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในซอยสุขุมวิท 39 เพื่อนำพัฒนาเป็นโรงแรมหรือ Serviced Residence
ปรับรายได้ “เช่า” เหนือ “ขาย”
ทิศทางของ ไซมิส แอสเสท จากนี้ไปโฟกัสให้กับการขยายไลน์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้จากค่าเช่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายกรรมสิทธิ์
“เตรียมขยายไลน์พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้โมเดลใหม่ Branded Residence เพื่อเพิ่มพอร์ตรายได้จากค่าเช่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ โครงการคอนโดมิเนียม โดยจับมือกับผู้บริหารเครือโรงแรมชั้นนำเพื่อให้บริการแบบครบวงจรในระดับ Luxury Service”
ปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ระหว่างเปิดขาย ( ข้อมูลถึง 31 ธันวาคม 2562) รวม 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 40,000 ล้านบาท เช่นโครงการ Siamese Rama 9 (Mixed-Use) และโครงการ Siamese Exclusive 31