‘นายณ์’ หาจุดยืน-ช่องว่าง ขยายตลาดวิลล่า-คอนโดฯหรูเขาใหญ่

หลัง"นายณ์เอสเตท" บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายกลางประกาศ จับมือ กับบิ๊กทุนข้ามชาติ ไมเนอร์กรุ๊ป อัดเม็ดเงินกว่า1หมื่นล้านบาท เช่าที่ดินระยะยาวค่ายสีบุญเรือง ปักธงบิ๊กโปรเจ็กต์ "มิกซ์ยูส" หัวมุมซอยคอนแวนต์ สีลม ประชัน กลุ่มเซ็นทรัล-ดุสิตธานีแล้ว ยังมีแผนเพิ่มทุนขยายธุรกิจเนื่อง"ฐานเศรษฐกิจ" ได้สัมภาษณ์พิเศษมุมคิด นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นายณ์เอสเตท จำกัด ถึงแผนธุรกิจดังนี้

แผนธุรกิจ
นายสุธี เล่าว่า นอกจากจับมือกับไมเนอร์กรู๊ปพัฒนาที่ดินทำเลทองหัวมุมซอยคอนแวนต์ สีลม พัฒนาโครงการ อาคารสำนักงาน โรงแรม รูปแบบมิกซ์ยูสระดับพรีเมียมแล้ว ยังขยายตลาดออกสู่ ต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ที่ อำเภอเขาใหญ่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พัฒนาโครงการบ้านพักตากอากาศ หรู ธามฮิลล์วิลเลจ และคอนโดมิเนียมลักษ์ชัวรี่ บนเนื้อที่ 40 ไร่ โดย ซื้อที่ดินส่วนหนึ่ง ต่อจาก นายปิยะ ภิรมย์ภักดิ์ ประธาน บริษัทพีบี พาร์ทเนอร์ส จำกัด จากที่ดินสะสม 800 ไร่ ที่นายปิยะ ได้นำออกมาพัฒนาโครงการภิรมย์แอทวินยาร์ด เขาอธิบายว่า การพัฒนา จะแยกคนละบริษัท อีกทั้งกลุ่มลูกค้าและรูปแบบที่ต่างกัน ไม่แข่งกันเอง แม้จะพัฒนาบนที่ดินผืนเดียวกันแต่สาธารณูปโภคในโครงการ ทั้งหมด 800 ไร่ บริษัท ได้ร่วมกับ ภิรมย์ ฯพัฒนาควบคู่กันไป เพื่อ ปลุกให้ เขาใหญ่มีชีวิตชีวาตลอดทั้งปีโดยเฉพาะคนวัยเกษียญ

พันธมิตรภิรมย์
ความร่วมมือกับภิรมย์ นายสุธีระบุว่า ได้รู้จักกับ นายปิยะ มานาน และได้ชวนมาลงทุน จึงตกลงใจทันที ซึ่งมั่นใจเพราะมีลูกค้าในมือ 90 % การทำตลาดเน้นดึงคนรู้จัก และ เชิญผู้สนใจเยี่ยมชมโครงการสร้างกิจกรรมต่างๆร่วมกัน กับ ภิรมย์ ฯ และแลกเปลี่ยนลูกค้าระหว่างกัน บางราย พอใจบ้านของภิรมย์ หรือ ลูกค้าของภิรมย์สนใจมาดู บ้านธามฯ ระยะแรก ลงทุน 40 ไร่ ก่อน หาก ได้รับการตอบรับที่ดี จะขยาย โครงการต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งตัวโปรดักด์ ไม่ซับซ้อนกัน ของภิรมย์ ราคา 30-50 ล้านบาท ขณะที่ ธาม คอนโดมิเนียม 5-10 ล้านบาทต่อหน่วย จำนวน 160 หน่วย วิลล่า 23-28 ล้านบาทต่อหน่วยจำนวน 37 หลัง โดยมีเป้าพัฒนา4 ปีนับจากนี้

ขณะเดียวกัน ยังสะท้อนว่าการแข่งขันที่เขาใหญ่ไม่รุนแรง เพราะปี2560 น่าจะเปิดตัวโครงการไม่มาก เพราะ ดีมานด์น้อย เศรษฐกิจชะลอ แต่ เชื่อว่าเป็นเพียงช่วงสั้นๆ และหากมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนก็ ไม่น่ากังวล
ขณะเดียวกัน ที่นี่ ยังมีมอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมผ่านในอนาคตที่จะเป็นตัวเร่งต่อการตัดสินใจลูกค้า
" เราเห็นศักยภาพ อยากได้อะไรที่ใกล้กรุงเทพ โอโซนดี ประกอบ บริษัทดูเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ มาลง รถไฟความเร็วสูง ท่จะเปิดให้บริการปี 2565 ทำให้ศักยภาพของที่ดิน ไม่สแตนอโลน ขณะเดียวกันแปลงที่ดิน ครบองศาธรรรมชาติแบบไม่แต่งเติม"

 โตต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทรับรู้รายยอดโอน ช่วง 3 ปี เฉลี่ยปีละ ประมาณ 1,800-1,900 ล้านบาท อัตราเติบโต 10% ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียน 1,500 ล้านบาท โดยปี 2560 มีแผนเพิ่มทุน 3,000 ล้านบาท หลังจาก บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 นายสุธี เล่าว่า ช่วง ปี2558-2559 บริษัทหาที่ดินและเปิดตัวโครงการจำนวนมาก และปีนี้ จะเน้น สร้างทีมที่มาดูแลโครงการหลังการขายซึ่งจะเน้นคุณภาพเป็นหลัก

ขณะเดียวกัน ปีนี้ยังไม่เปิดตัวโครงการใหม่ หากมีจะเป็นช่วงปลายปี แต่จะ เน้นซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในปีต่อๆไป ซึ่งปัจจุบัน มีทีม 40 คน ที่ดูแล 6-8โครงการซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ลักชัวรี่ที่งานเต็มมือดังนั้นต้องสร้างคนใหม่ๆรองรับโครงการใหม่อย่างไรก็ดีปีหน้า เน้นลงทุน ทั้งเรสชิเดนเชียว คอมเมอเชียว เออฟฟิศ และโรงแรม แต่โรงแรมต้องพิเศษจริงๆทำเลดี ต่างจาก ค่ายใหญ่โรงแรมเล็กๆที่อยู่ระหว่างออกแบบที่เกาะสมุย นอกจากนี้ได้ร่วมพัฒนาโครงการร่วม กับ นารายพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม 3โครงการ อาทิทำเลทองหล่อ สุขุมวิท ฯลฯ นอกจากนี้ปีนี้ยังเน้นซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาแนวราบ

 หาช่องว่างสู้บิ๊กเนม
สำหรับคอนโดมิเนียม ถือว่าเป็นการลงทุนในกลุ่มพิเศษ ไม่ต้องแพงมาก แต่ถ้าจะให้ขายได้ สู้กับค่ายใหญ่ จะต้องมีจุดยืน เป็นของตัวเอง เรามีความเป็นบูทีค คิดอะไร ต้องพิเศษ ๆ ซึ่งค่ายใหญ่ทั่วไป เน้นแค่สร้าง ห้อง ขนาด 35 ตารางเมตร ใกล้รถไฟฟ้า ขาย แต่ เรามองว่าไม่พิเศษ ต้องหาช่องว่าง สู้รายใหญ่ แม้ว่า จะเป็นบริษัทขนาดกลางก็ตาม เช่น ทำยูนิตขายไม่มาก เอากำไรน้อย แต่เน้นออกแบบใส่ใจรายละเอียด ไม่เร่งผลิตแบบรีบสร้างเร่งขาย เป็นแพทเทินเดียวกัน แต่เน้น ความต่าง หรูหรา จำนวนหน่วยไม่มาก เช่น ทำเลสุขุมวิท 26 แนวรถไฟฟ้า แต่ที่พิเศษคือ ทั้งซอยมีอุโมงค์ต้นไม้ร่มรื่น เงียบสงบ แม้อยู่ย่านกลางเมืองซึ่งทำเลอื่นมีแต่ป่าคอนกรีต แบบนี้ เอาชนะค่ายใหญ่ได้

ที่มา :  thansettakij