‘เอ็นริช’ เจาะตลาดบ้านหรูรับชีวิตวิถีใหม่

การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมคนซื้อบ้านเริ่มมีมุมมองที่เปลี่ยนไป เริ่มต้องการพื้นที่กว้างขึ้นมีระยะห่างให้กับสมาชิกในครอบครัว เทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องเริ่มปรับตัวสู่การทำงานวิถีใหม่ที่ต่างไปจากเดิม

• ปรับมุมมองการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19
• กำหนดมาตรฐานรับวิถี New Normal ตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี
• ตลาดบ้านหรู ซัพพลายในตลาดมีไม่มาก พบโอกาสปั้นยอดขายในเซ็กเม้นท์นี้

บ้านแพงคงเหลือไม่มากในระบบ

อลิวัสสา  พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะบริษัทตัวแทนขายโครงการว่า ตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรียังมีความ ต้องการสินค้าในตลาดสม่ำเสมอเพราะเป็นตลาดของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย อย่างแท้จริง  ยิ่งเป็นตลาดเป้าหมาย ในระดับบนซึ่งมีสินค้าในตลาดจำนวนไม่มาก ทั้งยังไม่มีสินค้าคงเหลือในทำเลใกล้เคียงกันในระดับที่น่ากังวลการ แข่งขันในตลาดจึงขึ้นอยู่กับความโดดเด่นของตัวสินค้าว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากแค่ไหน

ในมุมของนักการตลาดและการขายเชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านเดี่ยวได้รับการจับตามองมากขึ้นจากผู้บริโภคในช่วงเวลาต่อจากนี้ มาจาก วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากสถานการณ์โควิด-19 อีกส่วนมาจากปัจจัยด้านกำลังซื้อในกลุ่มลักซ์ชัวรียังมีความพร้อมในการใช้จ่าย

จุดขายใหม่ Space-Function-นวัตกรรม

สุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช  เปิดเผยว่า ตลาดบ้านเดี่ยวยังเป็นตลาดที่มีความต้องการแท้จริงอยู่มากโดยในภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยว ซึ่งมีหลายระดับราคาให้เลือก ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการใหม่ “The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์” ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2563

การตัดสินใจเปิดตัวโครงการใหม่บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสของ ผู้ประกอบการในการนำเสนอมาตรฐานการพัฒนาบ้านเดี่ยวสำหรับตลาดระดับบนในช่วงจังหวะที่พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค เปลี่ยนไปจากการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในที่พักอาศัยมากขึ้น

คอนเซ็ปต์ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป ในกลุ่ม บ้านเดี่ยวของกลุ่มบริษัทเอ็นริช พัฒนาภายใต้แนวคิด Guiding You to Practical Living การออกแบบเรื่องการใช้พื้นที่ และฟังก์ชัน สำหรับทุกคนในครอบครัว มีทั้งพื้นที่เพื่อการทำงานจากที่บ้าน (work  from home) พื้นที่สำหรับการเรียนออนไลน์ของนักเรียนนักศึกษา (Home-based learning) ซึ่งในทุกพื้นที่จะมี ระบบไอทีและอินเทอร์เน็ต นวัตกรรมช่วยลดการสัมผัสสิ่งของในบางพื้นที่ในบ้านโดยใช้ระบบเซ็นเซอร์ เช่น ห้องน้ำ  รวมทั้งการควบคุมระบบไฟ  เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นจากสมาร์ทโฟน รวมทั้งเทคโนโลยี ควบคุมอากาศหมุนเวียนภายในบ้านให้สะอาดโดยมีระบบขจัดมลพิษฝุ่น PM.2.5 และระบบกรองน้ำทันสมัย

คอนมาริ สไตล์

ด้วยวิถีใหม่ของการอยู่อาศัยเช่นนี้ทำให้บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี มุ่งเน้นตอบโจทย์ในเรื่องสำคัญคือ  Space & Function และนวัตกรรมบ้านพร้อมระบบไอทีมาตรฐาน โดยการออกแบบบ้านในโครงการ The MARQ Exquisite  มาจากการทำงานร่วมกันระหว่างตัวแทนที่ปรึกษา “คอนมาริ” ระดับมาสเตอร์  และบริษัท สถาปนิกไอดิน จำกัด ซึ่งมีสไตล์การออกแบบงานที่ทันสมัยสวยงามประณีต และมีความเป็นสากล 

ตัวอย่างความพิเศษในเรื่อง Space & Function ของโครงการเพื่อตอบรับพฤติกรรมใหม่มาจากการผสาน แนวคิดในการจัดระเบียบข้าวของภายในบ้านด้วยการประยุกต์แนวคิดสไตล์ “คอนมาริ” ของนักจัดบ้านระดับโลก ชาวญี่ปุ่น  “มาริเอะ คอนโดะ”  มาใช้ในการออกแบบร่วมกับงาน ตกแต่งด้วยความเชื่อในแนวคิดที่ว่าข้าวของเครื่องใช้ ทุกอย่างจะต้องมีที่อยู่ของตัวเองบ้านยุคใหม่จึงต้องเป็นบ้านที่ไม่มีวันรกแม้ว่าข้าวของเครื่องใช้หรือจำนวนสมาชิกใน ครอบครัวจะเพิ่มมากขึ้นก็ตาม

เจาะโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก

โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลเขตเมืองชั้นกลาง (Mid Town) ของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ตั้งอยู่บนถนนพรานนก-พุทธมณฑทลสาย 4เดินทางสะดวกเพราะใกล้จุดเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองหลายเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางราชพฤกษ์-สาทร ใช้เวลาเพียง 15   เข้าสู่ย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ  ทั้งใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอก  (จตุจักร-ฉิมพลี)  ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งเป็นสถานีร่วมรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ท่าพระ - เตาปูน) และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิท-สีลม)  และใกล้ที่สุดบนเส้นทางถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4  สู่สถานี  MRT สายสีน้ำเงิน (แยกไฟฉาย)

โดย The MARQ Exquisite ราชพฤกษ์ – จรัญสนิทวงศ์”  จะมีพื้นที่โครงการรวม 23 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ระดับลักซ์ชัวรี 3 ชั้นสไตล์โมเดิร์น จำนวน 65 หลัง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 600 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 29 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และเปิดให้เข้าเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างและจองบ้านได้ตั้งแต่ 6 มิถุนายน 2563

นอกจากการแนวโน้มที่กล่าวมา สถานการณ์โควิด-19 ยังได้ส่งผลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจซื้อบ้านในหลายมิติด้วยกัน ยังมีบทความที่สะท้อนเรื่องราวที่น่าสนใจของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ Baania