‘แพทโก้ กรุ๊ป’ รุกตลาดทาวน์โฮมโซนลาดพร้าว

แพทโก้ กรุ๊ป รุกตลาดโซนลาดพร้าวด้วยมูลค่าการลงทุน 850 ล้านบาทสำหรับทาวน์โฮมแห่งใหม่ที่ใช้แบรนด์​ “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93” 

• เจาะโอกาสการรุกตลาดตลาดทาวน์โฮมลาดพร้าว ตอนปลาย แหล่งอยู่อาศัยและการแข่งขันยังไม่สูง
• ระดับราคา 8-10 ล้านต่อยูนิตยังมีดีมานด์ และเป็นกลุ่มราคาที่แข่งขันได้
• ความท้าทายกับก้าวแรกการบุกตลาดในกรุงเทพฯ​

วิเคราะห์ตลาดโซนลาดพร้าว

ตลาดในกรุงเทพฯ เป็นสนามที่แข่งขันสูง มีความหลากหลายทั้ง คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมฯลฯ รวมถึงระดับราคาที่แตกต่างกัน  ซึ่งการตัดสินใจลงทุนเปิดโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกของแพทโก้ กรุ๊ป  จากเดิมที่ยึดหัวหาดบ้านหรูในภาคตะวันออกเป็นหลัก ภายใต้แบรนด์​วิจิตราธานี, เดอะ รอยัล สามมุข, และโครงการบ้านมารวย ซึ่งในปีนี้ แพทโก้ กรุ๊ป รุกตลาดโซนลาดพร้าวเป็นครั้งแรกภายใต้แบรนด์​ “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93”

ความน่าสนใจของตลาดโซนลาดพร้าว ผู้บริหารแพทโก้ กรุ๊ป มองไว้ในปัจจัยหลักๆ คือ โอกาสของการได้ที่แปลงใหญ่ บนพื้นที่ขนาด 8 ไร่ ซอยลาดพร้าว 93 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ (คลองจั่น) เขตวังทองหลาง (บางกะปิ) เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะพื้นที่ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะเป็นแปลงขนาดที่ไม่ใหญ่มากซึ่งไม่เหมาะกับการพัฒนาโครงการแนวราบ

บทวิเคราะห์จากที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาด บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มารร์เก็ตติ้ง จำกัด ระบุว่า โซนลาดพร้าวจะแบ่งออกเป็น 3 ทำเลหลักคือ ลาดพร้าวตอนต้น-รัชดา , เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา และลาดพร้าวตอนปลาย ซึ่งลาดพร้าว 93 จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งแต่ละช่วงทำเลที่กล่าวมาจะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันออกไป

เมื่อเจาะลึกถึงโปรดักท์และระดับราคาในพื้นที่โซนลาดพร้าวจะพบว่า โครงการแนวราบจำนวน มี 555 ยูนิต ในบริเวณลาดพร้าวตอนต้น-ตอนปลายและเลียบด่วนเอกมัย นาคนิวาส-เรียบด่วนรามอินทรา ในจำนวนดังกล่าว 75% เป็นโครงการระดับราคา 5 – 8 ล้านบาท  ,18% เป็นโครงการระดับราคา 8 – 10 ล้านบาท และอีก 7% เป็นโครงการระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป

ในด้านยอดขาย โครงการที่เปิดขายในกลุ่มราคา 8 – 10 ล้านบาท มียอดขายสูงสุด 97% จากอุปทานที่มีอยู่ สำหรับโครงการในช่วงราคา 5 – 8 ล้านบาท มียอดขาย 66% และโครงการระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มียอดขาย 46% โดยอัตราการขายรวมในตลาดอยู่ที่ 70%

ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ในด้านที่อยู่อาศัย  ต้องยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการพื้นที่ที่มากขึ้น เนื่องจากช่วง work from home ต้องมีการใช้พื้นที่เพื่อนั่งทำงานในบ้าน มีกิจกรรมอื่นๆ ทำภายในบ้าน ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ที่กว้างขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องการบ้านที่มีระดับราคาที่สมเหตุสมผลโดยเลือกทำเลการเดินทางสะดวกในแง่ของการใช้บริการรถสาธารณะเป็นปัจจัยสนับสนุนในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย   

แผนลงทุน &กลยุทธ์แนวราบ

ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป และ บริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท ในเครือ มองถึงภาพรวมในปีนี้ แพทโก้ กรุ๊ป ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ เป็นของบริษัทมารวย เรียลเอสเตท จำกัด 3 โครงการ, บริษัทแพทโก้ แพตตินัม จำกัด 2 โครงการ และบริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด  1 โครงการ 

ส่งผลให้แพทโก้ กรุ๊ปมีโครงการที่พัฒนาทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ครอบคลุมตลาดอสังหาฯ ทุกเซกเมนต์ เพื่อให้บริษัทขยายตัวโตอย่างต่อเนื่อง และลงทุนด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

ขณะเดียวกันได้กำหนดสัดส่วนการทำตลาดของ แพทโก้ กรุ๊ป ไปที่ 3 ตลาดหลักคือ กลุ่มระดับกลาง-ล่าง มูลค่าบ้านตั้งแต่ 2-3 ล้านบาท, กลุ่มระดับกลาง -บน มูลค่าบ้านตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท และกลุ่มพรีเมี่ยม มูลค่าบ้านตั้งแต่ 6-25 ล้านบาท โดยโครงการ ‘THER (เธอ) ลาดพร้าว 93 จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม

เจาะคนรุ่นใหม่มีกำลังซื้อ

สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2563 ในชื่อ “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93” โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง บนถนนลาดพร้าว บนพื้นที่ขนาด 8 ไร่ จำนวน 82 ยูนิต เปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 8.9 ล้านบาท โดยมีจุดขายที่เน้นคำว่า “บ้าน” ใน 7 หลักของ คือ TRUST ไว้วางใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย, CONFIDE พื้นที่โปร่งโล่ง สบายตา สบายใจ, SPACE พื้นที่ส่วนตัว เติมเต็มสไตล์ในแบบของตนเอง, ENCOURAGE พื้นที่สีเขียว รับลมและเติมเต็มพลังในแต่ละวัน, CARE ใส่ใจทุกความต้องการ, TIME ออกแบบพื้นที่ให้ใช้เวลากับคนที่คุณรัก และ MAKING THE FUTHER ต่อยอดอนาคต ด้วยพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์

ดร.นวณัฐ สุขะมงคล รองประธานกรรมการ แพทโก้ กรุ๊ป และ บริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด  บริษัทในเครือ  กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งเน้นตอบโจทย์กลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัวและขยายครอบครัว ที่กำลังมองหาบรรยากาศที่อยู่อาศัยยุคสมัยใหม่ ในความหมายที่แตกต่างจากอะไรเดิมๆ

 

ภายในโครงการมีบ้าน 3 รูปแบบ คือ GATHER ที่ดินเริ่มต้น 22.1 ตารางวา จำนวนห้อง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ, ALTOGETHER ที่ดินเริ่มต้น 24.2 ตารางวา จำนวนห้อง 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ FURTHER ที่ดินเริ่มต้น 28.5 ตารางวา จำนวนห้อง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

10% การันตีผลตอบแทน

แนวคิดและกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ผู้บริหารแพทโก้ กรุ๊ป ได้มีแนวคิดแบ่งการพัฒนาทั้ง 82 ยูนิตออกเป็น 5 เฟสด้วยกัน โดย 7 ยูนิต จัดสรรเพื่อสร้างโอกาสการขายจากกลุ่มนักลงทุนในรูปแบบของการการันตีผลตอบแทนที่ 10% ในระยะเวลา 18 เดือนที่เป็นระยะเวลาของการก่อสร้าง

ในกรณีนี้ได้มีการเงื่อนไขเอาไว้กำหนดสำหรับลูกค้าที่ซื้อเงินสดเป็นจำนวน  8.9 ล้าน โดยตลอดระยะเวลาของก่อสร้างแล้วเสร็จหากลูกค้าพร้อมโอนก็สามารถทำการโอนได้เลย แต่หากไม่โอนก็สามารถรับผลตอบแทนที่การันตีไว้ 10% พร้อมกับเงินต้น โดยแพกเก็จดังกล่าวลูกค้าสามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ 21 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป

แนวคิดดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าบางกลุ่มที่เป็นนักลงทุน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นที่ค่อนข้างผันผวน การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนจะเป็นอีกทางเลือกให้กับลูกค้าได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน

สำหรับผลประกอบการของ แพทโก้ กรุ๊ป ในปี 2562  มียอดขายที่เติบโตขึ้นจากปี 61 ประมาณ 10-15%